ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
ตอบ: Tue Aug 11, 2009 4:08 pm ชื่อกระทู้: ช่วยดูรูปนี้ทีนะคับ |
|
|
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
ตอบ: Tue Aug 11, 2009 4:49 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
...ไม่ทราบว่าเป็นของ สะมู๊ด หรือ อ๊าด คับ แน่นอนคับว่ามันไม่ได้อยู่ในคาบสมุทรอาราเบีย
(จากที่ได้ถามในกระทู้ที่แล้วอาหรับโบราณก็จะอยู่ที่ ซาอุ-จอร์แดน)แต่ที่ผมเจอมันอยู่ที่
อินเดียน่ะคับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Aug 12, 2009 9:10 am ชื่อกระทู้: |
|
|
มันอยู่ในรัฐใหนของอินเดียครับ กรุณาลิงค์ที่มาด้วย _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
ตอบ: Mon Aug 17, 2009 11:51 am ชื่อกระทู้: |
|
|
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
ตอบ: Mon Aug 17, 2009 11:52 am ชื่อกระทู้: |
|
|
Hanging Temple and Yungang Caves นี่เป็นถ้ำที่ประเทศจีน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Tue Aug 18, 2009 10:27 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอลัยกุมครับ อาจารย์อะซัน
ผมเห็นรูปโบราณสถานเหล่านี้แล้ว ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดเหมือนผมหรือเปล่า
โบราณสถานเหล่านี้แสดงถึงความเจริญ และการเคารพศรัทธาที่มีต่อเจว็ด
มีใครคิดเหมือนผมบ้างว่า แล้วทำไมลูกหลานของเขาเหล่านั้นหายไปใหนกัน
ทำไมถึงเหลือแต่หินว่างเปล่า ถ้าดูจากรูปจะเห็นว่าสภาพยังอยู่ดี
นี่คือสัญญาณหนึ่งจากสัญญาณของอัลลอฮ ซบ เพราะอัลลอฮทรงลงโทษคนในอดีตเหมือนกัน ส่วนอ๊าดกับสะมู้ด อัลลอฮเพียงเล่าบางตัวอย่างให้เราฟังเท่านั้น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AlGhuraba มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 226
|
ตอบ: Tue Aug 25, 2009 12:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อฺาด-ษะมูด
เมื่อท่านนบีอาดัมมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับพระนางเฮาวาอ์คู่ครองของท่านบนโลกนี้ แล้วให้กำเนิดลูกหลานมากมายเป็นต้นตระกูลของมนุษยชาติสืบต่อมานั้น แน่นอนที่สุด ท่านสั่งสอนลูกๆของท่านให้สักการะอัลลอฮฺเป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียว พร้อมกับสั่งสอนกำชับให้ยึดถือปฏิบัติคุณธรรมความดีต่างๆ ซึ่งลูกๆของท่านก็ปฏิบัติตาม แต่แม้จะเป็นยุคแรกๆของมนุษยชาติที่ยังไม่เคยมีตัวอย่างความชั่วใดมาปรากฏให้เห็น ก็ยังมีคนริเริ่มทำความชั่ว ต้นแบบความยโสโอหัง และเป็นฆาตกรในท่ามกลางลูกศอและห์คนอื่นๆ ขึ้นจนได้ ทั้งๆที่เป็นลูกจากพ่อแม่เดียวกัน คำสอนเดียวกัน ก็ปรากฏว่ามีทั้งลูกที่อยู่ในโอวาท และลูกที่แตกแถวออกไป
