ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - ถามหา...หลักฐานการสุญูดบนดิน
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
ถามหา...หลักฐานการสุญูดบนดิน
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 15, 16, 17, 18, 19  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Sat Oct 17, 2009 6:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

عن أنس بن مالك قال كنا نصلي مع النبي صلى الله عليه وسلم فيضع أحدنا طرف الثوب من شدة الحر في مكان السجود
الحاشية
ในยามปกติอะน่า คนสมัยท่านนบีจะไม่สุญูดบนผ้ากกัน นอกจากในเวลาที่ร้อนจัดเท่านั้น
คือผมได้พยายามนำเสนอ และสื่ออยู่ตลอดมา ว่า ยามปกติ อยู่ดีๆนั้น ตามสุนนะนบีจริงๆ เขาจะไม่สุญูดบนผ้ากันครับ


ผมต้องการจะสื่ออย่างเดิมๆตลอดมาว่า คนสมัยท่านนบี เขารักษาสุนนะนบีกัน ด้วยการให้หน้าผากวางบนวัตถุธาตุที่เป็นดิน ในเวลาสุญูด ไม่ให้สุญูดบนผ้ากันอย่างสบายๆตามใจชอบ ครับ

พอดี เหตุบังเอิญ มันทำให้พิมพ์ไปได้เท่านั้น และฮะดีษพวกนี้ ผมได้แปลมาเสนอก่อน หลายเที่ยวแล้ว จนเซ็งแล้วครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Sat Oct 17, 2009 6:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

روى الحاكم النيسابوري في (المستدرك على الصحيحين ج4/398 ) عن أم سلمة رضي الله عنها أنّ رسول الله (ص) اضطجع ذات ليلة للنوم فاستيقظ وهو حائر، ثم اضطجع فرقد ثم استيقظ وهو حائر دون ما رأيت به المرة الأولى ثم اضطجع فاستيقظ وفي يده تربة حمراء يقبلها، فقلت ما هذه التربة يارسول الله؟

قال: أخبرني جبريل (ع) أنّ هذا يقتل بأرض العراق للحسين، فقلت لجبريل أرني تربة الأرض التي يقتل بها فهذه تربتها. .. .

(ثم قال الحاكم): هذا حديث صحيح على شرط الشيخين (البخاري ومسلم) ولم يخرجاه. ".


รายงานจากอุมมุสะละมะ(รฎ)ว่า คืนหนึ่งท่านรอซูล(ศ)ได้นอนตะแคงแล้วตื่นขึ้นมาในสภาพกระวนกระวาย แล้วท่านก็นอนตะแคงอีกแล้วตื่นขึ้นมาอีก ในสภาพกระวนกระวาย ไม่ต่างจากที่ฉันเห็นครั้งแรก ต่อมาท่านก็นอนตะแคงต่อไป แล้วตื่นขึ้นมา โดยที่ในมือของท่านมีดินสีแดง ท่านได้จูบมัน ดังนั้นฉันได้กล่าวว่า นี่เป็นดินอะไร โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)


ท่านกล่าวว่า ญิบรออีล(อ)ได้บอกฉันว่า นี่คือดินที่อิรัก ที่ถูกฆ่าสำหรับฮุเซน ดังนั้น ฉันจึงกล่าวแก่ญิบรออีลว่า โปรดให้ฉันเห็นดินแห่งแผ่นดินที่เขาจะถูกสังหารเถิด แล้วนี่แหละ คือ ดินที่นั่น
ฮากิมกล่าวว่า นี่คือฮีษศอฮีฮ์ ตามเงื่อนไขของบุคอรี มุสลิม(ผู้อาวุโสทั้งสอง)
وروى أحمد بن حنبل في (مسنده ج6/294) عن أم سلمة أو عائشة أنّ النبي (ص) قال: لقد دخل علي البيت ملك لم يدخل علي قبلها فقال لي أنّ ابنك هذا حسينا مقتول، وإن شئت أريتك من تربة الأرض التي يقتل بها، قال: فأخرج تربة حمراء.

บันทึกโดยอะห์มัด บิน ฮัมบัล ในมุสนัดเล่ม ๖/๒๙๔ รายงานจากอุมมุสะละมะหรืออาอิชะว่า ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า แท้จริงมะลักท่านหนึ่งได้เข้ามาหาฉันที่บ้าน ซึ่งท่านไม่เคยเข้าพบฉันมาก่อนเลยแล้วกล่าวกับฉันว่า บุตรของท่านคนนี้ คือฮุเซน คือผู้ถูกสังหาร ถ้าท่านต้องการ ฉันจะให้ท่านเห็นดิน ณ แผ่นดินที่เขาจะถูกฆ่า ท่านกล่าวว่า แล้วเขาก็นำดินสีแดงออกมา

- وروى الحافظ الهيثمي في (مجمع الزوائد ج9/190) عن علي (ع) قال: دخلت على النبي (ص) ذات يوم وإذا عيناه تذرفان، قلت: يا نبي الله أغضبك أحد ما شأن عينيك تفيضان، قال: بل قام من عندي جبريل (ع) فحدثني أنّ الحسين يقتل بشط الفرات قال فقال: هل لك أن أشمك من تربته؟ قلت: نعم، قال فمد يده فقبض قبضة من تراب فأعطانيها، فلم أملك عيني أن فاضتا.
(قال الحافظ الهيثمي): رواه أحمد وأبو يعلى والبزار والطبراني ورجاله ثقات..
ท่านฮาฟิซ อัลฮัยซะมีย์บันทึกใน “มัจญ์มุอุซซะวาอิด” เล่ม ๙/๑๙๐ รายงานจากอะลี(อ)กล่าวว่า วันหนึ่ง ฉันได้เข้าไปหาท่านบี(ศ)บดนั้นเองฉันได้เห็นว่าตาสองข้างของท่านแดงก่ำ ฉันกล่าวว่า โอ้นบียุลลอฮ์ อะไรทำให้ท่านโกรธจนเป็นเหตุให้ตาทั้งสองของท่านบวม ท่านกล่าวว่า มีแต่ว่าญิบรออีลท่านเพิ่งลุกไปจากฉัน ท่านได้บอกฉันวา ฮุเซนจะถูกสังหารที่ริมแม่น้ำอัลฟะรอต ท่านอะลีเล่าต่อว่า แล้วท่าน(รอซูล)ได้พูดต่อไปว่า เอาไหมฉันจะให้เธอจูบส่วนหนึ่งจากดินของเขา ? ฉันกล่าวว่า ขอรับท่าน ท่านกล่าวว่า แล้วท่านได้ยื่นมือของท่าน โดยได้กำดินส่วนนั้นไว้แล้วส่งมอบมันมาให้ฉัน ดังนั้นฉันไม่สามารถกดกลั้นน้ำตามิให้ไหลออกมาได้

ท่านฮาฟิซ อัลฮัยซุมีย์ กล่าวว่า บันทึกโดยอะห์มัด,อะบูยะอ์ลา,อัลบัซซาร,และอัฏฏ็อบรอนีย์ และบรรดานักรายงานล้วนเป็นบุคคลที่มีคุณสมับติเชื่อถือได้

وروى السيوطي في (الخصائص الكبرى) في باب أخبار النبي (ص) بقتل الحسين (ع) ما يناهز العشرين حديثا عن أكبر الثقات من رواة علماء السنة ومشاهيرهم كالحاكم والبيهقي وأبي نعيم وإضرابهم عن أم سلمة وأم الفضل وعائشة وابن عباس وأنس صاحب رسول الله (ص) وخادمه الخاص كلها تؤكد خبر التربة التي نزل بها جبرئيل على رسول الله (ص) (محمد الحسين كاشف الغطاء: الأرض والتربة الحسينية ص94).

