ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
panda มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 07/06/2006 ตอบ: 7
|
ตอบ: Mon Dec 27, 2010 9:09 pm ชื่อกระทู้: ละหมาดอีซาตามอีหม่าม แล้วค่อยละหมาดใช่มักริบ ได้หรือไม่ |
|
|
กลับมาจากทำงาน เข้าเวลาอีซาแล้ว
แต่ยังไม่ได้ละหมาดมักริบ เราจะหมาดอีซาตามอีหม่ามได้มั้ย
แล้วค่อยมาละหมาดใช้ละหมาดมักริบที่หลัง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Tue Dec 28, 2010 1:14 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คับน้อง panda
ตามที่น้องได้ถามมา อันเนื่องจาก น้อง ละหมาดพร้อมกับ ญะมาอะห์ พร้อมอีหม่ามซึ่งละหมาดนั้นคือละหมาดอีชาอ์ ทั้งที่น้องยังไม่ได้ละหมาด มักริบ แต่เข้าเวลา อีชาอ์แล้ว
เพราะฉนั้น น้องต้องทำการ กอฎอ(ละหมาดใช้) คับ
การละหมาดชดใช้โดยเรียบเรียงตามลำดับของเวลาละหมาดที่ขาดไปนั้น นักวิชาการสังกัดมัซฮับ อัชชาฟีอีย์ ระบุว่า : เมื่อละหมาดหนึ่งหรือหลายการละหมาดผ่านเลยเขาไป ก็ส่งเสริมให้เขานำเอาการละหมาดที่ผ่านเลยไป (ละหมาดที่ต้องกอฎอ) มาปฏิบัติก่อนละหมาดฟัรฎูประจำเวลา และให้เขาเรียงลำดับการละหมาดที่ผ่านไปโดยกอฎอละหมาดที่ 1 (เช่น ซุฮฺริ) ตามมาด้วยการละหมาดที่สอง (เช่น อัศริ) และการละหมาดในลำดับที่ 3 (เช่น มัฆริบ)
ทั้งนี้ถือตามหะดีษที่ท่านญาบีร (ร.ฎ.) รายงานในเหตุการณ์สมรภูมิคอนดัก (สมรภูมิสนามเพลาะ) และเพื่อออกจากข้อขัดแย้งของบรรดานักวิชาการ และถ้าหากเขา (ผู้ละหมาด) ละทิ้งการเรียงลำดับของการละหมาด หรือ ละหมาดประจำเวลาก่อนละหมาดที่ต้องกอฎอ หรือละหมาดเวลาสุดท้ายก่อนหน้าลำดับการละหมาดที่ผ่านพ้นไป ก็ถือว่าเป็นที่อนุญาต และถ้าหากเขานึกขึ้นได้ถึงละหมาดที่ผ่านพ้นไป และเวลาละหมาดประจำเวลาเหลือน้อยเต็มที ก็จำต้องละหมาดประจำเวลาก่อน (กิตาบ อัลมัจญ์มูอฺ ชัรฮุ้ลมุฮัซซับ : อิหม่าม อันนาวาวีย์ เล่มที่ 3 หน้า 73-75)
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Tue Dec 28, 2010 1:15 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ส่วนการชดใช้ละหมาด (กอฎอ) ในรูปแบบญะมาอะฮฺนั้นป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ ทั้งนี้เพราะมีหลักฐานจากซุนนะฮฺ ระบุว่า
ครั้งหนึ่งพวกเราอยู่ในการเดินทางพร้อมกับท่านนบี (صلى الله عليه وسلم) และพวกเราก็เดินทางในยามค่ำคืนจนกระทั่งพวกเราอยู่ในช่วงท้ายของเวลากลางคืน... ไม่มีสิ่งใดปลุกให้เราตื่นนอกจากความร้อนของดวงอาทิตย์ เมื่อท่านนบี (صلى الله عليه وسلم) ได้ตื่น พวกเขาก็อวดครวญยังท่านถึงสิ่งที่มาประสบกับพวกเขา...(ในตอนท้ายของหะดีษระบุว่า) แล้วท่านนบี (صلى الله عليه وسلم) ก็อาบน้ำละหมาด และมีการอะซานเพื่อละหมาด แล้วท่านนบี (صلى الله عليه وسلم) ก็นำผู้คนละหมาด
(รายงานจาก อิมรอน อุบนุ ฮุซอยน์ (ร.ฎ.) บันทึกโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม) เป็นต้น
การชดใช้ละหมาด (กอฎอ) ในหะดีษข้างต้นนี้คือการละหมาดกอฏอซุบฮิแบบญะมาอะฮฺนั่นเอง
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kolis_mala มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2010 ตอบ: 295
|
ตอบ: Tue Dec 28, 2010 1:18 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ส่วนละหมาดไม่ตรงเวลา?