เรื่อยมาจนถึงยุคนบีนูห์ ผู้คนในยุคนั้นกลายเป็นพวกดื้อด้านต่ออัลลอฮฺกันทั้งนั้น ยกเว้นเพียงแค่หยิบมือเดียวที่เชื่อฟังและศรัทธาต่อสิ่งที่นบีนูห์มาบอกมาสอน ท่านนบีนูห์จึงวิงวอนต่ออัลลอฮฺ ว่า
وَقَالَ نُوحٌ رَّبِّ لَا تَذَرْ عَلَى الْأَرْضِ مِنَ الْكَافِرِينَ دَيَّاراً
إِنَّكَ إِن تَذَرْهُمْ يُضِلُّوا عِبَادَكَ وَلَا يَلِدُوا إِلَّا فَاجِراً كَفَّاراً
นูห์กล่าวว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้า ขออย่าได้ทรงปล่อยให้พวกปฏิเสธหลงเหลืออยู่ในหน้าแผ่นดินนี้เลย
เพราะแท้จริงหากว่าพระองค์ทรงปล่อยให้พวกเขาหลงเหลืออยู่ พวกเขาก็จะทำให้ปวงบ่าวของพระองค์หลงผิด และพวกเขาก็ให้กำเนิดแต่พวกเลวทราม พวกปฏิเสธเท่านั้น ( 71:26-27 )
ผลก็คือพวกดื้อด้านเหล่านั้น ตายเกลี้ยง! เหลือรอดแต่เพียงนบีนูห์และผู้ที่ศรัทธาร่วมกับท่านเท่านั้น
وَنَجَّيْنَاهُ وَأَهْلَهُ مِنَ الْكَرْبِ الْعَظِيمِ
وَجَعَلْنَا ذُرِّيَّتَهُ هُمْ الْبَاقِينَ
และเราได้ช่วยเขา(นูห์)และพรรคพวกของเขาให้รอดพ้นจากทุกขภัยอันยิ่งใหญ่ และเราได้ทำให้ลูกหลานของเขายังคงมีชีวิตเหลือรอดอยู่ ( 37:76-77 )
แล้วทั้งๆที่เหลือรอดมาแต่คนดีๆ มีอีมานศรัทธาเต็มเปี่ยม จนข้ามมาถึงยุคของนบีฮูดที่อัลลอฮฺทรงส่งมายังประชาชาติอฺาดก็ยังมีพวกดื้อด้านโผล่มาอีกจนได้
ประชาชาติอฺาดเป็นอรับสายหนึ่งที่สืบเชื้อสายมาจาก ซาม - سام ลูกของท่านนบีนูห์
ที่มาตั้งรกรากอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรอรับ บริเวณที่มีชื่อว่า อัลอะหฺกฺอฟ ( الأحقاف ) แถวๆ ยะมันระหว่างอัมมานกับหัฏเราะเมาต์ ท่านนบีฮูดบอกกับพวกนี้ว่า
وَاذكُرُواْ إِذْ جَعَلَكُمْ خُلَفَاء مِن بَعْدِ قَوْمِ نُوحٍ
وَزَادَكُمْ فِي الْخَلْقِ بَسْطَةً فَاذْكُرُواْ آلاء اللّهِ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ
พวกท่านจงรำลึกเมื่อพระองค์ทรงทำให้พวกท่านเป็นผู้สืบช่วงแทนหลังจากประชาชาติของนูห์ และได้ทรงเพิ่มพละกำลังแก่พวกท่านในการบังเกิด ดังนั้นพวกท่านจงรำลึกถึงความกรุณาของอัลลอฮฺเถิดเพื่อว่าพวกท่านจะได้รับความสำเร็จ (7:69)