ท่านสะยูฏีย์ได้บันทึกในหนังสือ “อัลคอศออิศุลกุบรอ”ในบาบว่าด้วยคำบอกเล่าของท่านนบี(ศ)เกี่ยวกับการสังหารท่านฮุเซน(อ)เป็นจำนวน ๒๐ ฮะดีษที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากบรรดานักรายงานอุละมาซุนนะที่เชื่อถือได้และมีชื่อเสียงอย่างยิ่งเช่นทานฮากิม ท่านบัยฮะกีย์ อะบีนะอีมและบุคคลระดับพวกเขาเหล่านั้นหลายท่าน เป็นรายงานจากอุมมุสะละมะ,อุมมุลฟัฎล์,อาอิชะ,อิบนุอับบาส,อะนัสคนติดตามและคนรับใช้พิเศษของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ทั้งหมดนั้นยืนยันคำบอกเล่าเรื่องดินที่ญิบรออีได้ลงมา แล้วนำมันมามอบให้ท่านรอซูล(ศ)
(จากหนังสือ อัลอัรฎุวัตตุรบะตุลฮุซัยนียะฮ์หน้า ๙๔)


อย่างที่ได้กล่าวอยู่เสมอว่า การทำให้พวกคุณยอมรับหรือทำให้พวกคุณรู้สึกยอมรับ ยอมจำนน เถียงไม่ขึ้นนั้น ไม่ได้เป็นหน้าที่ของผม หน้าที่ของผมคือ การให้คำตอบเท่าที่พอจะหาได้จากตำราของพวกคุณเอง

ผมได้ประจักษ์ชัดนานแล้ว ว่าพวกคุณ แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายของการสุญูดบนดิน

ผมเองก็ดูอยู่เหมือนกันครับว่า เวลาผมย้อนคำถามใดๆกลับมายังพวกคุณบ้าง ไม่ว่ากระทู้ไหน

พวกคุณสามารถให้คำตอบแก่ผมอย่างพอเพียงอันควรแก่เหตุบ้างหรือไม่ ?

การสุญูดบนดินกัรบะลา ก็เหมือนกับสุญูดบนสิ่งอื่นๆที่อนุญาตให้สุญุดลงบนได้ เช่นพื้นแผ่นดินทั่วๆไป

อิจมาอ์อุละมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า การสุญูดบนผืนแผ่นดินและดิน เป็นสิ่งถูกต้องที่สุด

จริงๆแล้ว ทั้งซุนนีและชีอะไม่มีหลักฐานว่า ต้องยกเว้นแท่งดินจากเมืองกัรบะลา

เหตุผลใดๆก็ตามที่พวกคุณหยิบยกขึ้นมาอ้างจากจินตนาการ ความรู้สึกของพวกคุณเอง เพื่อสนับสนุนการถือว่าต้องยกเว้นดินกัรบะลาจากการเป็นที่สุญูดนั้น ไม่เข้าหลักเกณฑ์ทางด้านวิชาการ ที่ต้องยอมรับแต่อย่างใด

เป็นเรื่องพาล และว่าไปตามอารมณ์

ปัญหาการขับเคี่ยวเกี่ยวกับเรื่องดินกัรบะลา ก็เพราะพวกคุณคร่ำเคร่งกับจาตุคาม ของพวกคุณกันเกินไป

ส่วนผม ไม่เคยคิดว่าจาตุคาม จะเกี่ยวอะไรกับดืนกัรบะลา

ท่านนบี ไม่เคยจูบ จาตุคาม ไม่เคยยกย่องจาตุคาม แต่ทว่า ท่านเคยจูบดินกัรบะลา และท่านเคยยกย่องดินกัรบะลา เราไม่ได้เหยียดหยามความเชื่อของศาสนิกอื่น

แต่การนำเอาความเชื่อของศาสนิกอื่น มาทำเป็นดูหมิ่นดูแคลน ควบคู่กับดูแคลนดินกัรบะลา

ผมถือว่า เป็นความบัดซบ และชั่วชาติที่สุด


فالقول بجواز السجود على الفرش والسجاد والالتزام بذلك. وافتراش المساجد بها للسجود عليها كما تداورل عند الناس بدعة محضة. وأمر محدث غير مشروع. يخالف سنة الله وسنة رسوله، ولن تجد لسنة الله تحويلا. وقد اخرج الحافظ الكبير الثقة ابو بكر ابن ابي شيبة باسناده في المصنف في المجلد الثاني عن سعيد بن المسيب وعن محمد بن سيرين: ان الصلاة على الطنفسة محدث، وقد صح عن رسول الله صلى الله عليه وآله قوله: شر الامور محدثاتها، وكل محدثة بدعة.

คำกล่าวที่เอื้อกับการอนุญาตให้สุญุดบนพรม และผ้าสะญะดะ และการถือปฏิบัติอย่างนั้น และการใช้พรมเป็นที่สุญูดตามที่คนทั้งหลายนิยมกันอยู่นั้น ถือเป็นบิดอะ และเป็นอุตริกรรม อันไม่ชอบต่อหลักศาสนา ขัดกับกฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮและแบบอย่าง(ซุนนะ)ของรอซูล และเจ้าจะไม่พบว่ากฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮจะผันแปร แน่นอนท่านฮาฟิซชั้นผู้ใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง อะบูบักร์ อิบนุ อะบี ชัยบะฮ์ รายงานโดยสายสืบของท่านในหนังสืออัลมุศนัฟ เล่ม ๒ จากท่านสะอีด บิน มุซัยยิบ และจากมุฮัมมัด บิน ซีรีน ว่า แท้จริงการนมาซบนพรมเป็นอุตริกรรม และแน่นอนที่มีรายงานจากท่านรอซูล(ศ)นั้นถูกต้องแล้ว ที่ว่า กิจการที่ชั่วร้ายยิ่ง คือกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ และทุกกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ถือเป็นบิดอะ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมุสลิม ก็คือ ความสูญเปล่าของอะมั้ลต่างๆที่ทำลงไป โดยอัลลอฮ์ ไม่ทรงยอมรับ
การสุญูดบนผ้าในยามปกติ ถือเป็นบิดอะ ที่อัลลอฮ รอซูล ไม่ยอมรับ นอกจากการสุญูดบนดิน หรือบนเสื่อที่สานมาจากพืช ท่านนบีเคยใช้เสื่อเล็กๆขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้า ที่สานมาจากใบอินทผลัม

สาวกของท่านก็เช่นกัน ไม่มีใครสุญูดบนผ้าในยามปกติ เพราะถือว่าผ้าคือ สิ่งใช้งานชนิดหนึ่งของมนุษย์ (มะอ์มูล) เว้นแต่ในยามอุปสรรค ไม่สามารถให้หน้าผากสัมผัสกับดิน หรือสิ่งที่งอกงเยจากดินได้ สรุปก็คือ วิธีการสุญูดของคนทั่วๆไปบนผ้าสะญะดะ นั้น อัลลอฮ รอซูลไม่ยอมรับครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Sat Oct 17, 2009 11:56 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

การใช้เล่ห์ลิ้น ชั้นเชิง และเหลี่ยมคู กับเรื่องภาษา ดิน ก้อนดิน ฝุ่นดิน พื้นดิน แผ่นดิน ดินปั้น หรือจะอะไรก็ตาม ไม่ได้ทำให้จุดมุ่งหมายของหลักฐานที่ผมนำมาแสดงคลาดเคลื่อน ผู้อ่าน ที่มีใจเป็นธรรม ย่อมเข้าใจได้ ว่า คำเหล่านั้นทั้งหมด อย่างไรเสีย ก็แปลว่าผ้าไม่ได้อยู่แล้ว

