ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Oct 13, 2009 10:18 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
israya บันทึก: | ส่วนการสุญูดลงบนดินเป็นการกระทำที่สูงและดีกว่า เนื่องจากว่าได้เข้าถึงแก่นของการแสดงความนอบน้อมถ่อมตน ณ เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งและเกรียงไกร
( ذلك ومن يعظّم حرمات الله فهو خير له عنـد ربّـه )(1) (ฮัจญ์ ๓๐/๒๒)
เช่นนั้นแหละ และผู้ใดให้เกียรติสิ่งต้องห้ามทั้งหลายของอัลลอฮ์(*1*) มันก็เป็นการดีแก่เขา ณ ที่พระเจ้าของเขา[/b] |
นี่ก็เป็นการบิดเบือนอายะฮอัลกุรอ่าน เพราะอายะฮข้างต้นไม่ได้หมายถึงการห้ามสุญูดบนเสื่อ ,บนผ้า บนพื้นพรมแต่อย่างใด มันคนละเรื่องกันครับ
อิบนุญะรีร กล่าวว่า
عن ابن جريج، قال: قال مجاهد، في قوله ( ذلكَ وَمَنْ يُعَظِّمْ حُرُماتِ اللهِ ) قال: الحُرْمة: مكة والحجّ والعُمرة، وما نهى الله عنه من معاصيه كلها
จากอิบนุ ญุรัยญ์ กล่าวว่า "มุญาฮิด กล่าวในคำตรัสของอัลลอฮที่ว่า(เช่นนั้นแหละ และผู้ใดให้เกียรติสิ่งต้องห้ามทั้งหลายของอัลลอฮ์) เขากล่าวว่า อัลหุรมะฮ หมายถึง มักกะฮ,(กฏข้อห้ามเกี่ยวกับ)การทำหัจญและอุมเราะฮ และสิ่งที่อัลลอฮห้ามจากบรรดาสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามทั้งหมดของมัน - ดูตัฟสีร อัฏฏอ็บรย์ อธิบายอายะฮที่ ๓๐ ซูเราะฮ อัลหัจญ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Tue Oct 13, 2009 10:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
israya บันทึก: |
[b]أنس بن مالك: كنّا إذا صلّينا مع النبيّ (صلى الله عليه وآله وسلم) فلم يسـتطع أحدنا أن يمكّن جبهته من الأرض من شـدّة الحرّ، طرح ثوبه، ثمّ سـجد عليه(1).
ท่านอะนัส บินมาลิก นมาซร่วมกับท่านนบี(ศ) ไม่สามารถวางหน้าผากลงกับพื้นดินได้ เนื่องจากร้อนจัด จึงทอดผ้าลงไป แล้วสุญูดบนผ้านั้น
وفي لفظ البخاري: كنّا نصلّي مع النبي (صلى الله عليه وآله وسلم) فيضع أحدنا طرف الثوب من شـدّة الحرّ في مكان السـجود(2).
พวกเรานมาซพร้อมกับท่านนบี ศ พวกเราคนหนึ่งวางผ้าลงในสถานที่สุญูดเนื่องจากร้อนจัด(บุคอรี)
وفي لفظ مسـلم: كنّا نصلّي مع النبيّ (صلى الله عليه وآله وسلم) في شـدّة الحرّ، فإذا لم يسـتطع أحدنا أن يمكّن جبهته من الأرض بسـط ثوبه فسـجد عليه(3
พวกเรานมาซพร้อมกับท่านนบี(ศ)ในยามร้อนจัด ครั้นเมื่อพวกเราคนใดไม่สามารถให้หน้าผากสัมผัสกับพื้นดินได้ เขาจะปูผ้าแล้วสุญูดบนผ้านั้น] |
...................
หะดิษในตำราซุนนีย์ข้างต้นที่คุณยกมา ก็ไม่มีนักหะดิษซูนนีย์ท่านใดใช้เป็นหลักฐานกำหนดเงือนไขว่า ต้องสุญูดบนดินเท่านั้น และห้ามสุญูดบนผ้า และพื้นซิเมนตื ตกลงว่า คุณเอามาทำอะไร _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Tue Oct 13, 2009 11:43 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
و اخرج النسايي و ابوداوود و البيهقي و احمد عن جابر بن عبد الله انصاري قال : كنت اصلي مع النبي (ص) الظهر فآخذ قبضة من الحصي فاجعلها في كفي ثم احولها الي الكف الاخري حتي تبرد ثم اضعها لجبيني حتي اسجد من شدة الحر
ท่านญาบิร ศอฮาบะนบี นมาซซุฮ์ริร่วมกับท่านนบี(ศ) เล่าว่า ท่านกำกรวดในฝ่ามือแล้วพลิกไปพลิกมากับมืออีกข้าง จนกระทั่งมันเย็น แล้วนำวางตรงที่รองหน้าผากเพื่อสุญูด ทั้งนี้เพราะร้อนจัด
ที่จริงถ้าพวกเขามีความเป็นกลางในหัวใจ หลักฐานเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะยอมรับว่า การที่พวกชีอะฮ์วางดินกัรบะลา หรือแท่งดินใดๆลงบนผ้าเพื่อรองหน้าผากในนสุญูด ก็ไม่ต่างอะไรกับหลักฐานนี้
