อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[ahlussunnah]

ข้อความ : ยกมาจากsunnahcyber.com หัวข้อ "ถาม ตอบ ทั่วไป 2"
ความว่า "เศาะหาบะฮฺ 10 ท่านที่ได้รับข่าวดีเรื่องสวรรค์มีใครบ้าง
ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านนบี ศ็อลฯ เคยแจ้งข่าวดีให้เศาะหาบะฮฺ10 ท่านทราบว่าพวกเขาจะได้เข้าสวนสวรรค์
บุคคลเหล่านี้ได้แก่ท่านอบูบักรฺ ท่านอุมัร ท่านอบูอุบัยดะฮฺ อิบนฺ ญัรฺเราะฮฺ ท่านสะอีด บินเซด ท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ ท่านอุษมาน อิบนฺ อัฟฟาน ท่านซุเบรฺบิน เอาวาม ท่านสะอัด บิน อะบีวักกอส ท่านอับดุรฺเราะหฺมาน บิน เอาฟฺ
และท่านฏอลฮะ บิน อุบัยดุลลอฮฺ อย่างไรก็ตามชาวชีอะฮฺปฏิเสธหะดีษดังกล่าวว่าเป็นหะดีษยกเมฆของพวกสุนนีย์"

ถ้าเป็นฮะดิษจริงขอเรียนถามว่า
1.ฮะดิษนี้ท่านนบี(อ)อธิบาย อายะฮ์ไหน ซูเราะฮ์อะไร มีซาบาบุนนุซุลอย่างไรบ้าง ท่านนบี(ศ) คงไม่คิดเองโดยพลการ เพราะสวรรค์เป็นสิทธิของอัลลอฮ์ท่านนบี(ศ)จะเที่ยวยกให้ใครมิได้ นอกจากจะมีวะฮ์ยูลงมา[/color]--------------

[ahlussunnah]

ตอบ
1.ทุกๆฮะดีษนบี(ซ.ล.)ไช่ว่าจะอธิบายทุกอายะฮ์ที่ประทานลงเสมอไป ท่านจงเข้าใจจุดนี้ก่อน เพราะบางครั้งท่านนบีกล่าวเพื่อจะอถาธิบายอัลกุรอ่าน และบางครั้งนบี(ซ.ล.)ฮาดิษตามวาระโอกาสและเหตุการณ์ แต่ที่สำคัญก็คือฮาดิษของท่านนบี(ซ.ล.)ต้องไม่ขัดกับอัลกุรอ่านต่างหากล่ะ และท่านนบีจะไม่กล่าวสิ่งใดที่ขัดแย้งกับอัลกุรอ่าน อัลเลาะห์(ซ.บ.)ตรัสรับรองไว้ว่า"บรรดาผู้ศรัทธาและอพยพ อีกทั้งต่อสู้ในวิถีทางของอัลเลาะห์ ทั้งด้วยทรัพย์สินและชีวิตของพวกเขาและย่อมมีฐานันดรอันยิ่งใหญ่ ณ. ที่อัลเลาะห์และพวกเขาเหล่านั้นย่อมประสบชัยชนะโดยแท้จริง องค์อภิบาลของพวกเขาทรงยังความปิติแก่พวกเขา ด้วย(การประทาน)ความเมตตาจากพระองค์ ความพึงพอพระทัยและบรรดาสวรรค์ให้แก่พวกเขาซึ่งในนั้นมีสิ่งอำนวยสุขอันจีรัง"(อัตเตาบะฮ์20-21) ดังนั้นอายะฮ์ดังกล่าวจึงไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่นบีได้กล่าวเอาไว้เลยแม้แต่น้อย เกี่ยวกับซอฮาบะฮ์10ท่านที่ท่านนบี(ซ.ล.)แจ้งข่าวดีโดยได้รับสวรรค์(ไม่ไช่ว่านบีเที่ยวไปยกสวรรค์ให้ใครแต่ท่านนบีเพียงแจ้งข่าวดีว่าจะได้รับสวรรค์ เพราะท่านนบีถูกส่งมาเพื่อเป็นผู้แจ้งข่าวดีและข่าวร้ายไม่ไช่หรือ??แล้วมายกเมฆว่านบี(ซ.ล.)เที่ยวไปยกสวรรค์ให้คนโน้นคนนี้ การที่ท่านนบีบอกว่าจะได้เข้าสวรรค์นั้นเป็นข่าวดีไหมครับ??และเมื่อการเข้าสวรรค์เป็นข่าวดีแล้วนบีจะบอกไม่ได้หรือครับ?)แล้วที่นบีบอกว่า ท่านหญิงฟาติมะฮ์(อ.)เป็นหัวหน้าตรีในสรวงสวรรค์ล่ะครับ ท่านฮาซันฮุเซ็นเป็นหัวหน้าชายหนุ่มในสวรรค์ละครับ ซอเฮี๊ยะห์ไหม?หรือว่าไม่ซอเฮี๊ญะห์เพราะสวรรค์เป็นสิทธิ์ของอัลเลาะห์ นบีจะคิดพลการไม่ได้และจะเที่ยวยกสวรรค์ให้ไครมิได้