เราถกกันเรื่องว่า นบีสั่งให้สุญูดบนอะไร

คำตอบจากตำราของทั้งสองฝ่ายคือ ดินนั่นแหละ

แต่สมัยท่านนบี ท่านสุญูดบนพื้นดินในมัสยิด

ส่วนชีอะปัจจุบันนี้สุญูดบนก้อนดิน

ส่วนพวกคุณสุญูดบนผ้า ยังไงละ

และคำเหล่านั้นทั้งหมด คือสิ่งที่อนุญาตให้รองหน้าผากเวลาสุญูด ห้ามสิ่งอื่นที่มิใช่วัตถุธาตุเดียวกับสิ่งนั้น

นิยามความหมายคำว่า ตุรอบ ในแง่ของหลักการสุญูดก็คือ ชิ้นส่วนใดๆก็ตามที่มาจากดิน จะเป็นพื้นดินอันกว้างใหญ่ หรือ แท่งดินขนาดเล็กๆสำหรับรองหน้าผาก ก็ใช้คำนี้ได้

ชาวอาหรับเรียกแท่งดินกัรบะลาว่า ตุรบะตุลฮุเซน ไงครับ

ใครจะเข้าใจอย่างไรไม่ทราบได้ แต่คนอาหรับ เขาเข้าใจว่า แท่งดินที่นำมารองหน้าผากนั่นแหละครับ

อย่าทำไขว้เขวให้หนักไปเลย ไร้ประโยชน์ ไม่มีนักวิชาการคนไหนในโลกซุนนะ ชีอะ เขาถกเรื่องดินแบบพวกคุณกันหรอก
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 1:00 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ตรงไหนคือหลักฐานยืนยันคำพูดของ Israya ที่ว่า

"ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า"

ไม่มีเลยสักคำเดียว พอจับได้ไล่ทันก็เฉไฉไปว่า

“ในยามปกติอะน่า คนสมัยท่านนบีจะไม่สุญูดบนผ้ากัน นอกจากในเวลาที่ร้อนจัดเท่านั้น
คือผมได้พยายามนำเสนอ และสื่ออยู่ตลอดมา ว่า ยามปกติ อยู่ดีๆนั้น ตามสุนนะนบีจริงๆ เขาจะไม่สุญูดบนผ้ากันครับ”

ผมให้โอกาสคุณแล้ว แต่คุณกลับไม่ใส่ใจในการโกหกแอบอ้างกล่าวเท็จต่อท่านนบี ดังนั้นผมจึงอาสาแปลข้อความที่ Israya อ้างมั่วว่า ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้าดังนี้


بَاب السُّجُودِ عَلَى الثَّوْبِ فِي شِدَّةِ الْحَرِّ وَقَالَ الْحَسَنُ كَانَ الْقَوْمُ يَسْجُدُونَ عَلَى الْعِمَامَةِ وَالْقَلَنْسُوَةِ وَيَدَاهُ فِي كُمِّهِ
378 حَدَّثَنَا أَبُو الْوَلِيدِ هِشَامُ بْنُ عَبْدِ الْمَلِكِ قَالَ حَدَّثَنَا بِشْرُ بْنُ الْمُفَضَّلِ قَالَ حَدَّثَنِي غَالِبٌ الْقَطَّانُ عَنْ بَكْرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ كُنَّا نُصَلِّي مَعَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَيَضَعُ أَحَدُنَا طَرَفَ الثَّوْبِ مِنْ شِدَّةِ الْحَرِّ فِي مَكَانِ السُّجُودِ
باب السجود على الثوب في شدة الحر وقال الحسن كان القوم يسجدون على العمامة والقلنسوة ويداه في كمه
378 حدثنا أبو الوليد هشام بن عبد الملك قال حدثنا بشر بن المفضل قال حدثني غالب القطان عن بكر بن عبد الله عن أنس بن مالك قال كنا نصلي مع النبي صلى الله عليه وسلم فيضع أحدنا طرف الثوب من شدة الحر في مكان السجود
الحاشية

คำแปล บทที่ว่าด้วยเรื่อง การสุญูดบนอาภรณ์ในขณะที่ร้อนจัด และฮะซันได้กล่าวว่า บรรดาผู้คนได้สุญูดบนผ้าสะระบั่นและหมวก ขณะที่มือของเขาอยู่ในแขนเสื้อ อบูอัลวะลีด ฮิชาม อิบนุ อับดิลมาลิก เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า ยัสรุ อิบนุ อัลมุฟัฏฏ็อล เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า ฆอลิบ อัลก็อฏฏอน เล่าให้ฉันฟัง จากบักร์ บิน อับดิลลาฮ์ จากอะนัส บินมาลิก กล่าวว่า พวกเราเคยละหมาดพร้อมกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม โดยที่คนหนึ่งในหมู่พวกเราได้วางชายผ้าในสถานที่สุญูด เนื่องจากความร้อน

ความหมายของข้อความที่โพ้สต์มามีเท่านั้น ส่วนอีกย่อหน้าหนึ่งนั้น คือประโยคเดิมที่โพ้สต์ซ้ำ

นอกเสียจากไม่ใช่หลักฐานที่ Israya โกหกต่อท่านนบีแล้ว ยังจะเป็นหลักฐานยืนยันว่า บรรดาศอฮาบะห์สุญูดบนผ้าโดยที่ท่านนบีให้การยอมรับ

แล้ว Israya โกหกต่อท่านนบีได้อย่างไรว่า ท่านนบีไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า มั่วสุดๆ โกหกแบบไม่มียางอายเลยนิ

แล้ว Israya ยังจะแก้ตัวอีกว่า


"พอดี เหตุบังเอิญ มันทำให้พิมพ์ไปได้เท่านั้น"

โกหกใส่ร้ายนบีเป็นเรื่องใหญ่ แทนที่จะแก้ไขแล้วกลับคำใหม่ แต่ก็ด้านและยอมที่จะเป็นดังภาษิตที่ว่า

คนดีชอบแก้ไข คนจันไร ชอบแก้ตัว


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 1:02 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ส่วนฮะดีษที่ยกมาเกี่ยวกับเรื่องของดินกับบาลาอ์ ผมยังไม่ขอวิจารณ์ฮะดีสในตอนนี้

แต่การที่ Israya เอามาอ้างก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการละหมาด, ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการสุญูด

หรือมีหลักฐานว่าท่านนบีเอาดินกัรบาลาอ์มารองสุญูดในขณะละหมาด

ชีอะฮ์จะไม่ตอบคำถามนี้หรอก เพราะท่านนบี หรือแม้แต่ท่านอาลีก็ไม่เคยทำเช่นนั้น

เพราะฉะนั้นอย่าเอาเรื่องอื่นมามั่วกับ การสุญูดในละหมาด


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 1:19 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้อความภาษาอาหรับอีกท่อนหนึ่งที่ Israya นำมาอ้างว่า

فالقول بجواز السجود على الفرش والسجاد والالتزام بذلك. وافتراش المساجد بها للسجود عليها كما تداورل عند الناس بدعة محضة. وأمر محدث غير مشروع. يخالف سنة الله وسنة رسوله، ولن تجد لسنة الله تحويلا. وقد اخرج الحافظ الكبير الثقة ابو بكر ابن ابي شيبة باسناده في المصنف في المجلد الثاني عن سعيد بن المسيب وعن محمد بن سيرين: ان الصلاة على الطنفسة محدث، وقد صح عن رسول الله صلى الله عليه وآله قوله: شر الامور محدثاتها، وكل محدثة بدعة.