ด้วยมีร่างกายที่แข็งแกร่งกำยำพวกนี้จึงสร้างอารยธรรมด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ เสาหินสูงตระหง่าน และคฤหาสน์อันโอฬารราวกับจะอยู่ค้ำฟ้าและเที่ยวข่มขู่คุกคามผู้อื่นที่อ่อนแอกว่าด้วยพละกำลังของตน และที่สำคัญคือ เป็นพวกแรกเลยหลังน้ำท่วมที่สักการะรูปปั้นตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺจนถึงกับกล้าท้าทายเดชานุภาพของพระองค์ แล้วในที่สุดก็ไม่อาจต้านทานต่ออฺะซาบที่พวกเขาเรียกร้องได้ มันเริ่มด้วยความแห้งแล้งกันดาร ฝนฟ้าไม่ตกเลยตลอดสามปีติดๆกัน แล้วจู่ๆก็มีกลุ่มเมฆดำทะมึนก่อตัวขึ้น ทำให้พวกนี้ดีใจว่าจะได้ฝนเพราะทนแล้งมานานแล้ว แต่แท้ที่จริงมันคืออฺะซาบอันเจ็บปวด
فَلَمَّا رَأَوْهُ عَارِضاً مُّسْتَقْبِلَ أَوْدِيَتِهِمْ قَالُوا هَذَا عَارِضٌ مُّمْطِرُنَا
بَلْ هُوَ مَا اسْتَعْجَلْتُم بِهِ رِيحٌ فِيهَا عَذَابٌ أَلِيمٌ
تُدَمِّرُ كُلَّ شَيْءٍ بِأَمْرِ رَبِّهَا فَأَصْبَحُوا لَا يُرَى إِلَّا مَسَاكِنُهُمْ
كَذَلِكَ نَجْزِي الْقَوْمَ الْمُجْرِمِينَ
ครั้นเมื่อพวกเขาเห็นเมฆทึบเคลื่อนมายังที่ราบลุ่มในหมู่บ้านของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า นี่คือเมฆที่จะให้น้ำฝนแก่เรา เปล่าเลยมันคือสิ่งที่พวกเจ้าเร่งขอให้เกิด มันคือลมพายุ ในนั้นมีการลงโทษอันเจ็บปวด
มันจะทำลายทุกสิ่งตามพระบัญชาของพระเจ้าของมันแล้วพวกเขาก็กลายเป็นไม่มีอะไรให้แลเห็นนอกจากบ้านพักอาศัยของพวกเขาเท่านั้น เช่นนี้แหละเราจะตอบแทนหมู่ชนผู้กระทำผิด ( 46:24-25 )
พายุนำความหนาวเหน็บสุดๆมาซัดใส่พวกเขาแปดวันเจ็ดคืนติดๆกัน แล้วก็กระหน่ำซ้ำด้วยเสียงกัมปนาทแผดเปรี้ยง สุดท้ายก็ไม่มีชนชาติอฺาดที่ดื้อด้านหลงเหลืออยู่บนหน้าแผ่นดินอีกนอกจากเพียงกลุ่มหนึ่งที่อพยพออกไปพร้อมกับท่านนบีฮูดด้วยหัวใจศรัทธา
فَأَنجَيْنَاهُ وَالَّذِينَ مَعَهُ بِرَحْمَةٍ مِّنَّا وَقَطَعْنَا دَابِرَ الَّذِينَ كَذَّبُواْ بِآيَاتِنَا وَمَا كَانُواْ مُؤْمِنِينَ
แล้วเราได้ช่วยเขา(ฮูด) และบรรดาผู้ที่ร่วมอยู่กับเขาให้รอดพ้น ด้วยความเอ็นดูเมตตาจากเรา และเราได้ตัดขาด ซึ่งคนสุดท้ายของบรรดาผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรา และมิเคยปรากฏว่าพวกเขาเป็นผู้ศรัทธา ( 7:72 )