[ahlussunnah]

2.บรรดาพวกเขาทำความดีอะไรจึงได้รับสวรรค์ โดยที่อัลลอฮ์ยังไม่ได้ตัดสิน และพวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่หลังจากรซูล(ศ) สามารถทำในสิ่งที่ฝ่าฝืนได้อีกมากมาย

[ahlussunnah]

ตอบ
2.ซุบฮานัลลอฮ์....พวกชีอะฮ์พูดมาจากความอัคติล้วนๆตะอัซซุบและอัซซุฟโดยแท้ ถามมาได้ว่าพวกเขาทำดีอะไร??โดยที่อัลเลาะห์ยังไม่ตัดสิน?? อัลเลาะห์ทรงตัดสินบ่าวของพระองค์ได้เรียบร้อยตั้งแต่อะซฺาลีย์โน้น ก่อนที่จะสร้างโลกนี้มาเสียอีก ไม่ไช่มาตัดสินตอนที่พวกเขาตาย(หรือว่าพวกชีอะฮ์จะกล่าวว่าอัลเลาะห์ทรงยังไม่รู้ว่าบ่าวเป็นอย่างไรจนกระทั้งพวกเขาตายและพระองค์ค่อยตัดสินหรืออย่างไร?ความจริงอัลเลาะห์ทรงรู้ตั้งแต่ฮะซฺะลีย์แล้วว่าใครเป็นอย่างไร?? พระองค์จึงตรัสรับรองไว้ในอัลกุรอ่าน แล้วชีอะฮ์ก็มาถามแบบตลกว่า บรรดาพวกเขาทำความดีอะไรถึงได้รับสวรรค์ ซุบฮานัลลอฮ์ ตาใจของพวกชีอะฮ์บอดสนิทจริงๆ ที่นบีได้แจ้งข่าวดีซอฮาบะฮ์10ท่านให้ได้รับสวรรค์นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขา เป็นผู้ศรัทธาในยุคแรกเริ่มของอิสลาม(คำๆนี้พวกชีอะฮ์คงไม่พอใจที่ผมกล่าวออกมา)ได้ทำการอพยพทำการต่อสู้เสียสละชีวิตและทรัพย์สินในสงครามอย่างแท้จริง ยิ่งท่านอบูบักรแล้วออกรบกับท่านนบีมากกว่าท่านอลีเสียอีก!!(ถ้าพวกชีอะฮ์ไม่เชื่อก็ตั้งกระทู้สนทนากับผมประเด็นนี้เลยก็ได้)ท่านอุษมานบริจากทรัพย์สินมากกว่าท่านอลีเสียอีก!!(ไม่เชื่อก็ตั้งกระทู้สนทนากับผมได้)ท่านอบูบักรอพยพพร้อมท่านนบีนั้นมีความลำบากกว่าท่านอลี(อะลัยฮิสลาม)อพยพมามะดีนะฮ์เสียอีก!!(ประเด็นนี้ก็ตั้งกระทู้สนทนากับผมได้เลย)สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นความดีของพวกเขาทั้งสิ้น แต่อยู่ดีๆมีพวกชีอะฮ์มาบอกว่ามันเป็นกระทำที่เหมือนขี้เถ้าที่ลมพัดมลายไปหมดสิ้น) บรรดาซอฮาบะฮ์ทั้ง10ไม่ไช่หรือ?ที่ท่านนบีได้ทำการสั่งสอนแลัวอยู่ดีๆก็มาตกมุรตัดกันหมดเหลือไม่กี่คน นี่แสดงว่าท่านนบีเป็นครูล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จละซิ ซอฮาบะฮ์มีเป็นแสน พอท่านนบีเสียชีวิตกลับตกมุรตัดกันหมดเหลือเพียงไม่กี่คน นี่สมมุติว่านบีเป็นครูในปัจจุบันน่ะ นบีคงไม่ผ่านการประเมิณเป็นแน่แท้ เพราะลูกศิษย์เป็นแสนสอบตกหมดเหลือแค่ไม่กี่คน วัลอิยาซุบิลลาห์