ความโง่ของบังนั้น เหมือนเด็กที่ยังอ่านหนังสือไม่แตก จุดประสงค์ของฮะดีษนี้ ก็คือ ยืนยันให้เห็นว่า จำเป็นต้องให้ดินสัมผัสกับหน้าผาก สักแค่ไหน ร้อนจัดอย่างไรก็ยังจำเป็นต้องให้หน้าผากสัมผัสกับดินหรือกรวดทราย ไงละบัง ถ้าไม่จำเป็นขนาดนั้น มันเรื่องอะไรที่พวกเขาจะต้องทำเช่นนั้น วางผ้าแล้วก็สุญูดบนผ้าเสียเลยซิ บังอคติกับดินกัรบะลา จนเกินไปแล้ว ดูๆจะยิ่งกว่า อิบลีสอคติกับดินในร่างของอาดัมเสียอีกนะบัง ไม่รู้เหมือนกันว่า บังมีปัญหาอะไรกับดินกัรบะลาหนักหนา ความรู้ของบังมีเพียงน้อยิด ผมเข้าใจ และหวังว่า จะสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ แต่ถ้าหากปัญญาน้อย แต่อคติมากนี่ ลำบากนะครับ
السجود على طين قبر الحسين ينوّر إلى الاَرض السابعة قال الاِمام الصادق عليه السلام:;
อิหม่ามอัศศอดิก อะลัยฮิสสลาม กล่าวว่า " การสุญูดบนดินสุสานของอัลหุสัยนฺ อะลัยฮิสสลามนั้น มันจะทำให้เกิดรัศมี ไปยังแผ่นดินทั้งเจ็ดชั้น - (๑)
อันนี้บังก็ไม่ต้องเชื่อซิครับ มันไม่จำเป็นว่า อะไรที่บังไม่เชื่อแล้วสิ่งนั้นจะต้องผิดเสมอไป ไม่เช่นนั้นผมก็สามารถจะบอกว่าบังก็ผิดอย่างมหันต์เหมือนกัน ที่ไม่เชื่ออย่างนี้
.....................
(๑)(الوسائل 3/607 ، من لا يحضره الفقيه 1/268 ).
เพราะฉะนั้นอย่านำหะดิษในตำราของอะฮลุสสุนนะฮมาบิดเบือนเลยครับ และอย่างที่คุณเคยบอกว่าไม่เคยให้ราคากับหลักฐานเล่านี้ แต่คุณกลับแอบนำมาอ้างเป็นหลักฐานอย่างไม่ละอายแก่ใจ
[B]มันไม่ใช่ยังง้าน บังก็ แหมผมเอาฮะดีษของอะฮลิสสุนนะมาบิดเบือนตรงไหนหรือครับ บิดเบือนอย่างไร สมุนของบังถามหาหลักฐานว่า เคยมีไหมในสุนนะที่มีการวางดินเมืองกัรบะลาบนผ้า ผมก็ไม่รู้จะไปเอามาจากไหน
ผมก็เลยไปเปิดหนังสือของพวกบังเข้า แล้วนำมาเสนอให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า อ้ายการวางดินบนผ้านี้ มีในตำราของสุนนะของบังอยู่เหมือนกันนะครับ แต่บังและเด็กๆ อาจยังเรียนไม่ถึงเท่านั้นเอง
เพียงแต่ว่า ดินที่ศอฮาบะนำไปวาง มันเป็นดินต่างบ้านต่างเมืองกันเท่านั้นเองกับดินเมืองกัรบะลา พวกเขาอุปสรรคตรงพื้นโลกร้อนจัด ส่วนเราอุปสรรคตรงที่ไม่ออกไปยืนนมาซบนพื้นโลก(อัรฎ์)นอกมัสยิดไงละครับ
บังอ้างความเป็นเจ้าของตำรานั้นๆได้เลยครับไม่มีใครแย่ง ชีอะแค่ขอยืมมาอ้างถึงบ้าง ก็แค่นั้น อ้างเสร็จผมก็ส่งคืน อย่าอารมณ์เสียเลยนะครับบัง ของดีๆอิสลามสอนให้แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ [/B] |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Tue Oct 13, 2009 11:55 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ทึก:
ส่วนการสุญูดลงบนดินเป็นการกระทำที่สูงและดีกว่า เนื่องจากว่าได้เข้าถึงแก่นของการแสดงความนอบน้อมถ่อมตน ณ เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งและเกรียงไกร
( ذلك ومن يعظّم حرمات الله فهو خير له عنـد ربّـه )(1) (ฮัจญ์ ๓๐/๒๒)
เช่นนั้นแหละ และผู้ใดให้เกียรติสิ่งต้องห้ามทั้งหลายของอัลลอฮ์(*1*) มันก็เป็นการดีแก่เขา ณ ที่พระเจ้าของเขา[/b]
นี่ก็เป็นการบิดเบือนอายะฮอัลกุรอ่าน เพราะอายะฮข้างต้นไม่ได้หมายถึงการห้ามสุญูดบนเสื่อ ,บนผ้า บนพื้นพรมแต่อย่างใด มันคนละเรื่องกันครับ
อิบนุญะรีร กล่าวว่า
عن ابن جريج، قال: قال مجاهد، في قوله ( ذلكَ وَمَنْ يُعَظِّمْ حُرُماتِ اللهِ ) قال: الحُرْمة: مكة والحجّ والعُمرة، وما نهى الله عنه من معاصيه كلها
จากอิบนุ ญุรัยญ์ กล่าวว่า "มุญาฮิด กล่าวในคำตรัสของอัลลอฮที่ว่า(เช่นนั้นแหละ และผู้ใดให้เกียรติสิ่งต้องห้ามทั้งหลายของอัลลอฮ์) เขากล่าวว่า อัลหุรมะฮ หมายถึง มักกะฮ,(กฏข้อห้ามเกี่ยวกับ)การทำหัจญและอุมเราะฮ และสิ่งที่อัลลอฮห้ามจากบรรดาสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามทั้งหมดของมัน - ดูตัฟสีร อัฏฏอ็บรย์ อธิบายอายะฮที่ ๓๐ ซูเราะฮ อัลหัจญ
