ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Tue Feb 18, 2014 7:42 pm ชื่อกระทู้: นบีละหมาดที่เบตเลเฮ็มจริงหรือ |
|
|
อยากทราบว่าท่านอิบนุตัยมิยะได้พูดไว้ใน มัจญมูอฯ หรือครับ ว่าใครทำอิบาดะฮฺที่เมืองเบตเลเฮม(ปาเลสไตน์)โดยยึดมั่นว่าเป็นสุนัต ถือว่าผู้นั้นหลงผิดและต้องเตาบะฮฺ ถ้าไม่เตาบะฮถูกฆ่า _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Tue Feb 18, 2014 7:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
และหะดีษที่ญิบรีลสั่งให้นบีมุหัดหมัดลัหมาดที่เบตเลเฮม จริงมั้ยครับ ตอนอิสรอมิอฺรอญ จากหะดีษนี้เขาว่าอิบนุตัยมียะฺจาบจ้วงนบี _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Thu Feb 20, 2014 12:05 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำถามที่ 2 ขอคำอธิบายหะดีษนี้หน่อยครับ
عَنْ عُثْمَانَ بْنِ حُنَيْفٍ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ أَنَّ رَجُلاً ضَرِيْرَ الْبَصَرِ أَتَى النَّبِيَّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ: اُدْعُ اللهَ أَنْ يُعَافِيْنِيْ، قَالَ: إِنْ شِئْتَ دَعَوْتُ وَإِنْ شِئْتَ صَبَرْتَ فَهُوَ خَيْرٌ لَكَ. قَالَ: فَادْعُهُ، قَالَ: فَأَمَرَهُ أَنْ يَتَوَضَّأَ فَيُحْسِنَ وُضُوْئَهُ وَيَدْعُوْهُ بِهَذَا الدُّعَاءِ: اَلَّلهُمَّ إِنِّيْ أَسْأَلُكَ وَأَتَوَجَّهُ إِلَيْكَ بِنَبِيِّكَ نَبِيِّ الرَّحْمَةِ، إِنِّيْ أَتَوَجَّهُ بِكَ إِلَى رَبِّيْ فِيْ حَاجَتِيْ هَذِهِ لِتَقْضَى لِيْ اَللَّهُمَّ فَشَفَعْهُ فِيْ. قَالَ: فَفَعَلَ الرَّجُلُ فَبَرَأَ.
หัวข้อของหะดีษที่ท่านอิบนุมาญะตั้งชื่อ เกี่ยวหรือสัมพันธ์กับเนื้อหายังไงครับ _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Thu Feb 20, 2014 4:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อันนี้ครับ จารย์คำพูดของอิบนุตัยมียะฮฺ เจอแระ
"وأما زيارة معابد الكفار مثل : الموضع المسمّى بالقمامة ! أو بيت لحم ، أو صهيون ، أو غير ذلك ، مثل كنائس النصارى : فمنهيٌّ عنها ، فمَن زار مكاناً من هذه الأمكنة معتقداً أن زيارته مستحبة ، والعبادة فيه أفضل من العبادة في بيته : فهو ضالٌّ ، خارج عن شريعة الإسلام ، يُستتاب ، فإن تاب : وإلا قتل , وأما إذا دخلها الإنسان لحاجة ، وعرضت له الصلاة فيها : فللعلماء فيها ثلاثة أقوال ..." انتهى .