บรรดาซอฮาบะฮ์ทั้ง10ไม่ไช่หรือที่ท่านนบีร่วมกันปรึกษาหารือ? หรือว่าอัลเลาะห์ใช้ให้ท่านนบีปรึกษาและอยู่ร่วมกับคนมุนาฟิก
หรือว่าอัลเลาะห์ใช้ให้ท่านนบีแต่งงานกับลูกสาวมุนาฟิก ยกลูกสาวให้กับ(ท่านอุษมานอย่างที่พวกชีอะฮ์กล่าวว่าเป็น)มุนาฟิกตั้งสองคน(อย่าบอกน่ะว่านบีมีลูกสาวคนเดียว แน่จริงตั้งกระทู้มาสนทนากับผมได้)
มีด้วยหรือที่อัลเลาะห์ใช้ให้นบีรับทรัพย์บริจากจากพวกมุนาฟิก เช่นสงครามตะบูก ท่านอุษมานบริจากเงิน10000ดีนาร(เหรียญทอง)อูฐ300ตัว ม้า50ตัว ท่านอบูบักรบริจาก4000ดิรฮัมจนหมดตัวไม่เหลืออะไรให้ครอบครัวของท่านเพราะท่านเหลือแต่อัลเลาะห์และร่อซูลไว้ให้แก่ครอบครัวของท่านและท่านอื่นๆอีกเช่นท่านอุมัร อับบาส ฏอลฮะฮ์ อาซิมบินอะดีย์และบรรดาสตรี ไปดูได้ในเรื่องสงครามตะบูก นี่คือความดีที่พวกเขาทำตามทรรศนะของเราและเป็นความ......(คิดเอาเอง).........ในทรรศนะของชีอะฮ์
อัลเลาะห์ได้ใช้ท่านนบีให้อบูบักร(ซึ่งชีอะฮ์ว่าเป็นมุนาฟิก)ไปเป็นอมีรุลฮัจญ์ในปีที่เก้าหรือ??หรือว่าอัลเลาะห์รู้แล้วล่ะว่าต่อไปข้างหน้าอบูบักรจะตกมัรตัดเลยใช้ท่านนบีให้อบูบักรเป็นอมีรุลฮัจญ์ ใช้ให้ละหมาดช่วงท้ายที่ท่านนบีจะเสียชีวิต
หรือว่าอัลเลาะห์ได้ใช้ท่านนบีมอบธงอันยิ่งใหญ่ให้แก่อบูบักร(ที่ชีอะฮ์ว่าเป็นมุนาฟิก)ในสงครามตะบูกซึ่งเป็นสงครามสุดท้ายที่ท่านนบีออกรบด้วย(ประเด็นนี้น่านำมาสนทนาน่ะว่าทำไมนบีถึงมอบธงให้ท่านอบูบักรในสงครามตะบูกซึ่งเป็นสงครามสุดท้ายของท่านโดยให้ท่านอลีดูแลบรรดาคนชรา สตรีและเด็กๆที่อยู่ในนครมะดีนะฮ์ชั่วคราว)ดังนั้นอัลเลาะห์ได้ตัดสินพวกเขาในอัลกุรอ่านแล้วว่าพวกเขาจะได้รับสวรรค์ตามที่อัลกุรอ่านบอกไว้ว่าจะได้เข้าสวรรค์