ประชาชาติอฺาดนั้นได้จบสิ้นไปแล้วพร้อมกับอารยธรรมที่พวกเขาคิดว่าจะทำให้พวกเขาอยู่ค้ำฟ้า อันเนื่องจากความยโสโอหังและดื้อด้านของพวกเขาเอง รุ่นต่อมาก็เกิดอารยธรรมใหม่ขึ้นอีกทางตอนเหนือของคาบสมุทรอรับ ในแคว้นอัลหิจญร์ซึ่งอยู่ระหว่างอัลหิญาซกับตะบูก (ปัจจุบันก็คือแถวๆจอร์แดน สิเรีย) โดยชนรุ่นใหม่ที่เป็นลูกหลานของ ษะมูด ซึ่งเป็นอรับที่สืบเชื้อสายมาจาก ซาม - سام ลูกของท่านนบีนูห์เช่นเดียวกับชนชาติอฺาดที่ล่วงลับไปแล้ว แต่นี่เป็นอีกสายหนึ่ง ชนกลุ่มนี้ก็มีอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชนชาติอฺาด สามารถสกัดภูเขาเป็นที่อยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย เป็นความกรุณาที่อัลลอฮฺทรงประทานให้ พร้อมกับได้ส่งรอซูลของพระองค์คือท่านนบีศอและห์มาสั่งสอนชี้นำฮิดายะฮฺจากพระองค์ แต่พวกเขากลับเลือกเอาหนทางแห่งความหลงผิดและมืดบอด
وَأَمَّا ثَمُودُ فَهَدَيْنَاهُمْ فَاسْتَحَبُّوا الْعَمَى عَلَى الْهُدَى
فَأَخَذَتْهُمْ صَاعِقَةُ الْعَذَابِ الْهُونِ بِمَا كَانُوا يَكْسِبُونَ
และส่วนพวกษะมูดนั้นเราได้ชี้แนะทางให้แก่พวกเขา แต่พวกเขาชอบเลือกเอาการตาบอดมากกว่าการอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง ดังนั้นความหายนะแห่งการลงโทษที่น่าอดสูก็ได้คร่าพวกเขาตามที่พวกเขาได้แสวงหาเอาไว้ ( 41:17 )
พวกเขาฆ่าอูฐที่อัลลอฮฺทรงบัญชาให้ปรากฏตัวออกมาจากก้อนหินเพื่อยืนยันการเป็นรอซูลของท่านนบีศอและห์ แล้วยังบังอาจท้าทายว่าให้นำการลงโทษมาสิถ้าหากว่าเป็นรอซูลจริง พระองค์อัลลอฮฺจึงให้ท่านนบีศอและห์ประกาศว่า
تَمَتَّعُواْ فِي دَارِكُمْ ثَلاَثَةَ أَيَّامٍ ذَلِكَ وَعْدٌ غَيْرُ مَكْذُوبٍ
พวกท่านจงสุขสำราญในบ้านของพวกท่านสามวัน นั่นคือสัญญาที่ไม่โกหก (11:65)
فَلَمَّا جَاء أَمْرُنَا نَجَّيْنَا صَالِحاً وَالَّذِينَ آمَنُواْ مَعَهُ بِرَحْمَةٍ مِّنَّا
وَمِنْ خِزْيِ يَوْمِئِذٍ إِنَّ رَبَّكَ هُوَ الْقَوِيُّ الْعَزِيزُ
وَأَخَذَ الَّذِينَ ظَلَمُواْ الصَّيْحَةُ فَأَصْبَحُواْ فِي دِيَارِهِمْ جَاثِمِينَ
كَأَن لَّمْ يَغْنَوْاْ فِيهَا أَلاَ إِنَّ ثَمُودَ كَفرُواْ رَبَّهُمْ أَلاَ بُعْداً لِّثَمُودَ
ดังนั้น เมื่อพระบัญชาของเราได้มาถึงเราได้ช่วยศอและห์และบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขาให้รอดพ้น ด้วยความเมตตาจากเรา และจากความอดสูของวันนั้น แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้นเป็นผู้ทรงพลัง ผู้ทรงอำนาจ
และเสียงกัมปนาทได้คร่าบรรดาผู้อธรรม แล้วพวกเขาได้กลายเป็นผู้นอนพังพาบตายในบ้านของพวกเขา
ประหนึ่งว่า พวกเขามิได้เคยอยู่ในนั้นมาก่อน พึงทราบเถิด! แท้จริงษะมูดนั้นปฏิเสธศรัทธาพระเจ้าของพวกเขา พึงทราบเถิด! จงห่างไกลจากความเมตตาเถิดสำหรับษะมูด ( 11:66-68 )
