ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
fafa_tar@hotmail.com มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 04/07/2010 ตอบ: 15
|
ตอบ: Sun Aug 01, 2010 7:56 pm ชื่อกระทู้: อยากได้ฮาดิส |
|
|
รบกวนหน่อยค่ะ
พอดีอยากได้ฮาดิสเกี่ยวการปกปิดเอารัด เกี่ยวกับเอารัตทางเสียง และความเชื่องมงายการชีริกริก
ขอบคุณมากค่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ชาริค มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/04/2007 ตอบ: 276
|
ตอบ: Mon Aug 02, 2010 9:39 am ชื่อกระทู้: |
|
|
وأما صوت المرأة فاعتبره كثير من العلماء عورة، واستدلوا بقوله صلى الله عليه وسلم: إذا نابكم شيء في الصلاة فليسبح الرجل ولتصفق المرأة فنهاها عن التسبيح مع أنه عبادة وذكر مخافة أن يُسمع صوتها لما في ذلك من الفتنة, وكذلك نص العلماء على استحباب رفع الرجال أصواتهم بالتلبية، وأن المرأة لا ترفع صوتها إلا بقدر ما تُسمع به رفيقتها، وكذلك منع المرأة أن تتولى وظيفة الآذان لما فيه من رفع الصوت، ولعل ذلك فيما إذا كان في صوتها رقة وخضوع لقول الله تعالى: فَلَا تَخْضَعْنَ بِالْقَوْلِ فَيَطْمَعَ الَّذِي فِي قَلْبِهِ مَرَضٌ .
ليس صوت المرأة عورة بإطلاق فإن النساء كن يسألن النبي صلى الله عليه وسلم ويشتكين له ويفعلن ذلك مع خلفاء النبي صلى الله عليه وسلم وأصحابه الكرام وولاة الأمور من بعدهم, وكذا كن يسلمن على الأجانب ـ باللسان ـ ويرددن السلام وكن يعلمن ويتعلمن ولم يلق ذلك نكيراً من أحد من أئمة الإسلام, ولكن لا يجوز لها أن تتكسر في الكلام أو تخضع في القول فإن ذلك قد يثير الرجال ويكون فتنة لهم لقوله تعالى: (يَا نِسَاءَ النَّبِيِّ لَسْتُنَّ كَأَحَدٍ مِّنَ النِّسَاءِ إِنِ اتَّقَيْتُنَّ فَلاَ تَخْضَعْنَ بِالْقَوْلِ فَيَطْمَعَ الَّذِي فِي قَلْبِهِ مَرَضٌ وَقُلْنَ قَوْلاً مَّعْرُوفًا), والله
เรื่องเสียงของผู้หญิงนักวิชาบางส่วนเห็นว่าเป็นเอาเราะห์
และอีกบางส่วนเห็นว่าไม่เป็นเอาเราะห์ แต่ต้องใช้ไห้เหมาะสม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
shabab มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2008 ตอบ: 303
|
ตอบ: Tue Aug 03, 2010 10:07 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เสียงของผู้หญิงเป็นเอาเราะฮฺหรือไม่?
คลิก http://www.muslimahtoday.net/index.php?option=com_content&task=view&id=48&Itemid=42
อัลลอฮฺ ทรงตรัสไว้ในซูเราะฮฺ อัล-อะฮฺซาบฺ อายะฮฺ 32 ที่ว่า
﴿ ... إِنِ اتَّقَيْتُنَّ فَلَا تَخْضَعْنَ بِالْقَوْلِ فَيَطْمَعَ الَّذِي فِي قَلْبِهِ مَرَضٌ وَقُلْنَ قَوْلًا ﴾
...หากพวกเธอยำเกรง(อัลลอฮฺ)ก็ไม่ควรพูดจาเพราะพริ้ง เพราะจะทำให้ผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีโรคเกิดความโลภ แต่จงพูดด้วยถ้อยคำที่พอเหมาะพอควร
-------------------------------------------------
อันนี้แค่ไปหานะ
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวไว้ ซึ่งมีใจความว่า การนมาซ(นมัสการ)ของผู้ที่ไปหาหมอเวทมนต์ เพื่อขออะไรบางอย่างและเชื่อในสิ่งที่หมอเวทมนต์บอกจะไม่ถูกรับเป็นเวลา 40 วัน (บันทึกโดยมุสลิม)
แล้วถ้าเชื่อหล่ะ
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวไว้ ซึ่งมีใจความว่า "บุคคลใดที่มาหาหมอดูแล้วเชื่อในสิ่งที่หมดดูกล่าวไว้ นั่นเท่ากับว่าเขาปฏิเสธสิ่งที่ถูกประทานให้แก่นบีมุหัมมัดแล้ว (หมายถึงคัมภีร์อัลกุรฺอาน)" (บันทึกโดยบัรฺซารฺ)
และจงรู้ไว้เถิดว่า
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวไว้ ซึ่งมีใจความว่า "ไม่มีบุคคลใดรู้ในสิ่งที่อยู่ในวันพรุ่งนี้เว้นแต่พระองค์อัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น" (บันทึกโดยบุคอรีย์)
http://www.banatulhuda.com/forum/index.php?topic=265.0 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|