แต่ชีอะฮ์มาบอกว่า "อัลเลาะห์ยังไม่ได้ตัดสินและพวกเขายังไม่ชีวิตอยู่หลังจากร่อซูล(ศ)สามารถที่ทำสิ่งฝ่าฝืนได้อีกมากมาย" ซุบฮานัลลอฮ์ น่าหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันจริงๆ ถามหน่อย ถ้าหากพวกเขาทำผิดเกิดขึ้น ประตูเตาบะฮ์ถูกปิดหรือและถูกปิดตั้งแต่เมื่อไหร่?? ตั้งแต่นบีเสียชีวิตหรืออย่างไรกัน?? มีแต่ประตูนรกอย่างเดียวหรือที่ให้กับซอฮาบะฮ์?? หรือว่าอัลเลาะห์ไม่ทรงรับการเตาบะฮ์เสียแล้ว?? อัลเลาะห์ มีนามอันวิจิตร ว่า"อัลฆ่อฟูร อัตเตาวาบ" ไม่ไช่หรือ??และพวกเขาไม่ไช่มะซูมนี่ครับ หรือว่าคนมะซูมอย่างเดียวเท่านั้นที่จะได้เข้าสวรรค์?? คนไม่ทำบาปในชีวิตเลยไช่ไหมที่จะได้เข้าสวรรค์? และบรรดาซอฮาบะฮ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง10ท่านที่เป็นมุฮาญิรีน(ชาวอันซอรก็ไม่ต้องน้อยใจ)ที่กล่าวมานั้น เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสไว้ว่า"โดยแท้จริง อัลเลาะห์ทรงรับการสารภาพผิดแล้วแก่ศาสดา แก่ชาวอพยพ(จากมักกะฮ์)แก่บรรดาชาว(มะดีนะฮ์ที่ให้การ)ช่วยเหลือ ซึ่งเป็นผู้ที่ติดตามเขา(มุฮัมมัด)ในยามวิกฤติ"(ซูเราะห์ เตาบะฮ์) อัลเลาะห์ได้รับการสารภาพผิดกับพวกเขาไว้ในอัลกุรอ่าน ผมอยากถามหน่อยว่า การรับสารภาพผิดของชาวมุฮาญิรีนและอันซอรขณะนั้น ชั่วคราวหรือว่าตลอดไป แต่ถ้าหากชีอะฮ์ตอบว่าชั่วคราวในสมัยนบีก็แสดงว่า อายะฮ์ดังกล่าวที่ถูกระบุไว้ในอัลกุรอ่านในปัจจุบันนี้ก็หมดความหมายไช่ไหม? และอัลเลาะฮ์ทรงตรัสอีกว่า"และทั้งหมด!!นั้น(คือผู้ที่ทำการบริจากเพื่อสงครามและออกรบซึ่งซอฮาบะฮ์ทั้ง10ท่านนี้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด) อัลเลาะห์ทรงสัญญากับ อัลฮุสนา(คือสรวงสวรรค์)และอัลเลาะห์ทรงรู้ตระหนักในสิ่งที่พวกสูเจ้าปฏิบัติ"(อัลฮะดีด อายะฮ์10) แล้วพวกชีอะฮ์มันจะไปตระหนักรู้ดีมากกว่าอัลเลาะห์ได้อย่างไร??ผมอยากถามหน่อยว่า อายะฮ์ที่อัลเลาะห์ทรงสัญญานี้ยังทรงความจริงอยู่ไหมในปัจจุบันนี้ หรือว่ามันไม่มีความหมายอะไรไปแล้ว

