อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[asan]

มี อาจารย์อะชาอิเราะฮ ท่านหนึ่ง กล่าวในเฟสบุคว่า

การใส่ผ้าโพกศรีษะ เป็นสิ่งที่ท่าน ร่อซู้ล (ซ.ล.) กระทำ แต่มีอุลามาอฺที่ออกมาบอกว่า " สิ่งนี้ไม่ใช่ ซุนนะฮฺ "
... ผมจะบอกว่า อุลามาอฺแบบนี้เป็น ' อุลามาอุซซูอฺ คือ อุลามาอชั่ว ' พวกท่านคิดว่าไงครับ

@@@@@

ขอชี้แจงว่า

การโพกศีรษะ หรือบ้านเราเรียกโพกสาระบันนั้น เป็น สิ่งที่อนุญาต(มุบาหฺ) และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ (อาดัต) ไม่ใช่สุนนะฮที่เป็นศาสนาบัญัติ ส่งเสริมให้กระทำ

وسئل الشيخ ابن عثيمين رحمه الله : لبس العمامة هل هي سنة ثبتت عن الرسول صلى الله عليه وسلم؟

เช็ค อิบนุอุษัยมีน (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) ถูกถาม ว่า “ การโพกผ้าโพกศีรษะ มันเป็นสุนนะฮ ที่แน่นอนจากรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม หรือไม่ ?

فأجاب : "لا ، لباس العمامة ليس بسنة ، لكنه عادة ، والسنة لكل إنسان أن يلبس ما يلبسه الناس ما لم يكن محرماً بذاته ، وإنما قلنا هذا ؛ لأنه لو لبس خلاف ما يعتاده الناس لكان ذلك شهرة ، والنبي صلى الله عليه وسلم نهى عن لباس الشهرة ، فإذا كنا في بلد يلبسون العمائم لبسنا العمائم ، وإذا كنا في بلد لا يلبسونها لم نلبسها ، وأظن أن بلاد المسلمين اليوم تختلف ، ففي بعض البلاد الأكثر فيها لبس العمائم ، وفي بعض البلاد بالعكس ، والنبي صلى الله عليه وسلم كان يلبس العمامة ؛ لأنها معتادة في عهده ، ولهذا لم يأمر بها ، بل نهى عن لباس الشهرة ، مفيداً إلى أن السنة في اللباس أن يتبع الإنسان ما كان الناس يعتادونه ، إلا أن يكون محرماً ، فلو فرضنا أن الناس صاروا يعتادون لباس الحرير وهم رجال قلنا : هذا حرام ولا نوافقهم ، ولو كنا في بلد اعتاد الرجال أن يلبسوا اللباس النازل عن الكعبين قلنا : هذا حرام ولا نوافقهم") .

เขาได้ตอบว่า

ไม่ .. การสวมใส่ผ้าโพกศีรษะ ไม่ใช่สุนนะฮ (สุนัต) แต่เป็น อาดะฮ(เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ) และเป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ทุกคน ที่จะสวมใส่สิ่งที่บรรดาผู้คน สวมใส่กัน ตราบใดที่มันไม่เป็นสิ่งต้องห้าม(หะรอม) ด้วยตัวของมัน และความจริง เรากล่าวแบบนี้ เพราะหากเขาสวมใส่ แตกต่างกับสิ่งที่บรรดาผู้คน ได้ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ(อาดัต) แน่นอนดังกล่าวนั้น เป็น ชุฮเราะฮ (หมายถึงการส่วมใส่สิ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไปในสังคม) โดยที่นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ห้ามจากการสวมใส่เครื่องแต่งกายที่แตกต่างจากคนทั่วไปในสังคม ดังนั้น เมื่อ เราอยู่ในประเทศ ที่พวกเขาสวมใส่/ใช้ ผ้าโพกศีรษะ เราก็ สวมใส่(ใช้) ผ้าโพกศีรษะ เมื่อเราอยู่ในประเทศที่พวกเขาไม่สวมใส่(ไม่ใช้)ผ้าโพกศีรษะ เราก็ไม่สวมใส่ ผ้าโพกศีรษะ และข้าพเจ้าเชื่อว่า บรรดามุสลิมในปัจจุบัน มีความแตกต่างกัน เพราะในบางประเทศ คนส่วนใหญ่สวมใส่ผ้าโพกศีรษะ และในบางประเทศ คนส่วนใหญ่ไม่สวมใส่ผ้าโพกศีรษะ