ประชาชาติต่างๆที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ล่มสลายด้วยอฺะซาบจากอัลลอฮฺมารุ่นแล้วรุ่นเล่า สาเหตุหลักก็คือ การปฏิเสธการศรัทธา ดื้อดึงฝ่าฝืนและท้าทายอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าด้วยการต่อต้านบรรดารอซูลของพระองค์ ความเจริญ ความยิ่งใหญ่เกรียงไกร ความรุ่งเรืองเข้มแข็งที่พวกเขาเคยครอบครอง ทั้งหมดนั้นคือพระกรุณาจากอัลลอฮฺที่ทรงประทานให้พวกเขา แต่แล้วพวกเขาก็หลงระเริงและลำพองตนว่ายิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียมและใช้อำนาจนั้นไปในทางที่ผิด ดังที่ท่านนบีศอและห์ได้เตือนพวกเขามาแล้ว
فَاذْكُرُواْ آلاء اللّهِ وَلاَ تَعْثَوْا فِي الأَرْضِ مُفْسِدِينَ
พวกท่านพึงรำลึกถึงความกรุณาของอัลลอฮฺเถิด และจงอย่าก่อกวนในแผ่นดินในฐานะผู้บ่อนทำลาย ( 7:74 )
สุดท้ายก็ลงเอยในสภาพที่ไม่แตกต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นในยุคของนูห์ ประชาชาติอฺาด ษะมูด หรือยุคอื่นๆที่ผ่านมาก่อนหน้าเรา
وَأَنَّهُ أَهْلَكَ عَاداً الْأُولَى {} وَثَمُودَ فَمَا أَبْقَى {} وَقَوْمَ نُوحٍ مِّن قَبْلُ إِنَّهُمْ كَانُوا هُمْ أَظْلَمَ وَأَطْغَى وَالْمُؤْتَفِكَةَ أَهْوَى {} فَغَشَّاهَا مَا غَشَّى {} فَبِأَيِّ آلَاء رَبِّكَ تَتَمَارَى{}
และแท้จริง พระองค์ทรงทำลายพวกอฺาดรุ่นก่อน ๆ
และพวกษะมูดก็ไม่ได้ให้มีเหลืออยู่อีกเลย
และหมู่ชนของนูห์ก่อนหน้านี้ แท้จริงพวกเขาเป็นผู้อธรรมยิ่ง และเป็นผู้ละเมิดยิ่ง
และเมืองที่พลิกคว่ำลง (อัลมุอ์ตะฟิกะฮฺ) พระองค์ทรงให้มันถล่มลง
ฉะนั้น สิ่งที่ครอบคลุมมันก็ (คือการลงโทษ) ได้ครอบคลุมมัน
ดังนั้น ความโปรดปรานของพระเจ้าของเจ้าอันใดเล่าที่เจ้ายังสงสัยอยู่ ( 53:50-55 )
كَذَّبَتْ ثَمُودُ وَعَادٌ بِالْقَارِعَةِ {} فَأَمَّا ثَمُودُ فَأُهْلِكُوا بِالطَّاغِيَةِ {}
وَأَمَّا عَادٌ فَأُهْلِكُوا بِرِيحٍ صَرْصَرٍ عَاتِيَةٍ {} سَخَّرَهَا عَلَيْهِمْ سَبْعَ لَيَالٍ وَثَمَانِيَةَ أَيَّامٍ حُسُومًا فَتَرَى الْقَوْمَ فِيهَا صَرْعَى كَأَنَّهُمْ أَعْجَازُ نَخْلٍ خَاوِيَةٍ {}
فَهَلْ تَرَى لَهُم مِّن بَاقِيَةٍ {}
พวกซะมูดและพวกอ๊าดได้ปฏิเสธวันกิยามะฮ์
พวกซะมูด ถูกทำลายด้วยเสียงกำปนาทที่น่ากลัว
ส่วนพวกอฺาด ถูกทำลายด้วยลมพายุที่หนาวเหน็บ และเสียงดังก้อง
พระองค์ทรงให้มหันตภัยนั้นเกิดขึ้นแก่พวกเขา เจ็ดคืนกับแปดวันต่อเนื่องกัน แล้วเจ้าจะเห็นหมู่ชนนั้นนอนตายอยู่เช่นนั้นประหนึ่งต้นอินทผลัมที่กลวงล้มระเนระนาด