"مجموع الفتاوى" (27/14) . _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Thu Feb 20, 2014 4:21 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หะดีษนี้ครับที่เขาว่าญิบรีลสั่งให้นะบีละหมาดที่เบตเลเฮม( بيت لحم) แต่อิบนุตัยมียะฮสั่งไม่ให้ละหมาด เขาเลยว่าอิบนุตัยมียะฮฺจาบจ้วงนบี
[ باب منه في الإسراء ]
236 - عن شداد بن أوس قال : قلنا : يا رسول الله ، كيف أسري بك ليلة أسري بك؟ قال : صليت بأصحابي صلاة العتمة بمكة معتما ، فأتاني جبريل بدابة بيضاء فوق الحمار ودون البغل ، فاستصعب علي ، فأدارها بأذنها حتى حملني عليها ، فانطلقت تهوي بنا ، تضع حافرها حيث أدرك طرفها ، حتى انتهينا إلى أرض ذات نخل . قال : انزل ، فنزلت ، ثم قال : صل ، فصليت ، ثم ركبنا . قال لي : أتدري أين صليت؟ قلت : الله أعلم . قال : صليت بيثرب ، صليت بطيبة . ثم انطلقت تهوي ، تضع حافرها حيث أدرك طرفها ، حتى بلغنا أرضا بيضاء . قال لي : انزل ، فنزلت ، ثم قال : صل فصليت ، ثم ركبنا . قال : أتدري أين صليت؟ قلت : الله أعلم ورسوله . قال : صليت بمدين صليت عند شجرة موسى . ثم انطلقت تهوي بنا تضع حافرها - أو يقع حافرها - حيث أدرك طرفها ، ثم ارتفعنا . قال : انزل ، فنزلت ، فقال : صل فصليت ثم ركبنا فقال : أتدري أين صليت؟ قلت : الله أعلم! قال : صليت ببيت لحم حيث ولد عيسى المسيح ابن مريم . ثم انطلق بي حتى دخلنا المدينة من بابها الثامن ، فأتى قبلة المسجد فربط دابته ، ودخلنا المسجد من باب فيه تمثل الشمس والقمر ، فصليت من المسجد حيث شاء الله - قال ابن زبريق - ثم أتيت بإناءين ، في أحدهما لبن وفي الآخر عسل ، أرسل إلي بهما جميعا ، فعدلت بينهما ، ثم هداني الله فأخذت اللبن ، فشربت حتى قدعت به جبيني ، وبين يدي شيخ متكئ ، فقال : أخذ صاحبك الفطرة ، أو قال : بالفطرة . ثم انطلق بي حتى أتيت الوادي الذي بالمدينة فإذا جهنم تنكشف عن مثل الزرابي . قلنا : يا رسول الله ، كيف وجدتها؟ قال : مثل - وذكر شيئا ذهب عني - . ثم مررت بعير لقريش بمكان كذا وكذا قد أضلوا بعيرا لهم ، فسلمت عليهم ، فقال بعضهم لبعض : هذا صوت محمد - صلى الله عليه وسلم - ثم أتيت أصحابي قبل الصبح بمكة ، فأتاني أبو بكر ، فقال : يا رسول الله ، أين كنت الليلة ، فقد التمستك في مكانك فلم أجدك؟ قال : إني أتيت بيت المقدس الليلة ، فقال : يا رسول الله ، إنه مسيرة شهر ، فصفه لي ، ففتح لي شراك كأني أنظر إليه ، لا يسألونني عن شيء إلا أنبأتهم عنه . فقال أبو بكر :
مجمع الزوائد ومنبع الفوائد صفحة68 _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 20, 2014 8:17 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มาดูเหตุผลและหลักฐานที่ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ ได้ฟัตวาประเด็นข้างต้น ที่พวกฟิตนะตัดตอนไม่เอามากล่าวถึง เพราะเจตนาฟิตนะฮท่านอิบนุตัยมียะฮ
ท่านอิบนุตัยมียะฮ กล่าวว่า
تَخْصِيصُ ذَلِكَ الْمَكَانِ بِالصَّلَاةِ مِنْ بِدَعِ أَهْلِ الْكِتَابِ الَّتِي هَلَكُوا بِهَا وَنَهَى الْمُسْلِمِينَ عَنْ التَّشَبُّهِ بِهِمْ فِي ذَلِكَ فَفَاعِلُ ذَلِكَ مُتَشَبِّهٌ بِالنَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم فِي الصُّورَةِ وَمُتَشَبِّهٌ بِالْيَهُودِ وَالنَّصَارَى فِي الْقَصْدِ الَّذِي هُوَ عَمَلُ الْقَلْبِ اهـ
การเจาะจงสถานที่ดังกล่าวนั้น ด้วยการละหมาด เป็นส่วนหนึ่งจากบิดอะฮของชาวคัมภีร ที่เป็นเหตุให้พวกเขาได้รับความหายนะด้วยมัน และบรรดามุสลิม ได้ถูกห้ามไม่ให้เลียนแบบพวกเขา (พวกยิว) ในดังกล่าวนั้น และผู้ที่กระทำดังกล่าวนั้น เป็นการเลียนแบบนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในด้านรูปแบบตัวตนนบี และเลียนแบบ ชาวยิว และคริสเตียน ในด้านจุดมุ่งหมาย ที่มันคืองานของหัวใจ มัจญมัวะฟะตาวา เล่ม 1 หน้า 281
........