แล้วบังก็มาปล่อยไก่ลงตรงนี้อีกตัว ปล่อยจนผมจับแกงไม่ไหวแล้วละบัง มุสลิมเราต้องเข้าใจว่า
สิ่งต้องห่ามของอัลลอฮ์ มีอี่กหลายสิ่งหลายประการ ที่เราต้องให้เกียรติ ไม่ใช่แค่สถานที่ในมักกะ
อย่างเดียว และกฎข้อห้ามในพิธีฮัจญ์อย่างเดียว อันนั้นเป็นคำตัฟซีรของท่านมุญาฮิด ส่วนในคำ
ตัฟซีรของคนอื่นๆอีกละบัง บริเวณสุสานของท่านนบี สุสานบากีอ์ สุสานคนศอลิห์ บรรดาเอาลียา
ทั้งหลาย ก็เป็นสถานที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้เหมือนกันนะบังนะ อิมามฮุเซนในทัศนะของชีอะ ก็เป็น
บุคคลต้องห้าม มิให้ผู้ใดละเมิดเหมือนกันนะบัง เพราะท่านเป็นประมุขของบรรดาชะฮีด และเป็น
ประมุขของชาวสวรรค์ สุสานของหัวหน้าชาวสวรรค์ บังอย่าละเมิดนักเลยครับ เรียนต่อไปอีกนะ
บัง ผมขอร้อง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 14, 2009 12:02 am ชื่อกระทู้: |
|
|
أنس بن مالك: كنّا إذا صلّينا مع النبيّ (صلى الله عليه وآله وسلم) فلم يسـتطع أحدنا أن يمكّن جبهته من الأرض من شـدّة الحرّ، طرح ثوبه، ثمّ سـجد عليه(1).
ท่านอะนัส บินมาลิก นมาซร่วมกับท่านนบี(ศ) ไม่สามารถวางหน้าผากลงกับพื้นดินได้ เนื่องจากร้อนจัด จึงทอดผ้าลงไป แล้วสุญูดบนผ้านั้น
وفي لفظ البخاري: كنّا نصلّي مع النبي (صلى الله عليه وآله وسلم) فيضع أحدنا طرف الثوب من شـدّة الحرّ في مكان السـجود(2).
พวกเรานมาซพร้อมกับท่านนบี ศ พวกเราคนหนึ่งวางผ้าลงในสถานที่สุญูดเนื่องจากร้อนจัด(บุคอรี)
وفي لفظ مسـلم: كنّا نصلّي مع النبيّ (صلى الله عليه وآله وسلم) في شـدّة الحرّ، فإذا لم يسـتطع أحدنا أن يمكّن جبهته من الأرض بسـط ثوبه فسـجد عليه(3
พวกเรานมาซพร้อมกับท่านนบี(ศ)ในยามร้อนจัด ครั้นเมื่อพวกเราคนใดไม่สามารถให้หน้าผากสัมผัสกับพื้นดินได้ เขาจะปูผ้าแล้วสุญูดบนผ้านั้น]
...................
หะดิษในตำราซุนนีย์ข้างต้นที่คุณยกมา ก็ไม่มีนักหะดิษซูนนีย์ท่านใดใช้เป็นหลักฐานกำหนดเงือนไขว่า ต้องสุญูดบนดินเท่านั้น และห้ามสุญูดบนผ้า และพื้นซิเมนตื ตกลงว่า คุณเอามาทำอะไร
_________________
[B]ผมยกมาเพื่อยืนยันเป็นหลักฐานว่าท่านนบีให้แบบอย่างเนรื่องการสุญูดแบบนั้น คือวางหน้าผากลงบนดิน เพื่อให้พวกคุณพิสูจน์ด้วยการกระทำของตัวเองว่า ที่ตะโกนจนก้องโลกทุกคืนวันว่า อยู่กับสุนนะนบีนั้น พวกท่านโฆษณาชวนเชื่อหรือว่าพูดความจริง เพื่อแสดงหลักบานให้คุณเห็นว่า คำพูดจากปากของพวกคุณ กับการกระทำของพวกคุณ มันไปด้วยกันหรือเปล่า
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ทำไมพวกเจ้าพูดในสิ่งที่พวกเจ้าไม่กระทำบาปใหญ่ที่สุด คือการที่พวกเจ้าพูด ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่กระทำ
โลกทั้งโลก รวมทั้งมนุษยืและมะลาอิกะฮ์ ต่างเป็นพยานได้เลยว่า พวกคุณไม่ได้ทำตามสุนนะนบีแต่อย่างใด ในเรื่องการสุญูด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 14, 2009 12:57 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ในใจของบัง รังเกียจความสัมพันธืระหว่างการสุญูด กับดินแดนที่มีสุสาน เสียจริงๆ บังกลัวผีเหรอ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AntiRafidah มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Wed Oct 14, 2009 1:15 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อุตสาห์รอวันแล้ววันเล่า รอฟิเฏาะ israya ยังมั่วเป๋ไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่สามารถนำหลักฐานต่อไปนี้มาแสดงได้
1.หลักฐานที่ท่านนบีเอาดินกัรบาลา หรือดินทั่วไปก็ได้มาปั้นเป็นก้อน แล้วนำไปรองสูญูดที่หน้าผากเหมือนชีอะห์
