asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Mar 04, 2014 5:40 pm ชื่อกระทู้: เมื่อความจริงพูดไม่ได้แล้วศาสนาจะเหลืออะไร |
|
|
เมื่อความจริงพูดไม่ได้แล้วศาสนาจะเหลืออะไร
ปัจจุบัน ใครพูดความจริง พูดและเผยแพร่ศาสนาตามความจริง ที่ปรากฏในคำสอนที่ระบุในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ กลับถูกกล่าวหาว่าสร้างความแตกแยก และสุดโต่ง และใครพูดตรงไปตรงมาตามความเป็นจริงตามที่ศาสนาสอนไว้ และกระทบต่อความรู้สึกและการกระทำของคนหมู่มาก ก็จะถูกกล่าวหาว่า ไม่สมานฉันท์ จนในที่สุดทียืนของคนพูดจริง และพูดความจริง กำลังเหลือน้อยเต็มที่
ความจริงการเผยแพร่ศาสนานั้น จะต้อง ทำสองด้านควบคู่กันคือ
หนึ่ง - เรียกร้องไปสู่ความดี หรือความถูกต้อง
สอง - ห้ามปรามจากสิ่งที่ไม่ดี หรือเป็นความชั่ว ความไม่ถูกต้อง
ดำรัสของอัลลอห์ ตะอาลา ว่า
وَلْتَكُنْ مِنْكُمْ أُمَّةٌ يَدْعُونَ إِلَى الْخَيْرِ وَيَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَأُولَئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ
ความว่า และจงให้มีขึ้นจากพวกเจ้า ซึ่งคณะหนึ่งที่จะเชิญชวนไปสู่ความดี และใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้กระทำสิ่งที่มิชอบ และชนเหล่านั้นแหละพวกเขาคือผู้ได้รับความสำเร็จ- (ซูเราะห์ อาละอิมรอน อายะห์ 104)
อิบนุญะรีร อัฏฏอ็บรีย์ ปราชญ์ตัฟสีรชาวสะลัฟอธิบายว่า
وَلْتَكُنْ مِنْكُمْ " أَيُّهَا الْمُؤْمِنُونَ "أُمَّةٌ " ، يَقُولُ : جَمَاعَةٌ "يَدْعُونَ " النَّاسَ " إِلَى الْخَيْرِ " ، يَعْنِي إِلَى الْإِسْلَامِ وَشَرَائِعِهِ الَّتِي شَرَعَهَا اللَّهُ لِعِبَادِهِ " وَيَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ " ، يَقُولُ : يَأْمُرُونَ النَّاسَ بِاتِّبَاعِ مُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَدِينِهِ الَّذِي جَاءَ بِهِ مِنْ عِنْدِ اللَّهِ " وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ " ، : يَعْنِي وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْكُفْرِ بِاللَّهِ وَالتَّكْذِيبِ بِمُحَمَّدٍ وَبِمَا جَاءَ بِهِ مِنْ عِنْدِ اللَّهِ ، بِجِهَادِهِمْ بِالْأَيْدِي وَالْجَوَارِحِ ، حَتَّى يَنْقَادُوا لَكُمْ بِالطَّاعَةِ .
จงให้มีขึ้นจากพวกเจ้า โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย อุมมะฮหนึ่ง หมายถึง คณะหนึ่ง ที่พวกเขาเชิญชวนมนุษย์ ไปสู่ความดี หมายถึง ไปสู่ อัลอิสลาม และบทบัญญัติ แห่งอัลอิสลาม ที่อัลลอฮ ทรงบัญญัติแก่บรรดาบ่าวของพระองค์ (และใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ) หมายถึง ใช้มนุษย์ปฏิบัติตามมุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และศาสนาของเขา ที่เขาได้นำมันมาจากอัลลอฮ (และห้ามมิให้กระทำสิ่งที่มิชอบ) หมายถึง ห้ามจากการปฏิเสธต่ออัลลอฮ ,การปฏิเสธต่อมุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และสิ่งที่เขาได้นำมันมาจากอัลลอฮ ด้วยการต่อสู้กับพวกเขาด้วย มือ และอวัยวะ จนกว่าพวกเขาจะเชื่อฟังต่อพวกเจ้า ด้วยการภักดี (ปฏิบัติตาม) ดู ตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ เล่ม 7 หน้า 91
อิบนุกะษีร ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน กล่าวว่า
وَقَالَ أَبُو جَعْفَرٍ الْبَاقِرُ : قَرَأَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : ( وَلْتَكُنْ مِنْكُمْ أُمَّةٌ يَدْعُونَ إِلَى الْخَيْرِ ) ثُمَّ قَالَ : " الْخَيْرُ اتِّبَاعُ الْقُرْآنِ وَسُنَّتِي " رَوَاهُ ابْنُ مَرْدَوَيْهِ
และ อบูญะอฺฟัร อัลบากีร กล่าวว่า รซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้อ่านอายะฮ(และจงให้มีขึ้นจากพวกเจ้า ซึ่งคณะหนึ่งที่จะเชิญชวนไปสู่ความดี) ต่อมาท่านนบีกล่าวว่า ความดีคือ การตามอัลกุรอ่านและสุนนะฮ ของฉัน รายงานโดย อิบนุมัรดะวียะฮ ดู ตัฟสีร อิบนุกะษีร เล่ม 2 หน้า 109
การที่เราเห็นพี่น้องมุสลิมทำไม่ถูกต้อง แต่ไม่ยอมอธิบายชี้แจง โดยให้เหตุผลว่ายังไม่ถึงเวลา หรือ เกรงว่าจะสร้างความไม่พอใจประชาชนและเป็นการแตกแยกในสังคมนั้น ย่อมไม่ถูกต้อง
อัลอะมะดีย์ กล่าวว่า
تأخير البيان عن وقت الحاجة، وهو غير جائز بالاجماع،
การประวิงเวลาของการอธิบาย ในเวลาที่มีความจำเป็นนั้น มันไม่อนุญาต ด้วมมติเอกฉันท์
- ดู อัลอะหกาม เล่ม 1 หน้า 289
ตะกียุดดีน อบุลบะกออฺ อัลฟะตูฮีย์ กล่าวว่า
وَلَا يُؤَخَّرُ ) أَيْ لَا يَجُوزُ تَأْخِيرُ الْبَيَانِ ( عَنْ وَقْتِ الْحَاجَةِ ) وَصُورَتُهُ : أَنْ يَقُولَ " صَلُّوا غَدًا " ثُمَّ لَا يُبَيِّنُ لَهُمْ فِي غَدٍ كَيْفَ يُصَلُّونَ وَنَحْوُ ذَلِكَ
(และไม่อนุญาต) หมายถึง ไม่อนุญาตให้ประวิงเวลาอธิบาย (ในเวลาที่มีความจำเป็น) และรูปแบบของมัน เช่น เขากล่าวว่า พรุ่งนี้พวกท่านจงละหมาด ต่อมาเขาไม่ได้อธิบายแก่พวกนั้นว่า พรุ่งนี้พวกนั้นจะละหมาดอย่างไร
เป็นต้น - ดู ชัรหอัลเกากะบิลมุนีร เล่ม 2 หน้า 440
หรือจะบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะอธิบายและพูดความจริง ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วศาสนาจะเหลืออะไร
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|