การกระทำดังกล่าว เป็นสิ่งที่เกียวกับการอิสรออฺเมียะรอจญ ที่เฉพาะแก่นบี ศอ็ลฯ มีหะดิษไหมที่นบี ส่งเสริมให้อุมมะฮ เดินทางไปละหมาดที่แผ่นดินปาเลสไตน์เป็นการเฉพาะ ในหะดิษมีสถานที่หลายแห่งที่ท่านนบีศอ็ลฯ ผ่านในคือ อิสรออฺ เช่น ท่านนบี ศอลฯ ได้ละหมาดใต้ต้นไม้ของนบี มูซา อะลัยฮิสสลาม ที่เมื่องมัดยัน อยากจะถามคนที่ใส่ร้ายอิบนุตัยมียะฮว่า มีหะดิษสักบทใหม่ที่นบี ศอ็ลฯส่งเสริมให้ไปละหมาดใต้ต้นไม้นบีมูซาอะลัยฮิสสลามที่เมืองมัดยัน .. _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Thu Feb 20, 2014 9:14 pm, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 20, 2014 8:53 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เพิ่มเติม
ท่านอิบนุตัยมียะฮ กล่าวว่า
كَمَا ثَبَتَ بِالْإِسْنَادِ الصَّحِيحِ مِنْ حَدِيثِ شُعْبَةَ عَنْ سُلَيْمَانَ التيمي عَنْ الْمَعْرُور بْنِ سويد قَالَ: كَانَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ فِي سَفَرٍ فَصَلَّى الْغَدَاةَ ثُمَّ أَتَى عَلَى مَكَانٍ فَجَعَلَ النَّاسُ يَأْتُونَهُ فَيَقُولُونَ: صَلَّى فِيهِ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ عُمْرُ: إنَّمَا هَلَكَ أَهْلُ الْكِتَابِ أَنَّهُمْ اتَّبَعُوا آثَارَ أَنْبِيَائِهِمْ فَاِتَّخَذُوهَا كَنَائِسَ وَبِيَعًا فَمَنْ عَرَضَتْ لَهُ الصَّلَاةُ فَلْيُصَلِّ وَإِلَّا فَلْيَمْضِ .