2.หลักฐานที่ท่านนบีเอาก้อนดินที่ปั้นแล้วมาแกะสลักตัวอักษรต่างๆ ก่อนนำไปสูญูดแบบรอฟิเฏาะชีอะห์
ถ้านำมาแสดงไม่ได้ ก็ถือว่าการอ้างของรอฟิเฏาะชีอะห์ที่ว่าทำตามซุนนะฮฺนบีนั้น
ก็ถือว่าโกหกปลิ้นปล้อนอย่างร้ายแรงต่อซุนนะนบี หรือพูดได้อีกอย่างว่ารอฟิเฏาะชีอะห์นั้น
ไม่มีหลักฐานจากท่านนบีในการสูญูดบนก้อนดินอย่างที่รอฟิเฏาะชีอะห์ทำใดๆ เลย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AntiRafidah มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Wed Oct 14, 2009 1:55 am ชื่อกระทู้: |
|
|
israya บันทึก: |
أنس بن مالك: كنّا إذا صلّينا مع النبيّ (صلى الله عليه وآله وسلم) فلم يسـتطع أحدنا أن يمكّن جبهته من الأرض من شـدّة الحرّ، طرح ثوبه، ثمّ سـجد عليه(1).
ท่านอะนัส บินมาลิก นมาซร่วมกับท่านนบี(ศ) ไม่สามารถวางหน้าผากลงกับพื้นดินได้ เนื่องจากร้อนจัด จึงทอดผ้าลงไป แล้วสุญูดบนผ้านั้น
وفي لفظ البخاري: كنّا نصلّي مع النبي (صلى الله عليه وآله وسلم) فيضع أحدنا طرف الثوب من شـدّة الحرّ في مكان السـجود(2).
พวกเรานมาซพร้อมกับท่านนบี ศ พวกเราคนหนึ่งวางผ้าลงในสถานที่สุญูดเนื่องจากร้อนจัด(บุคอรี)
وفي لفظ مسـلم: كنّا نصلّي مع النبيّ (صلى الله عليه وآله وسلم) في شـدّة الحرّ، فإذا لم يسـتطع أحدنا أن يمكّن جبهته من الأرض بسـط ثوبه فسـجد عليه(3
พวกเรานมาซพร้อมกับท่านนบี(ศ)ในยามร้อนจัด ครั้นเมื่อพวกเราคนใดไม่สามารถให้หน้าผากสัมผัสกับพื้นดินได้ เขาจะปูผ้าแล้วสุญูดบนผ้านั้น]
...................
หะดิษในตำราซุนนีย์ข้างต้นที่คุณยกมา ก็ไม่มีนักหะดิษซูนนีย์ท่านใดใช้เป็นหลักฐานกำหนดเงือนไขว่า ต้องสุญูดบนดินเท่านั้น และห้ามสุญูดบนผ้า และพื้นซิเมนตื ตกลงว่า คุณเอามาทำอะไร
_________________
[B]ผมยกมาเพื่อยืนยันเป็นหลักฐานว่าท่านนบีให้แบบอย่างเนรื่องการสุญูดแบบนั้น คือวางหน้าผากลงบนดิน เพื่อให้พวกคุณพิสูจน์ด้วยการกระทำของตัวเองว่า ที่ตะโกนจนก้องโลกทุกคืนวันว่า อยู่กับสุนนะนบีนั้น พวกท่านโฆษณาชวนเชื่อหรือว่าพูดความจริง เพื่อแสดงหลักบานให้คุณเห็นว่า คำพูดจากปากของพวกคุณ กับการกระทำของพวกคุณ มันไปด้วยกันหรือเปล่า
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ทำไมพวกเจ้าพูดในสิ่งที่พวกเจ้าไม่กระทำบาปใหญ่ที่สุด คือการที่พวกเจ้าพูด ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่กระทำ
โลกทั้งโลก รวมทั้งมนุษยืและมะลาอิกะฮ์ ต่างเป็นพยานได้เลยว่า พวกคุณไม่ได้ทำตามสุนนะนบีแต่อย่างใด ในเรื่องการสุญูด
|
โอ อะไรกันนี่ คำว่า الارض เดี๋ยวก็แปลว่า ดิน ผ่านไปสักพักก็แปลว่าแผ่นดิน ผ่านไปพักอีกก็แปลว่าพื้นดิน
ผ่านไปอีกหน่อยก็แปลว่าดินอีกครั้ง จะเอาอะไรกันแน่ พลิกลิ้นไปมาอย่างน่าทุเรศจัง รอฟิเฎาะ israya
ส่วนเรื่องบาปใหญ่ที่สุด คิอ การตั้งภาคีชิริกกับอัลลอฮฺต่างหาก ไม่ได้รู้เรื่องเล้ย ก็ดังเช่นที่รอฟิเฎาะชีอะห์เอาจตุคาม
มาร่วมในการละหมาดอิบาดัตต่ออัลลอฮฺต่างหาก พระองค์ไม่อภัยโทษให้เชียวนะ ถ้าเอาสิ่งใดมาให้มีภาคีต่อพระองค์
Thai: [4:48] แท้จริงอัลลอฮ์ จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่การที่สิ่งหนึ่งจะถูกให้มีภาคี ขึ้นแก่พระองค์และพระองค์ทรงอภัยให้แก่สิ่งอื่นจากนั้นสำหรับผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และผู้ใดให้มีภาคีขึ้นแก่อัลลอฮ์แล้วแน่นอนเขาก็ได้อุปโลกน์บาปกรรมอันใหญ่หลวงขึ้น
สักตัวอักษรเขียนชื่อของมนุษย์เต็มไปหมดเลยครับ แล้วก็เอามาใช้ตอนขณะกราบไหว้ต่ออัลลอฮฺ
เราเองก็เป็นพยานยืนยันได้เหมือนกันว่ารอฟิเฎาะอย่างพวกคุณ "ไม่ได้ทำตามสุนนะนบีแต่อย่างใด ในเรื่องการสุญูด"
อ้าว ก็แล้วถ้าทำตามซุนนะฮฺนบี ทำไมถึงไม่ตอบคำถามที่เราถามไว้ 2 ข้อข้างล่างนี้ซะทีล่ะครับ?