[ahlussunnah]

3.ฏอลฮะฮ์ บินอุบัยดุลลอฮ์ กับซุเบร อิบนิเอาวาม สองในสิบคนนี้ เป็นคนเดียวกับที่อยู่ในกองทัพอูฐของท่านหญิงอาอีชะฮ์ ที่จัดทัพมารบกับคอลีฟะตุลลอฮ์อลี(อ)หรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรกับที่ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า "โอ้อัลลอฮ์จงเป็นมิตรต่อคนที่เป็นมิตรกับเขา(อลี) และเป็นศัตรูกับคนที่เป็นศัตรูกับเขา(อลี)" แต่ปรากฏว่าซอฮาบะฮ์สองคนในฮะดิษเก๊นี้รบกับคอลีฟะฮ์อลี(ฮ) รบกับคอลีฟะฮ์ครับ นี่หรือชาวสวรรค์ หรือคำสอนของศาสดาให้รบกับคอลีฟะฮ์ก่อนจึงจะได้เข้าสวรรค์

[ahlussunnah]

ตอบ
พวกชีอะฮ์พูดอย่างนี้แสดงว่า ฏอลฮะฮ์กับซุบัยรฺตกนรกไช่ไหม เป็นกาเฟรด้วยไช่ไหมที่รบกับท่านอลี พวกเขาไม่เตาบะฮ์ไช่ไหม หรือว่าอัลเลาะห์ไม่อภัยให้แล้วสำหรับผู้ที่ทำการรบกับท่านอลี ขนาดผู้ที่ทำการรบกับท่านนบีอัลเลาะห์รับการเตาบะฮ์โดยพวกเขาเข้ารับอิสลาม แต่ใครที่รบกับท่านอลีแล้ว เป็นกาเฟรอย่างเดียว เหมือนกับว่าพวกชีอะฮ์โกรธแค้นฏอลฮะฮ์และซุบัยรฺโดยไม่ยอมให้เข้าสวรรค์ ถามหน่อย สวรรค์เป็นของพวกท่านหรือ ที่จะไปห้ามบรรดาซอฮาบะฮ์ไม่ให้สวรรค์ และนรกเป็นของพวกท่านหรือไง ที่ไปกล่าวว่าคนนั้นคนนี้ไม่ได้เข้าสรรค์ พวกท่านจงยึดอัลกุรอ่านเป็นหลักก่อนซิ ว่าอัลเลาะฮ์ได้กล่าวไว้ว่าอย่างไรจากอายะฮ์ที่ผมยกมา แล้วต่อมาท่านนบีได้กล่าวไว้อย่างไรเกี่ยวกับพวกเขาที่ผ่านมา และท่านอลีได้ไว้อย่างไรเกี่ยวพวกเขา ท่านอลีได้กล่าวไว้ในนะฮ์ญุลบะลาเฆาะห์ว่า"การเริ่มต้นเรื่องราวของเราก็คือ แท้จริงแล้วเราได้เผชิญหน้ากัน โดยกลุ่มชนนั้นมาจากชาม โดยที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า พระเจ้าของเรานั้นก็องค์เดียวกันและนบีเขาเรานั้นก็ท่านเดียวกันและการเรียกร้องสู่อิสลามของเรานั้นก็อันเดียวกัน และเราไม่ได้ขอเพิ่มกับพวกเขาในเรื่องการศรัทธา(เพราะพวกเขาเป็นผู้ศรัทธาอยู่แล้ว)ในอัลเลาะฮ์และร่อซูลและพวกเขาก็ไม่ได้ขอเพิ่มการศรัทธาต่อพวกเรา คือเรื่อง(ที่เกิดขึ้น)นั้นมีประการเดียว คือ สิ่งที่เราได้ขัดแย้งกันในเรื่องเลือดของอุสมานและเราก็บริสุทธิ์ของจากมัน) ( ดู นะฮ์ญุลบะลาเฆาะห์ หน้า364) ดูเหมือนว่าพวกชีอะฮ์มันจะไม่ตามใครเลย ไม่ไช่จะเป็นอัลกุรอ่าน ฮาดิษ คำกล่าวท่านอลี