فَلَمَّا كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَقْصِدْ تَخْصِيصَهُ بِالصَّلَاةِ فِيهِ بَلْ صَلَّى فِيهِ لِأَنَّهُ مَوْضِعُ نُزُولِهِ رَأَى عُمَرُ أَنَّ مُشَارَكَتَهُ فِي صُورَةِ الْفِعْلِ مِنْ غَيْرِ مُوَافَقَةٍ لَهُ فِي قَصْدِهِ لَيْسَ مُتَابَعَةً بَلْ تَخْصِيصُ ذَلِكَ الْمَكَانِ بِالصَّلَاةِ مِنْ بِدَعِ أَهْلِ الْكِتَابِ الَّتِي هَلَكُوا بِهَا وَنَهَى الْمُسْلِمِينَ عَنْ التَّشَبُّهِ بِهِمْ فِي ذَلِكَ فَفَاعِلُ ذَلِكَ مُتَشَبِّهٌ بِالنَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي الصُّورَةِ وَمُتَشَبِّهٌ بِالْيَهُودِ وَالنَّصَارَى فِي الْقَصْدِ الَّذِي هُوَ عَمَلُ الْقَلْبِ
ดังสิ่งที่ปรากฏยืนยัน ด้วยสายรายงานที่เศาะเฮียะ จากหะดิษชุอฺบะฮ จากสุลัยมานอัตตัยมีย์ จากมะอฺรูร บิน สุวัยดฺ กล่าวว่า ปรากฏว่าอุมัร บิน อัลคอฏฏอ็บ ได้อยู่ระหว่างเดินทาง แล้วท่านได้ละหมาดรุ่งอรุณ(ละหมาดศุบฮิ) หลังจากนั้นท่านได้ไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง ทำให้บรรดาผู้คนได้ไปสถานที่นั้นด้วย แล้วพวกเขากล่าวว่า ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้เคยละหมาดในสถานที่นั้น แล้วท่านอุมัรกล่าวว่า ความจริง ชาวคัมภีร์ ได้รับความหายนะมาแล้ว เพราะแท้จริงพวกเขาได้ติดตามหาร่องรอย บรรดานบีของพวกเขา แล้วได้เอามัน (เอาบรรดาร่องรอยบรรดานบี) สร้างโบสถ์ ดังนั้น ผู้ใดเวลาละหมาดได้มาถึงสำหรับเขา เขาก็จงละหมาด และหากไม่เช่นนั้น เขาก็จงไปเสีย (หมายถึงอย่ารอเพื่อละหมาดในสถานที่นั้นเป็นการเฉพาะ) - ดูมัจญมัวะฟัตว่า เล่ม 1 หน้า 280 -281
.................
จึงอยากถามผู้ที่กล่าวหาว่าอิบนุตัยมียะฮ ดูหมิ่นนบี ศอลฯ ที่ห้ามไม่ให้เจาะจงละหมาดสถานที่เป็นร่องรอยนบีละหมาด แล้ว ท่านเคาะลิฟะฮ อุมัร บิน อัลคอฏฏอ็บ เตื่อนไม่ให้ละหมาดในที่ที่เป็นสถานที่นบีเคยละหมาด ท่านอุมัรดูหมิ่นนบี ศอ็ลฯ อย่างนั้นหรือ ..เปล่าเลย ท่านกลัวจะเป็นการทำบิดอะฮต่างหากละ เพราะท่านนบี ศอ็ลฯไม่ได้ส่งเสริมให้ละหมาดในสถานที่นั้นเป็นการเฉพาะเป็นกรณีพิเศษเอาไว้ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Feb 20, 2014 9:10 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ท่านอิบนุตัยมียะฮ กล่าวต่อไปว่า
فَلَمَّا كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَقْصِدْ تَخْصِيصَهُ بِالصَّلَاةِ فِيهِ بَلْ صَلَّى فِيهِ لِأَنَّهُ مَوْضِعُ نُزُولِهِ رَأَى عُمَرُ أَنَّ مُشَارَكَتَهُ فِي صُورَةِ الْفِعْلِ مِنْ غَيْرِ مُوَافَقَةٍ لَهُ فِي قَصْدِهِ لَيْسَ مُتَابَعَةً بَلْ تَخْصِيصُ ذَلِكَ الْمَكَانِ بِالصَّلَاةِ مِنْ بِدَعِ أَهْلِ الْكِتَابِ الَّتِي هَلَكُوا بِهَا وَنَهَى الْمُسْلِمِينَ عَنْ التَّشَبُّهِ بِهِمْ فِي ذَلِكَ فَفَاعِلُ ذَلِكَ مُتَشَبِّهٌ بِالنَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي الصُّورَةِ وَمُتَشَبِّهٌ بِالْيَهُودِ وَالنَّصَارَى فِي الْقَصْدِ الَّذِي هُوَ عَمَلُ الْقَلْبِ
แล้วเมื่อปรากฏว่านบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเจาะจง มัน ด้วยการละหมาดในมัน(ในสถานที่นั้น) แต่ทว่า ท่านนบีได้ละหมาดในสถานที่นั้น เพราะเป็นสถานที่ลงพักของท่านนบี ท่านอุมัร เห็นว่า การที่เขาร่วมกับท่านนบี ในรูปแบบที่ไม่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของท่านนบีนั้น ไม่ใช่การเจริญรอยตาม(มุตาบะอะฮนบี) การเจาะจงสถานที่ดังกล่าวนั้น ด้วยการละหมาด เป็นส่วนหนึ่งจากบิดอะฮของชาวคัมภีร ที่เป็นเหตุให้พวกเขาได้รับความหายนะด้วยมัน และบรรดามุสลิม ได้ถูกห้ามไม่ให้เลียนแบบพวกเขา (พวกยิว) ในดังกล่าวนั้น และผู้ที่กระทำดังกล่าวนั้น เป็นการเลียนแบบนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในด้านรูปตัวตนนบี และเลียนแบบ ชาวยิว และคริสเตียน ในด้านจุดมุ่งหมาย ที่มันคืองานของหัวใจ มัจญมัวะฟะตาวา เล่ม 1 หน้า 281
.........