1.หลักฐานที่ท่านนบีเอาดินกัรบาลา หรือดินทั่วไปก็ได้มาปั้นเป็นก้อน แล้วนำไปรองสูญูดที่หน้าผากเหมือนชีอะห์
2.หลักฐานที่ท่านนบีเอาก้อนดินที่ปั้นแล้วมาแกะสลักตัวอักษรต่างๆ ก่อนนำไปสูญูดแบบรอฟิเฏาะชีอะห์
ถ้านำมาแสดงไม่ได้ ก็ถือว่าการอ้างของรอฟิเฏาะชีอะห์ที่ว่าทำตามซุนนะฮฺนบีนั้น
ก็ถือว่าโกหกปลิ้นปล้อนอย่างร้ายแรงต่อซุนนะนบี หรือพูดได้อีกอย่างว่ารอฟิเฏาะชีอะห์นั้น
ไม่มีหลักฐานจากท่านนบีในการสูญูดบนก้อนดินแกะสลักอย่างที่รอฟิเฏาะชีอะห์ทำใดๆ เลย
เฮ้อ..... สูญูดบนก้อนดินแกะสลัก อันตรายๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Wed Oct 14, 2009 1:12 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
การสุญูดสุสานเป็นสิ่งต้องห้าม ใช่แล้ว แต่การให้เกียรติสุสาน เพื่อให้ใช้บริเวณสุสานเป็นที่สุญุดนั้น อิสลามส่งเสริมมาช้านานแล้ว และอัลกุรอานก็ยังยกย่องสุสานของคนมีเกียรติในทัศนะของอัลลอฮ จนถึงกับยกให้เป็นที่สุญูด
ฉะนั้นการสุญูดบลนดินกัรบะลา ถูกต้อง ได้ทั้งสุนนะ และได้ทั้งหลักการตามอัลกุรอาน
รับรองว่า อัลลอฮ์อนุญาตให้สุญูดบนดินกัรบะลาแน่นอน อัลลอฮรับรองแน่นอน และไม่ทรงตำหนิแน่นอน ที่มุสลิมชีอะ นำดินจากเมืองกัรบะลา มาเป็นที่รองสุญูด
แม้จะพิมพ์ลวดลายนูน แต่ก็เป็นดินทั้งหมด ไม่ใช่ภาพเขียน ภาพสมมติ ภาพกะบะจำลอง เหมือนผ้ายันตร์ที่คนบางกลุ่มนิยมใช้
ดินกัรบะลาเนดินที่อัลลอฮให้เกียรติแน่นอน ไม่เช่นนั้น พระองค์คงไม่บัญชาให้มะลาอิกะไปนำมามอบให้ท่านนบี
ชีอะเอามารองหน้าผาก ส่วนท่านนบี ท่านอะลี อุมมุสะละมะเอามาจูบ สรุปว่า ตราบใดที่ชีอะให้เกียรติแก่สุสานอิมามฮุเซน ตราบนั้น ชีอะทำถุกต้องเสมอ
เพราะการให้เกียรติสุสานของผู้มีเกียรติตามทัศนะของอัลลอฮ ด้วยการสุญูดบนดินของเมืองแห่งสุสานผู้มีเกียรติ สอดคล้องและตรงตามความหมายของอายะกุรอาน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AntiRafidah มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Wed Oct 14, 2009 2:47 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
israya บันทึก: |
การสุญูดสุสานเป็นสิ่งต้องห้าม ใช่แล้ว แต่การให้เกียรติสุสาน เพื่อให้ใช้บริเวณสุสานเป็นที่สุญุดนั้น อิสลามส่งเสริมมาช้านานแล้ว และอัลกุรอานก็ยังยกย่องสุสานของคนมีเกียรติในทัศนะของอัลลอฮ จนถึงกับยกให้เป็นที่สุญูด
ฉะนั้นการสุญูดบลนดินกัรบะลา ถูกต้อง ได้ทั้งสุนนะ และได้ทั้งหลักการตามอัลกุรอาน
รับรองว่า อัลลอฮ์อนุญาตให้สุญูดบนดินกัรบะลาแน่นอน อัลลอฮรับรองแน่นอน และไม่ทรงตำหนิแน่นอน ที่มุสลิมชีอะ นำดินจากเมืองกัรบะลา มาเป็นที่รองสุญูด
แม้จะพิมพ์ลวดลายนูน แต่ก็เป็นดินทั้งหมด ไม่ใช่ภาพเขียน ภาพสมมติ ภาพกะบะจำลอง เหมือนผ้ายันตร์ที่คนบางกลุ่มนิยมใช้
ดินกัรบะลาเนดินที่อัลลอฮให้เกียรติแน่นอน ไม่เช่นนั้น พระองค์คงไม่บัญชาให้มะลาอิกะไปนำมามอบให้ท่านนบี
ชีอะเอามารองหน้าผาก ส่วนท่านนบี ท่านอะลี อุมมุสะละมะเอามาจูบ สรุปว่า ตราบใดที่ชีอะให้เกียรติแก่สุสานอิมามฮุเซน ตราบนั้น ชีอะทำถุกต้องเสมอ
เพราะการให้เกียรติสุสานของผู้มีเกียรติตามทัศนะของอัลลอฮ ด้วยการสุญูดบนดินของเมืองแห่งสุสานผู้มีเกียรติ สอดคล้องและตรงตามความหมายของอายะกุรอาน
|
ที่ว่าสอดคล้องและตรงตามความหมายของอายะอัลกุรอาน
นั่นคืออายะไหนครับที่คุณว่า ยกมาให้เป็นขวัญตาหน่อยสิ อย่ามั่วเอง