คำกล่าวที่เอื้อกับการอนุญาตให้สุญุดบนพรม และผ้าสะญะดะ และการถือปฏิบัติอย่างนั้น และการใช้พรมเป็นที่สุญูดตามที่คนทั้งหลายนิยมกันอยู่นั้น ถือเป็นบิดอะ และเป็นอุตริกรรม อันไม่ชอบต่อหลักศาสนา ขัดกับกฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮและแบบอย่าง(ซุนนะ)ของรอซูล และเจ้าจะไม่พบว่ากฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮจะผันแปร แน่นอนท่านฮาฟิซชั้นผู้ใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง อะบูบักร์ อิบนุ อะบี ชัยบะฮ์ รายงานโดยสายสืบของท่านในหนังสืออัลมุศนัฟ เล่ม ๒ จากท่านสะอีด บิน มุซัยยิบ และจากมุฮัมมัด บิน ซีรีน ว่า แท้จริงการนมาซบนพรมเป็นอุตริกรรม และแน่นอนที่มีรายงานจากท่านรอซูล(ศ)นั้นถูกต้องแล้ว ที่ว่า กิจการที่ชั่วร้ายยิ่ง คือกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ และทุกกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ถือเป็นบิดอะ


ผมขอชี้แจงด้วยถ้อยคำของ Israya ที่กล่าวแก่อาจารย์อะสันว่า


ขอโทษนะบัง
ภาษาอาหรับที่บังยกมา ไม่มีฮะดีษของท่านนบีสักคำเดียว อย่างนี้เขาเรียกว่า เอาภาษาอาหรับมาอ่านแหกตา อันนี้แย่มากครับ เป็นทัศนะของกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง เหมือนกับพวกบังนี่แหละครับ

เป็นไงครับ แอบไปด่าบังอะสันอีกกระทู้หนึ่งอร่อยปากไปเลย ที่ไหนได้โดนตัวเองเต็มๆ แต่ไม่เจ็บหรอก เพราะ Israya อย่างหนาตราช้างอยู่แล้ว

นอกจากข้อความข้างต้นที่ชีอะฮ์โพ้สต์มาลอยๆ เพื่อโจมตีซุนนะฮ์แล้ว แต่มันกลับกลายเป็นมีดเฉือดเฉือนจารีตของตัวเองอย่างเหวอะวะ

เนื่องจากชีอะฮ์ปูพรมก่อน นี่คือบิดอะฮ์ขั้นหนึ่งตามที่ว่า

มิหนำซ้ำยังไปเอาก้อนดินมาวางบนพรมอีก นี่คือบิดอะฮ์ขั้นที่สอง


เสียดายว่าผมโพสต็รูปไม่เป็น ขอแรงคุณแอนตี้เอารูปมาโพสต์ซ้ำอีกครั้งได้ไหม จะได้เห็นกันจะจะว่า ชีอะฮ์เอาข้อความข้างต้นนี้มาประจานตนเองว่า พวกเขาทำบิดอะฮ์ซ้อนบิดอะฮ์

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 1:22 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้ออ้างของ Israya อีกประการหนึ่งคือ

อิจมาอ์อุละมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า การสุญูดบนผืนแผ่นดินและดิน เป็นสิ่งถูกต้องที่สุด

ผมอยากเห็นอิจมาอ์ตัวจริงที่อ้างข้างต้นนี้เหลือเกิน อยากรู้ว่า ไอ้คำที่ว่า การสุญูดบนผืนแผ่นดินและดิน นั้น ตัวจริงของจริงเขาว่าไว้อย่างไร หรือมั่วๆไปก่อน ถ้าจับได้ไล่ทันค่อยมาแก้ตัวทีหลัง

และผมอยากเห็นอิจมาอ์อุลามาอ์อีกอันหนึ่งที่ว่า การเอาดินกัรบาลาอ์มรองสุญูดในขณะละหมาดเป็นสิ่งถูกต้องที่สุด

อยากจะทดสอบเหมือนกันว่า Israya จะด้านได้สักแค่ไหน


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AntiRafidah
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009
ตอบ: 120


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 2:39 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ali บันทึก:

ข้อความภาษาอาหรับอีกท่อนหนึ่งที่ Israya นำมาอ้างว่า

فالقول بجواز السجود على الفرش والسجاد والالتزام بذلك. وافتراش المساجد بها للسجود عليها كما تداورل عند الناس بدعة محضة. وأمر محدث غير مشروع. يخالف سنة الله وسنة رسوله، ولن تجد لسنة الله تحويلا. وقد اخرج الحافظ الكبير الثقة ابو بكر ابن ابي شيبة باسناده في المصنف في المجلد الثاني عن سعيد بن المسيب وعن محمد بن سيرين: ان الصلاة على الطنفسة محدث، وقد صح عن رسول الله صلى الله عليه وآله قوله: شر الامور محدثاتها، وكل محدثة بدعة.

คำกล่าวที่เอื้อกับการอนุญาตให้สุญุดบนพรม และผ้าสะญะดะ และการถือปฏิบัติอย่างนั้น และการใช้พรมเป็นที่สุญูดตามที่คนทั้งหลายนิยมกันอยู่นั้น ถือเป็นบิดอะ และเป็นอุตริกรรม อันไม่ชอบต่อหลักศาสนา ขัดกับกฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮและแบบอย่าง(ซุนนะ)ของรอซูล และเจ้าจะไม่พบว่ากฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮจะผันแปร แน่นอนท่านฮาฟิซชั้นผู้ใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง อะบูบักร์ อิบนุ อะบี ชัยบะฮ์ รายงานโดยสายสืบของท่านในหนังสืออัลมุศนัฟ เล่ม ๒ จากท่านสะอีด บิน มุซัยยิบ และจากมุฮัมมัด บิน ซีรีน ว่า แท้จริงการนมาซบนพรมเป็นอุตริกรรม และแน่นอนที่มีรายงานจากท่านรอซูล(ศ)นั้นถูกต้องแล้ว ที่ว่า กิจการที่ชั่วร้ายยิ่ง คือกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ และทุกกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ถือเป็นบิดอะ


ผมขอชี้แจงด้วยถ้อยคำของ Israya ที่กล่าวแก่อาจารย์อะสันว่า


ขอโทษนะบัง
ภาษาอาหรับที่บังยกมา ไม่มีฮะดีษของท่านนบีสักคำเดียว อย่างนี้เขาเรียกว่า เอาภาษาอาหรับมาอ่านแหกตา อันนี้แย่มากครับ เป็นทัศนะของกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง เหมือนกับพวกบังนี่แหละครับ

เป็นไงครับ แอบไปด่าบังอะสันอีกกระทู้หนึ่งอร่อยปากไปเลย ที่ไหนได้โดนตัวเองเต็มๆ แต่ไม่เจ็บหรอก เพราะ Israya อย่างหนาตราช้างอยู่แล้ว

นอกจากข้อความข้างต้นที่ชีอะฮ์โพ้สต์มาลอยๆ เพื่อโจมตีซุนนะฮ์แล้ว แต่มันกลับกลายเป็นมีดเฉือดเฉือนจารีตของตัวเองอย่างเหวอะวะ



เนื่องจากชีอะฮ์ปูพรมก่อน นี่คือบิดอะฮ์ขั้นหนึ่งตามที่ว่า

มิหนำซ้ำยังไปเอาก้อนดินมาวางบนพรมอีก นี่คือบิดอะฮ์ขั้นที่สอง

เสียดายว่าผมโพสต็รูปไม่เป็น ขอแรงคุณแอนตี้เอารูปมาโพสต์ซ้ำอีกครั้งได้ไหม จะได้เห็นกันจะจะว่า ชีอะฮ์เอาข้อความข้างต้นนี้มาประจานตนเองว่า พวกเขาทำบิดอะฮ์ซ้อนบิดอะฮ์


.