และท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สวมใส่ผ้าโพกศีรษะ เพราะมัน เป็นสิ่งที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ(อาดัต)ในนสมัยของท่านนบี และเพราะเหตุนี้ ท่านไม่ได้สั่งด้วยมัน ยิ่งปกว่านั้นท่านได้ห้ามท สวมใส่เครื่องแต่งกายที่แตกต่างจากคนทั่วไปในสังคม เป็นสิ่งที่ถูกเข้าใจว่า แท้จริงสุนนะฮในการสวมใส่เครื่องแต่งกายนั้น คือการที่บรรดาผู้ผู้คนปฏิบัติตาม สิ่งที่บรรดาผู้คนได้ยึดถือมันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ(อาดัต) ยกเว้น ปรากฏว่ามันเป็นสิ่งต้องห้าม(หะรอม) ถ้าสมมุติว่า บรรดาผู้คนได้ถือเอาการสวมใส่ผ้าไหมเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ(อาดัต) โดยที่พวกเขาเป็นผู้ชาย เราก็จะกล่าวว่า “นี่คือหะรอม เราไม่เห็นชอบด้วยกับพวกเขา และถ้าหากว่า เราอยู่ในประเทศที่บรรดาผู้ชาย มีธรรมเนียมปฏิบัติ(อาคัต) สวมใส่เสื้อผ้าที่ลงมาเลยสองตาตุ่ม เราก็จะกล่าวว่า “นี้คือ หะรอม และเราไม่เห็นชอบกับพวกเขา เป็นต้น – ดู ลิกออุลบาบอัลมัฟตุหฺ เล่ม 23 หน้า 160

[asan]

มาดูเพิ่มเติม

لبس العمامة
السؤال: يقول لبس العمامة هل هي من السنن المؤكدة؟
فأجاب رحمه الله تعالى : لبس العمامة ليس من السنن لا المؤكدة ولا غير المؤكدة لأن النبي صلى الله عليه وعلى آله وسلم كان يلبسها اتباعا للعادة التي كان الناس عليها في ذلك الزمن ولهذا لم يأت حرف واحد من السنة يأمر بها فهي من الأمور العادية التي إن اعتادها الناس فليلبسها الإنسان لئلا يخرج عن عادة الناس فيكون لباسه شهرة وإن لم يعتدها الناس فلا يلبسها هذا هو القول الراجح في العمامة.

การสวมใส่ผ้าโพกศีรษะ

คำถาม การส่วมใส่ผ้าโพกศีรษะ มันเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาสุนัตมุอักกะดะฮหรือไม่?

ท่านอิบนุอุษัยมีน (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) ตอบว่า
การสวมใส่ ผ้าโพกศีรษะ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาสุนัต ไม่ว่าจะเป็นสุนัตอัลมุอักกะดะฮ หรือ สุนัตที่ไม่มุอักกะดะฮ เพราะนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สวมใส่มัน ตามประเพณี(ตามธรรมเนียมปฏิบัติ)ที่ประชาชน ได้ปรากฏอยู่บนมันในสมัยดังกล่าวนั้น และเพราะเหตุนี้ ไม่มีมาแม้สักอักษรเดียวจากอัสสุนนะฮ ที่สั่งให้ปฏิบัติด้วยมัน เพราะมันคือ ส่วนหนึ่งจากบรรดาสิ่งที่เป็นธรรมเนียม/ประเพณีปฏิบัติ ที่บรรดาประชาชน ได้ปฏิบัติมันเป็นธรรมเนียม (อาดัต) แล้วบรรดาประชาชนก็ได้สวมใส่มัน(หมายถึงส่วมใสผ้าโพกศีรษะ) เพื่ออย่าให้ออกนอก ประเพณีปฏิบัติของบรรดาผู้คน แล้วทำให้การแต่งกายของเขากลายเป็นชุฮเราะฮ (การแต่งกายที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติของคนทั่วไป) และถ้าบรรดาผู้คน ไม่ปฎิบัติมันเป็นประเพณีปฏิบัติ(อาดัต) เขาก็จะไม่สวมใส่มัน นี้คือ ทัศนะที่มีน้ำหนักในเรื่องผ้าโพกศีรษะ