เฮ้ออออ ยังคงใช้ความคิดเห็นของตัวเองรับรอง ไหนละหลักฐาน เราไม่เชื่อความเห็นของคุณ คุณต้องเอาหลักฐานมาแสดงสิ ไม่ใช่รับรองเอาเอง
พยายามเขียนรับรองเองอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นคำถาม ที่ถามไว้แท้ๆ ที่ถามว่า
1.หลักฐานที่ท่านนบีเอาดินกัรบาลา หรือดินทั่วไปก็ได้มาปั้นเป็นก้อน แล้วนำไปรองสูญูดที่หน้าผากเหมือนชีอะห์
2.หลักฐานที่ท่านนบีเอาก้อนดินที่ปั้นแล้วมาแกะสลักตัวอักษรต่างๆ ก่อนนำไปสูญูดแบบรอฟิเฏาะชีอะห์
ถ้านำมาแสดงไม่ได้ ก็ถือว่าการอ้างของรอฟิเฏาะชีอะห์ที่ว่าทำตามซุนนะฮฺนบีนั้น
ก็ถือว่าโกหกปลิ้นปล้อนอย่างร้ายแรงต่อซุนนะนบี หรือพูดได้อีกอย่างว่ารอฟิเฏาะชีอะห์นั้น
ไม่มีหลักฐานจากท่านนบีในการสูญูดบนก้อนดินแกะสลักอย่างที่รอฟิเฏาะชีอะห์ทำใดๆ เลย
เฮ้อ ทำไมไม่ตอบสักทีนะ แต่ดูเหมือนทำท่าทางจะยอมรับแล้วนี่ว่า สิ่งที่รอฟิเฎาะกระทำมันไม่ได้เป็นการทำตามซุนนะฮฺนบี |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Wed Oct 14, 2009 5:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณ israya
คุณเข้าใจอ้างนะว่าเอากะบะห์จำลองมาปูแทน เหมือนผ้ายันต์
ซึ่งผมไม่เห็นว่าจะเหมือนตรงใหนเลย
แต่ดินที่คุณใช้สุหญูดน่ะ เหมือนดินจตุคาม อันนี้ผมเชื่อว่าคุณก็เห็นด้วยกับผม
แถมยังแกะสลักอีก กลัวจะไม่เหมือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AntiRafidah มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 05/06/2009 ตอบ: 120
|
ตอบ: Thu Oct 15, 2009 1:32 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้าว ที่ถามไว้ยังไม่ตอบอีกเหรอ อุตสาห์แวะเข้ามาดู เนี่ยที่ทำอักษรเป็นสีน้ำเงินจากข้อความของคุณ
อยากได้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
israya บันทึก: |
การสุญูดสุสานเป็นสิ่งต้องห้าม ใช่แล้ว แต่การให้เกียรติสุสาน เพื่อให้ใช้บริเวณสุสานเป็นที่สุญุดนั้น อิสลามส่งเสริมมาช้านานแล้ว และอัลกุรอานก็ยังยกย่องสุสานของคนมีเกียรติในทัศนะของอัลลอฮ จนถึงกับยกให้เป็นที่สุญูด
ฉะนั้นการสุญูดบลนดินกัรบะลา ถูกต้อง ได้ทั้งสุนนะ และได้ทั้งหลักการตามอัลกุรอาน
รับรองว่า อัลลอฮ์อนุญาตให้สุญูดบนดินกัรบะลาแน่นอน อัลลอฮรับรองแน่นอน และไม่ทรงตำหนิแน่นอน ที่มุสลิมชีอะ นำดินจากเมืองกัรบะลา มาเป็นที่รองสุญูด
แม้จะพิมพ์ลวดลายนูน แต่ก็เป็นดินทั้งหมด ไม่ใช่ภาพเขียน ภาพสมมติ ภาพกะบะจำลอง เหมือนผ้ายันตร์ที่คนบางกลุ่มนิยมใช้
ดินกัรบะลาเนดินที่อัลลอฮให้เกียรติแน่นอน ไม่เช่นนั้น พระองค์คงไม่บัญชาให้มะลาอิกะไปนำมามอบให้ท่านนบี
ชีอะเอามารองหน้าผาก ส่วนท่านนบี ท่านอะลี อุมมุสะละมะเอามาจูบ สรุปว่า ตราบใดที่ชีอะให้เกียรติแก่สุสานอิมามฮุเซน ตราบนั้น ชีอะทำถุกต้องเสมอ
เพราะการให้เกียรติสุสานของผู้มีเกียรติตามทัศนะของอัลลอฮ ด้วยการสุญูดบนดินของเมืองแห่งสุสานผู้มีเกียรติ สอดคล้องและตรงตามความหมายของอายะกุรอาน
|
*** รวมคำถามที่รอฟิเฎาะ israya ยังหน้าโง่เบี่ยงประเด็นไปเรื่อยๆ โดยไม่สามารถตอบได้
ตอนนี้ มีเพิ่มมาอีก 2 ข้อ ซึ่งถ้านำมาแสดงไม่ได้ ก็แสดงว่ารอฟิเฎาะ israya โกหกต่ออัลกุรอาน
ซึ่งเป็นคำตรัสของอัลลอฮฺเลยทีเดียว ขอจัดเรียงคำถามใหม่ดังนี้
1.อัลกุรอานอายะใดที่ยกย่องสุสานของคนมีเกียรติในทัศนะของอัลลอฮ จนถึงกับยกให้เป็นที่สุญูด?