ขอมาก็ต้องจัดให้ครับ อ่านดูแล้วคิดว่าน่าจะเป็นรูปนี้












ผมเห็นภาพนี้แล้ว คุณ ali ครับ ผมว่าคนหน้าสุดน่าจะบิดอะ 3 ขั้นเลยครับ
เพราะปูพรมอยู่แล้ว แต่ดันปูผ้าขาว แล้ววางก้อนดินจตุคามซ้ำอีกที





สารบั่นดำหน้าสุด แกเหมา 3 เด้งเลยนะเนี่ย?
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 9:21 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถ้าพวกคุณแยกแยะขั้นตอน และหลักปฏิบัติในนมาซ ก็จะเข้าใจคำว่า ที่สุญูด ที่ยืน ที่วางมือ ที่ลงหัวเข่าได้ นั่นแสดงว่าพวกคุณ เข้าใจเรื่องนมาซ

แต่ถ้าหากยังเข้าใจสับสนอยู่ระหว่าง ขั้นตอนเหล่านี้ ก็ขอให้ทำความเข้าใจเสียเร็วๆ

اخرج الحافظ الكبير الثقة ابو بكر ابن ابي شيبة باسناده في المصنف في المجلد الثاني عن سعيد بن المسيب وعن محمد بن سيرين: ان الصلاة على الطنفسة محدث، وقد صح عن رسول الله صلى الله عليه وآله قوله: شر الامور محدثاتها، وكل محدثة بدعة.

ท่านฮาฟิซชั้นผู้ใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง อะบูบักร์ อิบนุ อะบี ชัยบะฮ์ รายงานโดยสายสืบของท่านในหนังสืออัลมุศนัฟ เล่ม ๒ จากท่านสะอีด บิน มุซัยยิบ และจากมุฮัมมัด บิน ซีรีน ว่า แท้จริงการนมาซบนพรมเป็นอุตริกรรม และแน่นอนที่มีรายงานจากท่านรอซูล(ศ)นั้นถูกต้องแล้ว ที่ว่า กิจการที่ชั่วร้ายยิ่ง คือกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ และทุกกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ถือเป็นบิดอะ

ขอเรียนว่า ท่านฮาฟิซผู้นี้ มิใช่นักปราชญ์ชีอะ ถ้อยคำที่ท่านกล่าวว่า "แท้จริงการนมาซบนพรมเป็นอุตริกรรม" จึงเป็นทัศนะของท่าน แต่เราสามารถทำความเข้าใจได้ว่า ท่านหมายถึง ที่สุญูดเท่านั้น ไม่รวมถึงที่ยืน ที่นั่ง ที่วางหัวเข่า และมือทั้งสอง เพราะอุละมาชีอะเกริ่นนำข้อความนี้ไว้ก่อนแล้วว่า

فالقول بجواز السجود على الفرش والسجاد والالتزام بذلك. وافتراش المساجد بها للسجود عليها كما تداورل عند الناس بدعة محضة. وأمر محدث غير مشروع. يخالف سنة الله وسنة رسوله، ولن تجد لسنة الله تحويلا

คำอธิบายถึงการอนุญาตให้สุญุดบนพรม และผ้าสะญะดะ และการถือปฏิบัติอย่างนั้น และการใช้พรมเป็นที่สุญูดตามที่คนทั้งหลายนิยมกันอยู่นั้น ถือเป็นบิดอะ และเป็นอุตริกรรม อันไม่ชอบต่อหลักศาสนา ขัดกับกฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮและแบบอย่าง(ซุนนะ)ของรอซูล และเจ้าจะไม่พบว่ากฏ(ซุนนะ)ของอัลลอฮจะผันแปร

หัวข้อที่เรากำลังคุยกันในกระทู้ คือ หลักฐานการสุญูดบนดิน ว่าเป็นมาอย่างไร ?

ผมก็ได้หยิบยกหลักฐานต่างๆมาสนับสนุน เพื่อชี้ให้เห็นว่า ที่สุญูด(ที่รองรับหน้าผาก)นั้น วาญิบต้องให้มันกระทบกับดิน หรือ หิน ทราย ก้อนดิน แท่งดิน ฝุ่นดิน หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เป็นวัตถุธาตุประเภทเดียวกันนั้น ไม่เกี่ยวกับที่ยืน ที่วางมือ ที่วางหัวเข่า

เพราะเป็นหิกมะหนึ่งของท่านนบี ที่ต้องการให้การสุญูดของเรา เป็นการถ่อมตัวให้ต่ำต้อยต่ออัลลอฮมากที่สุด

จนกระทั่งให้หน้าผากซึ่งเป็นอวัยวะที่มีเกียรติยิ่งของมนุษย์ ต้องสัมผัสกับดิน วัตถุธาตุที่ตนถูกสร้างมา และที่ตนเหยียบย่ำอยู่เบื้องล่าง ในยามก้มกราบอัลลอฮ์

หรือไม่เช่นนั้น ก็ให้สุญูดบนวัตถุที่ได้มาจากสิ่งที่งอกเงยจากดินโดยตรงเช่นเสื่อกก ,ค็อมเราะฮ์ (เสื่อเล็กๆจากใบอินทผลัม)

ผมเสนอหลักฐานด้วยความจริงใจ ไม่เคยเล่นลิ้นว่า ท่านนบีจะไม่อนุญาตให้สุญูดบนผ้า นอกจากในยามอุปสรรค ซึ่งก็ล้วนมาจากตำราของพวกคุณ ไม่เอามาเป็นข้อคิดกันบ้างหรือ ?

หลักปฏิบัติของเรา มิได้อยู่กับการเล่นลิ้น แต่อยู่กับหลักฐานที่มั่นคง และชัดเจนเสมอ

ส่วนฮะดีษที่พวกคุณยกมาแสดงว่า ท่านนบีอนุญาตให้สุญูดบนผ้านั้น ความจริงพวกคุณ หรืออุละมาของพวกคุณก็รู้ดีว่า ได้คัดมาจากฮะดีษเดียวกัน ซึ่งมีสำนวนเต็มๆเดิมๆ ว่า "ในยามร้อนจัด" พ่วงท้ายอยู่ด้วย

ส่วนดินกัรบะลา ที่พวกคุณตั้งข้อรังเกียจนั้น มีอีกประเด็นหนึ่งที่แยกออกมาต่างหาก นั่นคือ เรื่องชิริก เพราะถ้าพวกคุณไม่คิดว่าเป็นชิริก ก็ไม่มีความจำเป็นอันใดต้องถกเถียงกันใช่ไหมครับ

ผมจึงมองว่าพวกคุณคงเข้าใจผิด หรืออาจแกล้งเข้าใจให้ผิด หรือพวกคุณอาจเข้าใจความหมายของการเป็นชิริก ผิดแผกแตกต่างไปจากความหมายที่เป็นจริง ตามที่อัลลอฮและรอซูล ให้ความหมาย ถ้าจะคุยกันในประเด็นนี้ เราก็คุยกัน ไม่เป็นไร

เพราะพวกคุณเข้าใจผิด จึงคิดว่าดินกัรบะลาเป็นจาตุคาม ความจริงดินกัรบะลา พวกชีอะนำมารองสุญูดมานานเป็นพันปีแล้ว ส่วนจาตุคาม เท่าที่ผมรู้ก็แค่ไม่กี่ปีนี่เอง พวกคุณให้ความสำคัญกับมันมาก ในขณะที่ส่วนตัวผมนั้น จะว่าโง่ก็โง่ เพราะผมไม่มีข้อมูลอะไรของจาตุคามเลย และไม่เคยเห็นความสำคัญอันใดของจาตุคาม