พวกอะฮลุลบิดอะฮ จะตามล่า ตามใส่ร้ายอิบนุตัยยะฮอยู่ร่ำไป จากอดีตจนถึงวันกิยามะฮ ตราบใดที่ชัยฏอนยังไม่ตาย _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Fri Feb 21, 2014 12:49 am ชื่อกระทู้: |
|
|
_________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Feb 21, 2014 9:12 am ชื่อกระทู้: |
|
|
sunnahkung บันทึก: | คำถามที่ 2 ขอคำอธิบายหะดีษนี้หน่อยครับ
عَنْ عُثْمَانَ بْنِ حُنَيْفٍ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ أَنَّ رَجُلاً ضَرِيْرَ الْبَصَرِ أَتَى النَّبِيَّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ: اُدْعُ اللهَ أَنْ يُعَافِيْنِيْ، قَالَ: إِنْ شِئْتَ دَعَوْتُ وَإِنْ شِئْتَ صَبَرْتَ فَهُوَ خَيْرٌ لَكَ. قَالَ: فَادْعُهُ، قَالَ: فَأَمَرَهُ أَنْ يَتَوَضَّأَ فَيُحْسِنَ وُضُوْئَهُ وَيَدْعُوْهُ بِهَذَا الدُّعَاءِ: اَلَّلهُمَّ إِنِّيْ أَسْأَلُكَ وَأَتَوَجَّهُ إِلَيْكَ بِنَبِيِّكَ نَبِيِّ الرَّحْمَةِ، إِنِّيْ أَتَوَجَّهُ بِكَ إِلَى رَبِّيْ فِيْ حَاجَتِيْ هَذِهِ لِتَقْضَى لِيْ اَللَّهُمَّ فَشَفَعْهُ فِيْ. قَالَ: فَفَعَلَ الرَّجُلُ فَبَرَأَ.
หัวข้อของหะดีษที่ท่านอิบนุมาญะตั้งชื่อ เกี่ยวหรือสัมพันธ์กับเนื้อหายังไงครับ |
ผมยังไม่ได้หาว่าเขาตั้งชื่ออย่างไร แต่ของนำข้อมูลนักวิชาการเกี่ยวกับหะดิษข้างต้นดั่งนี้
อัลมุบาเราะกะฟูรีย์ ได้อธิบายว่า
وقول الأعمى (( فادعه )) دليل واضح وبرهان راجح على أن التوسل كان بدعائه لا بنفس ذاته المطهرة عليه الصلاة والسلام ، وقوله (( إني توجهت بك إلى ربي )) قال الطيبي : الباء في (( بك )) للاستعانة ، أي استعنت بدعائك إلى ربي
และคำพูดของชายตาบอดที่ว่า "(จงดุอาต่อพระองค์เถิด) เป็นหลักฐานชัดเจน และเป็นข้อพิสูจน์ ที่มีน้ำหนัก ที่แสดงว่า แท้จริงการตะวัสซุลนั้น ปรากฏด้วยการดุอาของเขา(ของท่านนบี) ไม่ใช่ด้วยตัวตนของท่านนบีที่บริสุทธ์ และคำพูดของเขาที่ว่า( แท้จริงข้าพเจ้าขอมุ่งปรารถนาด้วยกับท่านไปยังผู้อภิบาลของข้าพเจ้า ) อัฏฏอ็ยบีย์กล่าวว่า อับษรบาอฺ ในคำว่า (บิกะ) คือ บาลิลอิสติอานะฮ คือ ข้าพระองค์ขอความช่วยเหลือด้วยดุอาของท่าน ไปยังพระผู้อภิบาลของข้าพเจ้า - ดูตะหฟะตุลอะหวะซีย์ ชัรหุสุนันอัตติรมิซีย์ เล่ม 10 หน้า 25 อธิบายหะดิษ เฎาะรีร (ชายตาบอด)
.......