[ahlussunnah]

4.ท่านอบูตอลิบ ผู้เป็นลุงของท่านนบี(ศ) เลี้ยงดูท่านนบี(ศ)มาด้วยความรัก ทะนุถนอม ปกป้องคุ้มภัยให้ท่านนบี(ศ) ตั้งแต่เยาวัย จนกระทั่งหนุ่ม แต่งงาน ประกาศศาสนา จนกระทั่งวาระสุดท้ายที่ถูกบอยคอต ในหุบเขา แม้แต่หุบเขาที่ว่านี้ยังชื่อหุบเขาอบูตอลิบ ท่านอยู่ร่วมกับศาสดาด้วยความรักที่มีต่อศาสดาและด้วยความอดทน แต่ต่อมาท่านก็ได้รับตำแหน่ง "กาเฟร" จากบรรดามุสลิมเองที่เชื่อรายงานของอบูฮุรอยเราะห์ที่เข้ารับอิสลามหลังจากท่านอบูตอลิบจากไปถึง 10 ปี ทำไมคนอย่างอบูตอลิบกลับไม่ได้รับข่าวดีเช่น ตอลฮะฮ์และซุเบร ที่รบกับคอลีฟะฮ์บ้าง

[ahlussunnah]

ตอบ
คำถามประเด็นเกี่ยวกับอบูฏอลิบนี้ผมไม่อยากตอบเลย แต่ผมอยากจะตอบสั้นๆว่า จะว่าใครก็ดูตัวเองซะก่อน จากตัสซีรกุมมีย์ กล่าวว่า"คำดำรัสของอัลเลาะห์อันมีความว่า"แท้จริงเจ้า(มุฮัมมัด)ไม่สามารถชี้นำผู้ที่เจ้ารักได้หรอก"(กอศอศ อายะฮ์56) กุมมีย์กล่าวว่า อายะฮ์นี้ประทานให้กับอบีฏอลีบ.....(ดูตัฟซีรกุมมีย์ เล่ม2หน้า142) และดูหนังสือการอถาธิบาย ซูเราะห์ กอศอศ อายะฮ์ที่56 ในตัฟซีร(อัลบุรฮาน เล่ม3หน้า 230) ฟัฏลุลลอฮ์ อัรรอวันดีย์ซึ่งเป็นอุลามะอฺชีอะฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ นะวาดิร อัรร่อวันดีย์ หน้า10 ว่า"ร่อซูลลุลลอฮ์ (ซัลลัลฮุอะลัยฮิวะอาลิวะซัลลัม)กล่าวว่า"ผู้ที่การลงโทษเบาที่สุดจากไฟนรกคือน้าของฉัน........" ได้ถูกรายงานจากท่านนบีเช่นกันว่า"ได้ถูกกล่าวแก่ท่านนบีว่า ถ้าหากท่านได้ขออภัยให้แก่บิดามารดาของท่านล่ะ ท่านนบีกล่าวตอบว่า ถ้าหากฉันสามารถขออภัยโทษให้กับบิดามารดาของฉันได้แล้ว ฉันก็จะขออภัยให้กับอบีฏอลิบเพราะว่าเขาได้ปฏิบัติต่อฉันอย่างที่บิดาและมารดาไม่เคยปฏิบัติกับฉันมาก่อน และแท้จริง อับดุลเลาะห์ อะมีนะฮ์และอบีฏอลิบได้อยู่ในห้องหนึ่งจากนรกญะฮันนัม"(ดู บิฮารุลอันวาร เล่ม35 หน้า155)