ผมได้แต่ยืนยันกับพวกคุณว่า เรื่องชิริก เป็นเรื่องของจิตใจแต่ละคน เรามองในหัวใจของเขาไม่เห็น จะตรัสรู้เองไม่ได้ว่า พวกเขาทำชิริก และไม่น่าเป็นไปได้ ที่คนมุสลิมเรา จะเป็นมุชริกได้ง่ายดายเพียงนั้น

จะสุญูดบนจากกัรบะลา หรือจะสุญูดบนผ้า จากมักกะก็ตาม ความผิดของคนทั้งคู่ ไม่น่าจะถึงขั้นมุชริก ถ้าจะผิดก็คงผิดเพียงว่า ที่สุญูดเศาะฮ์ หรือไม่เศาะฮ์ เท่านั้น

แต่ถ้าสมมติว่าชีอะคนใด เข้าใจว่า ดินกัรบะลา คือพระเจ้า หรือมีอิทฤทธิ์ มีอานุภาพเหมือนกับพระเจ้า สามารถควบคุมการเกิด การเจ็บ การตาย สามารถให้ริซกี ให้ทุกข์ ให้สุข แก่ตัวเองได้

แน่นอน ชีอะคนนั้นก็ตกเป็นมุชริกไป แต่ถ้าเขาไม่ได้คิด ไม่ได้เชื่ออย่างนั้น เขาก็ต้องไม่ใช่มุชริก การจะไปฮุก่มว่าเขาเป็นมุชริก มันป็นบาปมหันต์ เพียงเพราะ ด้วยเหตุว่า พวกเขาเอาดินกัรบะลามารองเป็นที่สุญูด

เพราะว่า ในสมัยนบีศอฮาบะกับท่านนบีก็เคยเอาดินทราย มาวางบนผ้า เพื่อรองหน้าผาก (โปรด
ดูหลักฐานที่ผมยกมาอ้างก่อนหน้านี้)

ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าใครเอาผ้าสะญะดะจากมักกะมาปู แล้วเข้าใจว่าผ้านี้มีสภาวะของพระเจ้า
เพราะมีรูปจำลองมัสยิดที่ศักดิ์สิทธิ์ คงมีอิทฤทธิ์ มีอานุภาพเหมือนกับพระเจ้า สามารถควบคุมการ

เกิด การเจ็บ การตาย สามารถให้ริซกี ให้ทุกข์ ให้สุข แก่ตัวเองได้ คนนั้นก็เป็นมุชริกได้เหมือน
กัน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AntiRafidah
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009
ตอบ: 120


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 11:32 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

israya บันทึก:

จะสุญูดบนจากกัรบะลา หรือจะสุญูดบนผ้า จากมักกะก็ตาม ความผิดของคนทั้งคู่ ไม่น่าจะถึงขั้นมุชริก ถ้าจะผิดก็คงผิดเพียงว่า ที่สุญูดเศาะฮ์ หรือไม่เศาะฮ์ เท่านั้น

แต่ถ้าสมมติว่าชีอะคนใด เข้าใจว่า ดินกัรบะลา คือพระเจ้า หรือมีอิทฤทธิ์ มีอานุภาพเหมือนกับพระเจ้า สามารถควบคุมการเกิด การเจ็บ การตาย สามารถให้ริซกี ให้ทุกข์ ให้สุข แก่ตัวเองได้

แน่นอน ชีอะคนนั้นก็ตกเป็นมุชริกไป แต่ถ้าเขาไม่ได้คิด ไม่ได้เชื่ออย่างนั้น เขาก็ต้องไม่ใช่มุชริก การจะไปฮุก่มว่าเขาเป็นมุชริก มันป็นบาปมหันต์ เพียงเพราะ ด้วยเหตุว่า พวกเขาเอาดินกัรบะลามารองเป็นที่สุญูด

เพราะว่า ในสมัยนบีศอฮาบะกับท่านนบีก็เคยเอาดินทราย มาวางบนผ้า เพื่อรองหน้าผาก (โปรด
ดูหลักฐานที่ผมยกมาอ้างก่อนหน้านี้)

ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าใครเอาผ้าสะญะดะจากมักกะมาปู แล้วเข้าใจว่าผ้านี้มีสภาวะของพระเจ้า
เพราะมีรูปจำลองมัสยิดที่ศักดิ์สิทธิ์ คงมีอิทฤทธิ์ มีอานุภาพเหมือนกับพระเจ้า สามารถควบคุมการ

เกิด การเจ็บ การตาย สามารถให้ริซกี ให้ทุกข์ ให้สุข แก่ตัวเองได้ คนนั้นก็เป็นมุชริกได้เหมือน
กัน




ไม่มีใครเค้าคิดกับผ้าสะญะดะอย่างที่คุณงมงายคิดว่าเขาเชื่อหรอกครับ

เทียบกันแล้ว พวกคุณอันตรายกว่าเยอะ ที่เอาก้อนดินแกะสลักชื่อมนุษย์มารองหน้าผาก
ซึ่งทั้งหมดไม่มีแบบฉบับจากท่านนบีอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เขียนอย่างนี้ก็เถียงว่าไม่ใช่ แต่ขอหลักฐานไปเท่าไหร่ ก็ไม่มี?

ผมเห็นคุณก็เถียงข้างๆ คูๆ โชว์กลับกลอกพลิกลิ้นให้ดูทุกวัน ไม่เห็นเคยเอาหลักฐานที่
ท่านนบีเคยเอาดินมาปั้นเป็นก้อน แล้วเอาก้อนดินนั้นมาแกะสลักเป็นตัวอักษรแล้วสูญูดเเบบพวกคุณหรือเปล่า?





กลับกัน ท่านนบีห้ามอย่างหนักหนาที่จะเอาสิ่งใดมาคู่เคียงกับอัลลอฮฺ ขณะสูญูดเป็นท่าทางที่ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺที่สุด

แต่ในท่วงท่าขณะสูญูดนั้น พวกคุณกลับไปรำลึกนึกถึงมนุษย์อย่างเช่นท่านอาลี
ท่านหญิงฟาติมะ หรือท่านฮูเซ็น ตามชื่อที่แกะสลักบนก้อนดินนั้น

นั่นแหละครับ ที่เขาเรียกว่าชิริก


จะแกะสลักไปทำไมบนก้อนดินครับ กลัวอัลลอฮฺไม่รู้หรือครับว่ากำลังสูญูดให้พระองค์?
หรือว่าจะกลัวใครเขาไม่รู้ว่ากำลังรำลึกถึงบรรดาอิมามในขณะละหมาด?


ขณะที่ก้มตัวลงไปสูญูด สายตาก็ต้องมองเห็นชื่อมนุษย์ที่เขียนอยู่บนก้อนดินอยู่แล้วครับ
พอสูญูดแทนที่จะได้รำลึกถึงอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียวขณะสูญูด กลายเป็นว่านึกอยู่ในใจด้วย
ว่ามีชื่อของบรรดาอิมามแกะอยู่บนก้อนดิน กลายเป็นไม่ได้รำลึกถึงพระองค์อัลลอฮเพียงพระองค์เดียว


นี่ผมไม่อยากคิดนะครับว่า เขียนพระนามของอัลลอฮฺและชื่อมนุษย์ไว้ด้วยกัน พอสูญูดให้อัลลอฮฺ
คนที่คิดค้นก้อนดินแกะสลักคนแรกก็ต้องการให้มีความหมายเท่ากับสูญูดให้บรรดาอิมามไปด้วย
ถ้าจะบอกว่าการสูญูดให้บรรดาอิมามเป็นไปไม่ได้ ก็เป็นไปแล้วในกระทู้ที่คุณ dolmabahce โพสต์ไว้



"อะลีคอมาเนอี ผู้นำที่อิสรายาและอ้ายโหยบ ย้อมใหญ้ ภูมิใจกราบกุบุ้รอิมามริดอคนที่ 8"
http://www.moradokislam.org/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=12909#12909






ชัดเจนมั้ยครับ?