2.การสุญูดบนดินของเมืองแห่งสุสานผู้มีเกียรติ สอดคล้องและตรงตามความหมายของอายะกุรอานอายะไหน?
2 ข้อแรก ถ้านำมาแสดงมาไม่ได้ ก็ถือว่ารอฟิเฎาะ israya โกหกต่ออัลกุรอานอย่างร้ายแรง
และในเมื่อพระองค์อัลลอฮฺไม่ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอาน แต่รอฟิเฎาะตัวนี้บอกว่ามีในอัลกุรอาน แต่ไม่สามารถนำมาแสดงได้
ก็ถือว่ารอฟิเฎาะตัวนี้หมดค่าอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะขนาดกับคำตรัสของอัลลอฮฺ มันยังเมคเองได้
3.หลักฐานที่ท่านนบีเอาดินกัรบาลา หรือดินทั่วไปก็ได้มาปั้นเป็นก้อน แล้วนำไปรองสูญูดที่หน้าผากเหมือนชีอะห์
4.หลักฐานที่ท่านนบีเอาก้อนดินที่ปั้นแล้วมาแกะสลักตัวอักษรต่างๆ ก่อนนำไปสูญูดแบบรอฟิเฏาะชีอะห์
ถ้านำมาแสดงไม่ได้ ก็ถือว่าการอ้างของรอฟิเฏาะชีอะห์ที่ว่าทำตามซุนนะฮฺนบีนั้น
ก็ถือว่าโกหกปลิ้นปล้อนอย่างร้ายแรงต่อซุนนะนบี หรือพูดได้อีกอย่างว่ารอฟิเฏาะชีอะห์นั้น
ไม่มีหลักฐานจากท่านนบีในการสูญูดบนก้อนดินแกะสลักอย่างที่รอฟิเฏาะชีอะห์ทำใดๆ เลย
ไหนว่ารอฟิเฎาะชีอะห์คือพวกตามซุนนะฮฺนบีไง ทำไมแค่นี้ตอบนานจังเลย หาหลักฐานไม่พบเหรอครับ? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Thu Oct 15, 2009 6:12 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุยกับคนพอมีพื้นฐานบ้าง ในเรื่องตำแหน่งที่วางสุญูด ก็คงไม่เหนื่อยนัก และถ้าคุยกับคนที่หมั่นอ่าน หมั่นค้นคว้าอายะกุรอาน ก็คงไม่เหนื่อยนัก
وَكَذَٰلِكَ أَعْثَرْنَا عَلَيْهِمْ لِيَعْلَمُوا أَنَّ وَعْدَ اللَّهِ حَقٌّ وَأَنَّ السَّاعَةَ لَا رَيْبَ فِيهَا إِذْ يَتَنَازَعُونَ بَيْنَهُمْ أَمْرَهُمْ فَقَالُوا ابْنُوا عَلَيْهِمْ بُنْيَانًا رَبُّهُمْ أَعْلَمُ بِهِمْ قَالَ الَّذِينَ غَلَبُوا عَلَىٰ أَمْرِهِمْ لَنَتَّخِذَنَّ عَلَيْهِمْ مَسْجِدًا﴿٢١﴾
21. และในทำนองนั้นเราได้เปิดเผยแก่พวกเขาเพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่าสัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นจริง และแท้จริงวันสิ้นโลกนั้นมีจริง ไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อพวกเขาโต้เถียงกันในหมู่พวกเขาถึงเรื่องของพวกเขา(ชาวถ้ำ) แล้ว(*1*) พวกเขากล่าวว่า จงสร้างอาคารที่ปากถ้ำให้แก่พวกเขา พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาทรงรู้ดียิ่งขึ้นในเรื่องของพวกเขา ฝ่ายบรรดาผู้มีเสียงข้างมากในเรื่องของพวกเขากล่าวว่า แน่นอนเราจะสร้างมัสยิดที่ปากถ้ำให้แก่พวกเขา(*2*)
(1) ขณะที่กลุ่มชนกำลังโต้เถียงกันในเรื่องของชาวถ้ำ หลังจากที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเผยให้พวกเขาได้ทราบเรื่องของชาวถ้ำแล้วพระองค์ก็ได้เอาชีวิตของพวกเขาไป
(2) เพื่อพวกเราจะได้ทำละหมาดและทำอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ในมัสยิดนั้น
ให้ไปดูตัฟซีรก่อนนะ กรุณาอย่าเพิ่งเถียงเสียเวลา คำว่า "ปากถ้ำ" ในภาษาไทยเขาแปลมาจาก "อะลัยฮิม" บนพวกเขา หมายถึงบนสุสานของพวกชาวถ้ำนั่นเอง คำว่า มัสยิด ก็คือ สถานที่สุญูดนั่นเอง
แท่งดินจากเมืองกัรบะลา ที่เรานำมารองเป็นที่สุญูด ไม่ใช่ดินที่ขุดจากสุสาน แล้วทำไมจะสุญูดไม่ได้ อย่าโง่เขลานัก น้องเอ๋ย