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد...
พระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงดำรัสว่า :
(فَخَلَفَ مِنْ بَعْدِ هِمْ خَلْفٌ أضاعُواالصلاةَ واتَّبَعُواالشَّهُواتِ فَسَوْفَ يَلْقَوْنَ
غَيًّاإلاَّ مَنْ تَابَ وَآمَنَ و عَمِلَ صالِحًا) مريم ٥٩٦٠
แล้วมีกลุ่มชนรุ่นหลังได้มาภายหลังพวกเขา (พวกชนรุ่นหลังนั้น) ได้ทำให้การละหมาดสูญหายไป (ทิ้งละหมาด) และปฏิบัติตามอารมณ์ความใคร่ พวกเขาจะได้พบกับการหลงผิด (หรือขุมนรกหนึ่งในญะฮันนัม) ยกเว้นบุคคลที่สำนึกผิด, ศรัทธาและประพฤติการงานที่ดี (มัรยัม : 59-60)
ท่านอิบนุ อับบาส (ร.ฎ.) กล่าวว่า : คำว่า พวกเขาได้ทำการละหมาดสูญหาย มิได้หมายความว่าพวกเขาทิ้งการละหมาดทั้งหมด แต่พวกเขาล่าช้าการละหมาดจนออกจากเวลาของการละหมาดนั้น ท่านสะอีด อิบนุ อัลมุซัยยับ อิหม่ามของชนรุ่นตาบิอีน กล่าวว่า : คือการที่เขาจะไม่ละหมาดซุฮฺริจนกว่าเวลาอัศริมาถึง และจะไม่ละหมาดอัศริจนเข้าสู่เวลามัฆริบ และจะไม่ละหมาดมัฆริบจนเข้าสู่เวลาอิชาอฺ และจะไม่ละหมาดอิชาอฺจนเข้าสู่เวลาฟัจฺร์ (ซุบฮิ) และจะไม่ละหมาดฟัจฺร์จนกระทั่งดวงตะวันขึ้น
ดังนั้นผู้ใดตายไปในสภาพที่เขายืนกรานต่อสภาพเช่นนี้ และไม่สำนึกผิด (เตาบะฮฺ) พระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงคาดโทษ (สัญญาร้าย) แก่ผู้นั้นด้วย ฆ็อยฺย์ อันหมายถึง ขุมหนึ่งในนรกญะฮันนัมที่ก้นของมันลึกและรสชาติ (หรืออาหาร) ของมันเลวยิ่งนัก
และพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงดำรัสในอีกอายะฮฺหนึ่งว่า
(فَوَيْلٌ لِلْمُصَلِّيْنَ الذينَ هُمْ عَنْ صَلاَتِهِمْ سَاهُوْنَ) الماعون : ٤
ดังนั้นความวิบัติมีแก่บรรดาผู้ละหมาดที่พวกเขาหลงลืมจากการละหมาดของพวกเขา (อัลมาอูน : 4)
หมายถึง พวกเขาหลงลืมและเพิกเฉยต่อการละหมาด ท่านสะอฺด์ อิบนุ อบีวักก็อซ (ร.ฎ.) กล่าวว่า : ฉันได้ถามท่านร่อซู้ล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ถึงบรรดาผู้ที่หลงลืมจากการละหมาดของพวกเขา (ว่าหมายถึงอย่างไร?) ท่านร่อซู้ล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า : คือการล่าช้าเวลาละหมาด หมายถึง ล่าช้าในการละหมาดจนออกจากเวลาของมัน (ทัศนะที่มีน้ำหนักที่สุดระบุว่า หะดีษนี้เป็นคำพูดของท่านสะอฺด์)
พระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงเรียกชื่อพวกเขาว่าเป็นบรรดาผู้ปฏิบัติละหมาด (اَلْمُصَلِّيْنَ) แต่ทว่าเมื่อพวกเขากระทำเบาความและทำให้การละหมาดล่าช้าจนออกจากเวลาของมัน พระองค์จึงทรงคาดโทษพวกเขาด้วยกับวัยฺล์ (وَيْل) อันหมายถึง การลงทัณฑ์อันรุนแรง บ้างก็กล่าวว่า หมายถึง ขุมหนึ่งในนรกญะฮันนัม ซึ่งถ้าหากนำเอาบรรดาขุนเขาในโลกนี้ใส่ลงไปในขุมนี้ แน่นอนบรรดาขุนเขาเหล่านั้นก็จะหลอมละลายสิ้นเนื่องจากความร้อนที่รุนแรงของมัน
ขุมนรกนี้เป็นที่พำนักของบรรดาผู้เพิกเฉยและกระทำเบาความกับการละหมาด และทำให้การละหมาดล่าช้าจนออกจากเวลาของมัน ยกเว้นผู้ที่สำนึกผิดยังพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) และเสียใจที่ต่อความบกพร่องของตน (The Mejor sins Al-KABA'IR ; By Muhammad Bin Uthman Adh-Dha habi, Rendered into English By Mohammed Moinuddin Siddiqui, ph D. p.34-35)
ดังกล่าวข้างต้นคือ ผลของการละหมาดไม่ตรงเวลา ซึ่งหากกระทำโดยเจตนาและไม่มีความจำเป็นหรืออุปสรรคพร้อมกับการเพิกเฉยและกระทำเบาความก็ถือเป็นบาปใหญ่ (كَبِيْرَة) ซึ่งจำเป็นต้องเตาบัตตัวโดยไม่รีรอ ส่วนการชดใช้ (กอฎออฺ) ละหมาดที่ขาดไปนั้น ถ้าหากว่าขาดไปเพราะลืมหรือนอนหลับ นักวิชาการเห็นพ้องกันว่า จำเป็นต้องกอฎออฺ (ชดใช้) ส่วนผู้ที่ละทิ้งการละหมาดโดยเจตนา ตามทัศนะของปวงปราชญ์ (ญุมฮู๊ร) ถือว่า ผู้นั้นมีความผิดและจำเป็นที่ผู้นั้นต้องชดใช้ (กอฎออฺ)
แต่นักวิชาการบางท่าน เช่น อิบนุตัยมียะฮฺ (ร.ฮ.) และอิบนุฮัซฺมิน ระบุว่า ไม่มีบัญญัติให้เขาผู้นั้น (ผู้ที่เจตนาละทิ้งการละหมาด) ทำการชดใช้ (กอฎออฺ) และถือว่าการละหมาดชดใช้ไม่เซาะฮฺ (ใช้ไม่ได้) -ฟิกฮุซซุนนะฮฺ ; อัซซัยยิด ซาบิก เล่มที่ 1 หน้า 297-300)
ซึ่งในประเด็นนี้สมควรที่จะยึดถือตามทัศนะของปวงปราชญ์เพราะเป็นสิ่งที่รอบคอบกว่า
والله أعلم بالصواب |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|