แล้วก็ยกมาสักทีเถอะครับ คนอ่านเขารออ่านนานแล้ว รอคุณยก

หลักฐานที่ท่านนบีเคยเอาดินมาปั้นเป็นก้อน แล้วเอาดินมาแกะสลักเป็นตัวอักษรแล้วสูญูดเเบบพวกคุณน่ะมีหรือเปล่า?

ของคุณเองก็ยังไม่เคลียว่าถูกต้องตรงตามที่ท่านนบีปฏิบัติหรือไม่ แล้วจะไปบอกว่าของผู้อื่นบิดอะได้ไง?
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 12:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Israya พูดไปเรื่อยเปื่อยจริงๆ

โกหกกล่าวเท็จต่อท่านนบีซ้ำแล้วซ้ำเล่า และผมเตือนแล้ว แต่คุณก็ยังไม่สำเนียก มิหนำซ้ำยังแอบอ้างอิจมาอ์ อุลามาอ์ ซึ่งเมื่อผมให้คุณนำมาแสดง ก็แถไถลไปเรื่อยๆ

หลักฐานที่คุณยกมาทั้งหมดจากตำราของชาวซุนนีนั้น ไม่มีเลยสักบทเดียวที่จะเป็นหลักฐานยืนยันให้แก่การปฏิบัติของพวกคุณ

ข้อสังเกตก็คือทั้งชาวซุนนะฮ์และเจ้าของตำราที่คุณนำมาอ้างนั้น ไม่มีผู้ใดเลยที่จะพกดินติดตัว แล้วเวลาสุญูดก็เอามารองหน้าผาก เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่ระบุให้กระทำเช่นนั้น แต่การที่ Israya แอบอ้างเอามาเป็นหลักฐานก็ใช้วิธีการโจรกรรมนั่นแหละ โดยเอาตัวบทในบันทึกของเขามา แล้วเอาการกระทำของตัวเองสวมแทน และทึกทักว่า นี่ไง คือหลักฐานที่ชีอะฮ์กระทำอยู่ในตำราของชาวซุนนี ไม่มียางอายเลย

ตัวบททั้งหมดพูดถึงเรื่อง การสุญูดบนพื้น ไม่ว่าพื้นนั้นจะเป็นดิน เสื้อ หรืออื่นๆ ตามที่นำเสนอกันมาแล้ว
แต่การกระทำของพวกท่านคือ การพกดินติดตัวเวลาสุญูดก็เอามารองหน้าผาก

คุณทำอย่างหนึ่งแล้วอ้างหลักฐานอีกอย่างหนึ่ง อย่างนี้ไม่เรียกว่าโจรกรรมหรือ

แล้วข้อความภาษาอาหรับที่ยกมาล่าสุด ก็แปลข้างๆคูๆ ซะงั้นแหละ เอามาให้เห็นดังนี้


اخرج الحافظ الكبير الثقة ابو بكر ابن ابي شيبة باسناده في المصنف في المجلد الثاني عن سعيد بن المسيب وعن محمد بن سيرين: ان الصلاة على الطنفسة محدث، وقد صح عن رسول الله صلى الله عليه وآله قوله: شر الامور محدثاتها، وكل محدثة بدعة.

ท่านฮาฟิซชั้นผู้ใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง อะบูบักร์ อิบนุ อะบี ชัยบะฮ์ รายงานโดยสายสืบของท่านในหนังสืออัลมุศนัฟ เล่ม ๒ จากท่านสะอีด บิน มุซัยยิบ และจากมุฮัมมัด บิน ซีรีน ว่า แท้จริงการนมาซบนพรมเป็นอุตริกรรม และแน่นอนที่มีรายงานจากท่านรอซูล(ศ)นั้นถูกต้องแล้ว ที่ว่า กิจการที่ชั่วร้ายยิ่ง คือกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ และทุกกิจการที่อุตริขึ้นมาใหม่ถือเป็นบิดอะ

ทำไมผมถึงบอกว่าชีอะอ์แปลข้างๆคูๆ

เหตุเพราะคำว่า الطنفسة มันคือเสื่อเล็กๆ หรือพรมเล็กๆ ที่ผู้คนนิยมเอามารองหน้าผากขณะสุญูด

อ้าว !! แล้วการเอาดินก้อนเล็กๆ มารองหน้าผากขณะสุญูดมิเข้าข่ายอุตริกรรมด้วยหรือนี่

ท่านทั้งหลายเห็นไหมว่า ข้อความเขาสื่ออย่างหนึ่ง แต่ชีอะฮ์กลับมั่วเอามาเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่ง นิสัยโกหกมดเท็จไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ

แล้วอีกประการหนึ่ง ที่อ้างเป็นอิจมาอ์อุลามาอ์ นั้น ผมรอการแสดงหลักฐานอยู่ หรือจะถูๆไถๆ ตะแคงข้างไปเรื่อยๆ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 12:38 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Israya กล่าวว่า

"ในสมัยนบีศอฮาบะกับท่านนบีก็เคยเอาดินทราย มาวางบนผ้า เพื่อรองหน้าผาก (โปรด
ดูหลักฐานที่ผมยกมาอ้างก่อนหน้านี้)"

ข้อความข้างต้นนี้โกหก กล่าวเท็จต่อท่านนบี และบรรดาศอฮาบะฮ์

และอย่ามั่วว่าเคยยกมาอ้างก่อนหน้านี้ เพื่อให้ผู้คนเข้าใจว่า คุณเอามาเสนอแล้วผมเฉยไม่คัดค้าน วิธีมั่วๆของคุณไม่ได้ผล การโกหกกล่าวเท็จต่อท่านนบีเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งผมเตือนคุณหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นว่าชีอะฮ์จะสะทกสะท้าน ผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายพฤติกรรมแลวๆของคุณแล้วละ

ถ้าคุณไม่เลวจริง และคุณไม่ได้โกหกกล่าวเท็จต่อท่านนบี กรุณานำมาแสดง


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
israya
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009
ตอบ: 293


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 4:02 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

การจูบสิ่งของที่ตนรักและหวงแหน เพราะความรู้สึกผูกพัน และด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อสิ่งนั้นๆ จะผิดอย่างเช่น ท่านตรงไหน อย่างเช่นท่านนบีและท่านอะลี ท่านหญิงอุมมุสะละมะจูบดินกัรบะลา ด้วยความรักและยกย่องการเป็นชะฮีดของอิมามฮุเซนอันจะเกิดขึ้นในอนาคต

สามีจูบภรรยา ด้วยความรัก และยกย่อง พ่อจูบหน้าผากลูก ลูกจูบมือพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ชีอะทุกคนจะจูบดินกัรบะลา จะจูบอัลกุรอาน จะว่าเขาผิด ก็ว่าไป นั่นมันเรื่องของเขา และนี่ก็เรื่องของคุณ

ต้องยอมรับครับว่า ความรักของคนเรา ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะมีน้ำหนักไม่เท่าทียมกันทุกคน บางคนรัก แค่ให้ได้เห็นสิ่งนั้นก็พอแล้ว บางคนอาจต้องการสัมผัส แต่บางคนอาจถึงขั้นจูบ ของที่พวกเขารัก

คนจูบผนังบัยตุลลอฮ จูบหินดำ จูบสุสานของนบี ที่เขารัก ถ้าจะว่าผิด ก็ต้องคิดด้วยปัญญาสักหน่อยแล้ว นบียะอกูบจูบสื้อของนบียูซุฟ แล้วร้องไห้จนตาบอดสี

แล้วถ้าถึงขั้นจูบสุสาน เอาสมองส่วนไหนคิดว่า การจูบสุสานเป็นชิริก

เพราะเรื่องการเป็นชิริกนั้น ง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องจูบสุสาน แค่นั่งเฉยๆ แต่ในใจคิดและเชื่อ
ในความสำคัญอันยิ่งใหญ่ต่อจาตุคาม คุณก็เป็นมุชริกได้ เห็นไหมครับ คนมุชริก(ศาสนิกอื่น)ที่นั่งทำงานในออฟฟิศ นั่งหลับในรถเมล์เต็มไปหมด พวกเขาไม่ได้จูบสุสานใครสักหน่อย พวกเขาไม่ได้เป็นมุชริกหรือครับ ?