จึงชัดเจนว่า ชายตาบอด ตะวัสสุลด้วยดุอานบี ไม่ใช่ด้วยตัวตนนบี และเรื่องนี้เป็นเรื่อง เฉพาะสำหรับชายตาบอดคนนั้นกับนบี เพราะไม่ปรากฏว่า มีบรรดาคนตาบอดอื่นๆมาขอตะวัสซุลกับนบี เพื่อให้หายจากตาบอดเลย _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Sun Mar 02, 2014 3:01 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มีกล่าวกันว่า ตอนอิสรออ์และมิอฺร็อจญ์- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ลงมายังเบธเลเฮม(บัยตฺ ละหฺมฺ)และได้ละหมาดที่นั่น แต่ไม่มีสายรายงานที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ประการใด [ซาดุลมะอาด, 3/34]
และท่านอิบนุกะษีรฺก็ได้กล่าวว่าเป็นเรื่องราวที่มุงกัร (อ่อนมาก) [ตัฟซีรฺอิบนิกะษีรฺ, 5/12]
........................................
ผมเจอมา หะดีษที่ว่าตกลงเศาะหิหฺไหมครับ _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Sun Mar 02, 2014 3:05 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หะดีษเรื่องชายตาบอด ปรากฏว่า พวกอะชาอิเราะฮฺ เอาไปเป็นหลักฐานเรื่องละหมาดฮะญัต ครับอาจารย์ เขาเขาว่าท่านอิบนุมะญะตั้งชื่อว่า "เรื่องละหมาดฮายัต" _________________ "และที่เลวยิ่งจากกิจการทั้งหลายคือการอุตริกรรมในศาสนาเพราะทุกสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮ์และทุกๆบิดอะฮ์คือความหลงผิดและทุกๆความหลงผิดอยู่ในนรก"(ศอเหี๊ยะสุนันนะซาอีย์:1577) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Mar 02, 2014 3:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
sunnahkung บันทึก: | มีกล่าวกันว่า ตอนอิสรออ์และมิอฺร็อจญ์- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ลงมายังเบธเลเฮม(บัยตฺ ละหฺมฺ)และได้ละหมาดที่นั่น แต่ไม่มีสายรายงานที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ประการใด [ซาดุลมะอาด, 3/34]
และท่านอิบนุกะษีรฺก็ได้กล่าวว่าเป็นเรื่องราวที่มุงกัร (อ่อนมาก) [ตัฟซีรฺอิบนิกะษีรฺ, 5/12]
........................................
ผมเจอมา หะดีษที่ว่าตกลงเศาะหิหฺไหมครับ |
ในมัจญมะอุอัซซะวาอิด เล่ม 1 หน้า 73 เรื่อง อิสรรอฮ ท่านอัลหัยษะมีย์ กล่าวว่า
وفيه إسحاق بن إبراهيم بن العلاء ، وثقه يحيى بن معين ، وضعفه النسائي
ในสายรายงานหะดิษ มี ผู้รายงานชื่อ อิสหาก บิน อิบรอฮีม บิน อัลอะลาอฺ ยะหยา บิน มุอีน ได้ให้ความเชื่อถือเขา (หมายถึงระบุว่าเชื่อถือได้) และอันนะนะสาอีย์ ได้ วิจารณ์ว่า เขาหลักฐานอ่อน _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|