และการที่คนศอลิห์ ทำที่สุญูดขึ้นบนสุสานของคนศอลิห์คนที่ตาย ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องห้าม จากกุรอานแต่อย่างใด อัลลอฮยกเรื่องนี้มาบอกเล่า โดยมิได้ตำหนิ ไม่ได้ด่า คนสุญูดบนดิน เหมือนพวกคุณ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
israya มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 02/10/2009 ตอบ: 293
|
ตอบ: Thu Oct 15, 2009 7:53 am ชื่อกระทู้: |
|
|
وَكَذَٰلِكَ أَعْثَرْنَا عَلَيْهِمْ لِيَعْلَمُوا أَنَّ وَعْدَ اللَّهِ حَقٌّ وَأَنَّ السَّاعَةَ لَا رَيْبَ فِيهَا إِذْ يَتَنَازَعُونَ بَيْنَهُمْ أَمْرَهُمْ فَقَالُوا ابْنُوا عَلَيْهِمْ بُنْيَانًا رَبُّهُمْ أَعْلَمُ بِهِمْ قَالَ الَّذِينَ غَلَبُوا عَلَىٰ أَمْرِهِمْ لَنَتَّخِذَنَّ عَلَيْهِمْ مَسْجِدًا﴿٢١﴾
21. และในทำนองนั้นเราได้เปิดเผยแก่พวกเขาเพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่าสัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นจริง และแท้จริงวันสิ้นโลกนั้นมีจริง ไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อพวกเขาโต้เถียงกันในหมู่พวกเขาถึงเรื่องของพวกเขา(ชาวถ้ำ) แล้ว(*1*) พวกเขากล่าวว่า จงสร้างอาคารที่ปากถ้ำให้แก่พวกเขา พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาทรงรู้ดียิ่งขึ้นในเรื่องของพวกเขา ฝ่ายบรรดาผู้มีเสียงข้างมากในเรื่องของพวกเขากล่าวว่า แน่นอนเราจะสร้างมัสยิดที่ปากถ้ำให้แก่พวกเขา(*2*)
(1) ขณะที่กลุ่มชนกำลังโต้เถียงกันในเรื่องของชาวถ้ำ หลังจากที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเผยให้พวกเขาได้ทราบเรื่องของชาวถ้ำแล้วพระองค์ก็ได้เอาชีวิตของพวกเขาไป
(2) เพื่อพวกเราจะได้ทำละหมาดและทำอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ในมัสยิดนั้น
การที่ผมกล่าวว่า อัลลอฮ์ยกย่องคนเหล่านี้ ก็เพราะ
๑-อัลลอฮ์ทรงนำเรื่องราวที่ดีงามของคนเหล่านี้มาบอกเล่าไว้ในอัลกุรอาน และไม่ทรงตำหนิแต่ประการใด การที่อัลลอฮกล่าวถึงแล้วไม่ทรงตำหนิ ผมถือว่า ทรงยกย่องครับ
๒-สิ่งที่คนเหล่านี้กระทำ ก็คือ สร้างที่สำหรับทำเป็นที่สุญูด(ต่ออัลลอฮ์) โดยอาศัยพื้นดินบริเวณสุสานของคนศอลิห์
ประเด็นที่พวกคุณตั้งข้อรังเกียจนั้น อยู่ที่สุสานของอิมามฮุเซน ใช่ไหมครับ ?
หากรังเกียจตรงประเด็นนั้น ก็ขอให้พิจารณาความหมายอายะนี้ได้
แต่ถ้ารังเกียจตรงการทำแท่งดินมารองหน้าผาก
ก็ขอให้พิจารณาฮะดีษในนัยลุลเอาฏอร ศอฮาบะกับท่านนบีนมาซด้วยกัน กลางทะเลทราย พวกเขานำดินทรายมาทำการร่อนพลิกกลับไปมา แล้ววางดินทรายนั้น ลงบนผ้าของพวกเขาเพื่อรองหน้าผากสุญูด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ซุบยาน มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 15/10/2009 ตอบ: 5
|
ตอบ: Thu Oct 15, 2009 6:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แล้วสุญูดบน กระเบื้องดินเผ่า หินอ่อน พรม ปูน อื่นๆอีกที่ไม่ใช่ดินเนี่ยมีหลักฐานไหม แล้วผิดหรือป่าว อ้ากกกกกก งง อะ ครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|