แน่นอน ถ้าหากเขาสุญูดสุสาน ด้วยกิริยาอาการครบสมบูรณ์ตามลักษณะสุญูดต่ออัลลอฮ์ หรือก้มลงสุญูดบนสุสานนั้น ให้ถือว่าผิด และหะรอม

แต่ถ้าจะพูดว่า พวกเขาทำชิริก อันนี้ผมว่า ง่ายนิดเดียวครับ ส่งรูปภาพต่างๆของพวกเขาไปแจ้งกระทรวงการศาสนาของซาอุ แล้วให้อดทนรอดูว่ารัฐบาลซาอุเขาว่าอย่างไรก่อนดีไหมครับ ?

แล้วถ้าหากเทศกาลฮัจญ์ปีหน้า รัฐบาลซาอุฯ ยังอนุญาตให้มุชริกเข้าเมืองมักกะได้ วานพวกคุณช่วยประท้วงอุละมาของรัฐบาลซาอุด้วยก้แล้วกัน ส่วนผมจะคอยเป็นแบ็คให้พวกคุณอยู่ข้างหลัง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ali
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 295


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 4:18 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ.......

หวังว่าคุณ Israya คงไม่จูบเมียในละหมาดหรอกนะ

การละหมาดคือการอิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์ แทนที่จิตใจจะมุ่งมั่นต่ออัลลอฮ์ แต่ชีอะฮ์กลับเรียกร้องให้จูบดินกัรบาลาอ์เพื่อระลึกถึงท่านฮุเซนหรือนี่


สุญูด กับ จูบ มันคนละเรื่องกัน เด้อ อ้าย เด้อ ซิบอกห่าย


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
AntiRafidah
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009
ตอบ: 120


ตอบตอบ: Sun Oct 18, 2009 4:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

israya บันทึก:

การจูบสิ่งของที่ตนรักและหวงแหน เพราะความรู้สึกผูกพัน และด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อสิ่งนั้นๆ จะผิดอย่างเช่น ท่านตรงไหน อย่างเช่นท่านนบีและท่านอะลี ท่านหญิงอุมมุสะละมะจูบดินกัรบะลา ด้วยความรักและยกย่องการเป็นชะฮีดของอิมามฮุเซนอันจะเกิดขึ้นในอนาคต

สามีจูบภรรยา ด้วยความรัก และยกย่อง พ่อจูบหน้าผากลูก ลูกจูบมือพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ชีอะทุกคนจะจูบดินกัรบะลา จะจูบอัลกุรอาน จะว่าเขาผิด ก็ว่าไป นั่นมันเรื่องของเขา และนี่ก็เรื่องของคุณ

ต้องยอมรับครับว่า ความรักของคนเรา ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะมีน้ำหนักไม่เท่าทียมกันทุกคน บางคนรัก แค่ให้ได้เห็นสิ่งนั้นก็พอแล้ว บางคนอาจต้องการสัมผัส แต่บางคนอาจถึงขั้นจูบ ของที่พวกเขารัก

คนจูบผนังบัยตุลลอฮ จูบหินดำ จูบสุสานของนบี ที่เขารัก ถ้าจะว่าผิด ก็ต้องคิดด้วยปัญญาสักหน่อยแล้ว นบียะอกูบจูบสื้อของนบียูซุฟ แล้วร้องไห้จนตาบอดสี

แล้วถ้าถึงขั้นจูบสุสาน เอาสมองส่วนไหนคิดว่า การจูบสุสานเป็นชิริก

เพราะเรื่องการเป็นชิริกนั้น ง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องจูบสุสาน แค่นั่งเฉยๆ แต่ในใจคิดและเชื่อ
ในความสำคัญอันยิ่งใหญ่ต่อจาตุคาม คุณก็เป็นมุชริกได้ เห็นไหมครับ คนมุชริก(ศาสนิกอื่น)ที่นั่งทำงานในออฟฟิศ นั่งหลับในรถเมล์เต็มไปหมด พวกเขาไม่ได้จูบสุสานใครสักหน่อย พวกเขาไม่ได้เป็นมุชริกหรือครับ ?

แน่นอน ถ้าหากเขาสุญูดสุสาน ด้วยกิริยาอาการครบสมบูรณ์ตามลักษณะสุญูดต่ออัลลอฮ์ หรือก้มลงสุญูดบนสุสานนั้น ให้ถือว่าผิด และหะรอม


แต่ถ้าจะพูดว่า พวกเขาทำชิริก อันนี้ผมว่า ง่ายนิดเดียวครับ ส่งรูปภาพต่างๆของพวกเขาไปแจ้งกระทรวงการศาสนาของซาอุ แล้วให้อดทนรอดูว่ารัฐบาลซาอุเขาว่าอย่างไรก่อนดีไหมครับ ?

แล้วถ้าหากเทศกาลฮัจญ์ปีหน้า รัฐบาลซาอุฯ ยังอนุญาตให้มุชริกเข้าเมืองมักกะได้ วานพวกคุณช่วยประท้วงอุละมาของรัฐบาลซาอุด้วยก้แล้วกัน ส่วนผมจะคอยเป็นแบ็คให้พวกคุณอยู่ข้างหลัง




อ้าวเฮ้ย ดูดีๆ สิคุณรอฟิเฎาะ israya เอ๋ย
เขาสูญูดแบบตอนสูญูดต่ออัลลอฮฺในละหมาดชัดๆ เลยนะนั่น?





(ทำไมไม่เอาหินจะตุคามมาวางด้วยหว่า?)




เห็นกันชัดๆ ตั้งแต่ต้นวีดีโอเลยนะ
อย่างนี้ผู้นำของคุณกับอัยโหยบก็ผิดและหะรอมตามคุณว่าใช่ป่าวครับ?



หลักฐานน่ะ มันต้องเอากันชัดๆ จะๆ แบบนี้
ไม่ใช่ไปเลียบๆ เคียงๆ มาแล้วบอกว่าใช่นะ รอฟิเฎาะเอ๋ย




สงสัยจัง เพราะพวกคุณชอบสูญูดต่อกูบูรใช่หรือเปล่า ถึงได้เอาดินที่อิมามของคุณเสียชีวิตมาสูญูด?



shiah_sujud_to_kubur.JPG
 คำจำกัดความ:
 ขนาดไฟล์:  4.28 กิโลไบต์
 เข้าชม:  13831 ครั้ง

shiah_sujud_to_kubur.JPG


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 15, 16, 17, 18, 19  ถัดไป
หน้า 16 จากทั้งหมด 19

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.14 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