แล้วเจ้าเห็นอะไรบ้างหลงเหลือสำหรับพวกเขา ( 69:4-8 )
หลังจากการลงอะซาบใหญ่ๆแต่ละครั้ง เราจะพบว่า มีคนอยู่สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งรอด ด้วยพระเมตตาของอัลลอฮฺ คือกลุ่มที่ศรัทธาและปฏิบัติตามบรรดารอซูลของอัลลอฮฺที่ทรงส่งมายังประชาชาติเหล่านั้น และอีกกลุ่มหนึ่ง ตายยกรัง ไม่ปรากฏว่ามีตัวเลวๆหลงเหลืออยู่บนหน้าแผ่นดินที่จะไปเสี้ยมสอนให้คนอื่นเลวตามอีกเลย เหลือไว้แต่เพียง... อะหาดีษที่เล่าขานต่อกันมาว่าครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เคยมีพวกเขาที่ปฏิเสธศรัทธาและดื้อด้านต่ออัลลอฮฺอยู่บนหน้าแผ่นดิน
ثُمَّ أَرْسَلْنَا رُسُلَنَا تَتْرَا كُلَّ مَا جَاء أُمَّةً رَّسُولُهَا كَذَّبُوهُ فَأَتْبَعْنَا بَعْضَهُم بَعْضاً وَجَعَلْنَاهُمْ أَحَادِيثَ فَبُعْداً لِّقَوْمٍ لَّا يُؤْمِنُونَ
แล้วเราได้ส่งบรรดารอซูลของเรามาอย่างต่อเนื่องกัน ทุกครั้งที่รอซูลของพวกเขาได้มายังชนชาติหนึ่งพวกเขาก็ปฏิเสธไม่ยอมเชื่อถือเขา ดังนั้นเราจึงให้บางกลุ่มของพวกเขาติดตามอีกบางกลุ่ม (ด้วยความหายนะพินาศ) แล้วเราได้ทำให้พวกเขาเป็นเรื่องบอกเล่าต่อกันมา ฉะนั้น (ความหายนะ) ความห่างไกล (จากเมตตาของอัลลอฮ์) จึงประสบแก่บรรดาผู้ไม่ยอมศรัทธา ( 23.44 )
การสร้างอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรนั้น ไม่ใช่ความผิด นั่นเป็นส่วนหนึ่งจากพระกรุณาของอัลลอฮฺ แต่แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังอารยธรรมนั้น หรือผลสืบเนื่องที่ทำให้เกิดความรู้สึกยโสโอหัง การอวดดื้อถือดี และการตั้งภาคีปฏิเสธเดชานุภาพของอัลลอฮฺต่างหากที่เป็นเหตุให้พวกเขาต้องได้รับอฺะซาบอันเจ็บปวดจนถึงขั้นล้างเผ่าพันธุ์ให้สูญสิ้นไปจากหน้าแผ่นดินรุ่นแล้วรุ่นเล่า
ประชาชาติอฺาด จบสิ้นไปแล้วพร้อมกับอารยธรรมของพวกเขาในดินแดนอัลอะหฺกฺอฟ
ประชาชาติษะมูดก็จบสิ้นไปแล้วพร้อมกับอารยธรรมของพวกเขาในอัลหิจญร์เช่นกัน
อารยธรรมอฺาดและษะมูดเป็นเรื่องราวที่อัลลอฮฺทรงย้ำเตือนไว้ในอัลกุรอาน ส่วนอารยธรรมอื่นที่เกิดขึ้นใหม่ไม่ว่าจะในส่วนไหนของโลก แม้จะไม่ได้ถูกเอ่ยถึงในอัลกุรอาน ไม่ว่าจะคล้ายหรือแตกต่างไปจากซากที่ปรากฏจากประชาชาติอฺาดและษะมูด ไม่ว่าจะอยู่ในโรม ในอินเดีย หรืออัฟกานิสถาน ฯลฯ ก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับความผิดหรือการกระทำของบุคคลในอดีต แต่ละกลุ่มชน แต่ละบุคคลต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเองทั้งสิ้น ความพินาศย่อยยับ ความหายนะต่างๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็ย่อมอยู่ในกฎเกณฑ์เดียวกัน