من فتاوى نور على الدرب للشيخ محمد بن صالح العثيمين رحمه الله
จากฟัตวา นูรอะลัดดัรบิ ของเช็ค มุหัมหมัด บิน ศอลิหฺ อัลอุษัยมีน (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)
http://www.kulalsalafiyeen.com/vb/showthread.php?t=1766


มีผู้อ้างหะดิษที่ว่า

اعْتَمُّوا تَزْدَادُوا حِلْمًا ، وَالْعَمَائِمُ تِيجَانُ الْعَرَبِ

พวกท่านจงใส่ผ้าโพกศีรษะ พวกท่านก็จะเพิ่มพูน ความสุภาพอ่อนโยน และ ผ้าโพกศีรษะ นั้นคือ มงกุฎของชาวอาหรับ – อิหม่ามสะยูฏีย์ ระบุในอัลญามิอุศเศาะฆีร หะดิษหมายเลข 1143
ท่านอ้างหะดิษ แบบเดาสุ่ม แปลก็ไม่แปล และไม่ทราบสถานะหะดิษเลย ขอเรียนว่า หะดิษข้างต้น เป็นหะดิษเฎาะอีฟมาก ครับ ในสายรายราย มีผู้รายงานชื่อ อุบัยดิลละฮ บิน อบี หะมีด เขาเป็นผูที่ หะดิษของเขาถูกตัดทิ้ง (มัตรูก)
อิหม่ามอัตติรมิซีย์ กล่าวว่า

سألت محمدا يعني البخاري عنه فقال عبيد الله بن أبي حميد ضعيف ذاهب الحديث لا أروي عنه شيئا اه

ข้าพเจ้า ถามมุหัมหมัด หมายถึง อัลบุคอรี เกี่ยวกับเขา (เกี่ยวกับอุบัยดิลละฮ บิน อบี หะมีด) เขากล่าวว่า “
อุบัยดิลละฮ บิน อบี หะมีด เฎาะอีฟ ผู้ที่หะดิษตกไป ข้าพเจ้าจะไม่รายงานสิ่งใดจากเขา – อัลอิละลุลกะบีร เล่ม 2 หน้า 117

[asan]

อิบนุเญาซีย์ ได้ระบุว่า

عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ ، قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : " اعْتَمُّوا تَزْدَادُوا حِلْمًا " . هَذَا حَدِيث لا يصح . قَالَ أَحْمَد بْن حنبل : سَعِيد بْن سلام كذاب كذاب

รายงานจากอิบนุอับบาส เขากล่าวว่า รซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า พวกท่านจงใส่ผ้าโพกศีรษะ พวกท่านก็จะเพิ่มพูน ความสุภาพอ่อนโยน : หะดิษนี้ไม่เศาะเฮียะ ,อะหมัด บิน หัมบัล กล่าวว่า “สะอีด บิน สะลาม คือ จอมโกหก จอมโกหก – ดู อัลเมาดูอาตอัลกุบรอ ของอิบนุเญาซีย์ หะดิษหมายเลข 1350 เรื่อง คุณค่าผ้าโพกศีรษะ

ต่อ

وَقَالَ الْبُخَارِي : يذكر بوضع الْحَدِيث . وَقَالَ الدَّارَقُطْنِيّ : متروك يحدث بالأباطيل

อัลบุคอรี กล่าวว่า เขาระบุด้วยการกุหะดิษ และอัดดารุลกุฏนีย์กล่าวว่า “เขาเป็นผู้ที่หะดิษถูกตัดทิ้ง เขาเล่า ด้วยบรรดาหะดิษเท็จ – ดู อัลเมาดูอาตอัลกุบรอ ของอิบนุเญาซีย์ หะดิษหมายเลข 1350 เรื่อ คุณค่าผ้าโพกศีรษะ

[asan]

Anat Pan ท่านนบีโพกสารบันตอนละหมาดทุกครั้งรึม่ายครับ?
…………….
ประเด็นนี้ ขอเรียนว่า ผมยังไม่เจอหะดิษว่าท่านนบี ศอ็ลฯ โพกศีรษะทุกครั้งเวลาละหมาด แต่ไม่ได้หมายถึงว่าผมปฏิเสธว่าไม่มี อาจจะมี ใครทราบ ได้โปรดนำมาเสนอด้วย
ความจริง รซูลุลลฮ ศอ็ลนโพกศีรษะ หรือใช้ผ้าสาระบัน ก็เพื่อปฏิบัติตามประเพณีอาหรับ ดังที่อิบนุอุษัยมีน (ร.อ) กล่าวว่า
لباس العمامة ليس بسنة ، لكنه عادة ، والسنة لكل إنسان أن يلبس ما يلبسه الناس ما لم يكن محرماً بذاته ، وإنما قلنا هذا ؛ لأنه لو لبس خلاف ما يعتاده الناس لكان ذلك شهرة ، والنبي صلى الله عليه وسلم نهى عن لباس الشهرة
การสวมใส่ผ้าโพกศีรษะ ไม่ใช่สุนนะฮ (สุนัต) แต่เป็น อาดะฮ(เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ) และเป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ทุกคน ที่จะสวมใส่สิ่งที่บรรดาผู้คน สวมใส่กัน ตราบใดที่มันไม่เป็นสิ่งต้องห้าม(หะรอม) ด้วยตัวของมัน และความจริง เรากล่าวแบบนี้ เพราะหากเขาสวมใส่ แตกต่างกับสิ่งที่บรรดาผู้คน ได้ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ(อาดัต) แน่นอนดังกล่าวนั้น เป็น ชุฮเราะฮ (หมายถึงการส่วมใส่สิ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไปในสังคม) โดยที่นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ห้ามจากการสวมใส่เครื่องแต่งกายที่แตกต่างจากคนทั่วไปในสังคม
ดู ลิกออุลบาบอัลมัฟตุหฺ เล่ม 23 หน้า 160
เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า ศีรษะไม่ใช่เอาเราะฮ การละหมาดเปิดศีรษะสำหรับผู้ชายนั้นใช้ได้

ในหนังสือ อัลอาหาดวัลมะษานีย์ ลิอิบนิอบีอาศิม หะดิษหมายเลข 1219 และ ตาริค ของอบีซัรอะฮ อดัดดะมัซกีย์ เล่ม 1 หน้า 214 ระบุหะดิษต่อไปนี้
حَدَّثَنَا حَدَّثَنَا عَمْرُو بْنُ عُثْمَانَ ، ثنا بَقِيَّةُ بْنُ الْوَلِيدِ ، عَنْ صَفْوَانَ ، رَأَيْتُ عَبْدَ اللَّهِ بْنَ بُسْرٍ أَكْثَرَ مِنْ خَمْسِينَ مَرَّةً " لَهُ جُمَّةٌ ، لَمْ أَرَ عَلَيْهِ قَلَنْسُوَةً ، وَلا عِمَامَةً فِي شِتَاءٍ وَلا صَيْفٍ "
ความหมายตัวบท
รายงานจาก ศอฟวาน (บิน อัมริน) ว่า ข้าพเจ้า เคยเห็น อับดุลลอฮ บิน บุสริน มากกว่า 50 ครั้ง เขาสวมใส่ เสื้อญุบะฮ(เสื้อกุโหร่ง) เข้าพเจ้าไม่เห็นหมวก(กุปีเยาะฮ) และผ้าสาระบัน ไม่ว่าในฤดูหนาวหรือฤดูร้อน
...................
แสดงว่า ชนยุคสะลัฟ เช่นเศาะหาบะฮบางท่านก็ไม่ได้ใช้หมวกกุเปียะและผ้าสาระบัน เป็นประจำ