تِلْكَ أُمَّةٌ قَدْ خَلَتْ لَهَا مَا كَسَبَتْ وَلَكُم مَّا كَسَبْتُمْ وَلاَ تُسْأَلُونَ عَمَّا كَانُوا يَعْمَلُونَ
นั่นคือ กลุ่มชนที่ล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้ ก็ย่อมเป็นของพวกเขา และสิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายไว้ ก็ย่อมเป็นของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะไม่ถูกไต่สวน ถึงสิ่งที่เขาเหล่านั้นปฏิบัติกัน ( 2:134,141 )
قَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِكُمْ سُنَنٌ فَسِيرُواْ فِي الأَرْضِ فَانْظُرُواْ كَيْفَ كَانَ عَاقِبَةُ الْمُكَذَّبِينَ
แน่นอนได้ผ่านพ้นไปแล้วก่อนพวกเจ้าซึ่งแนวทาง(ที่อัลลอฮฺทรงปฏิบัติต่อกลุ่มชน)ต่างๆ ดังนั้นพวกเจ้าจงท่องเที่ยวไปในแผ่นดิน แล้วจงดูว่าบั้นปลายของบรรดาผู้ปฏิเสธนั้นเป็นอย่างไร ( 3:137 ) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
ตอบ: Fri Aug 28, 2009 5:50 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
... อืม ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจกับคำตอบที่นำมาเสนอ จนผมได้สืบค้นอย่างจิงจังกับ google (เป็นรูปภาพน่ะคับ) ก็หายข้องใจเรื่อง ถิ่นกำเนิดของ อ๊าด เลยแหละคับ
อายะห์ในอัลกุรอานที่บอกคุณลักษณะเมืองของพวกอ๊าด(แม้จะมีอยู่น้อยก็ตาม) แต่สิ่งที่พระองค์
บอกนั้น เป็นลักษณะที่สำคัญของเมือง (ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่เก็ตเท่าไร) พอค้นไปค้นมา
ก็เก็ตทันทีคับ "...สิ่งปลูกสร้างอันสูงตระหง่าน... " นั้นตั้งอยู่ที่ตะวันออกกลางจริงๆ(พอเห็นภาพ
ปุปก็หมดข้อโต้แย้งเลยแหละคับ)
สุดท้ายนี้ผมก็จะนำรูปที่ไป search มาให้ผู้ที่สนใจได้ชมกันเป็นการตอบแทนนะคับ
_________________________________________________
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ท่านๆทั้งหลายได้นำมาเผยแพร่นะคับ
อัลฮัมดุลิลลาห์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
ตอบ: Fri Aug 28, 2009 6:08 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
youngman มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 16/07/2009 ตอบ: 41
|
ตอบ: Fri Aug 28, 2009 6:17 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
***ถ้าดูรูปที่มคนอยู่ด้วยจะพบว่าเสาใหญ่มาก ***
***บางรูปคล้ายกับเมืองโรมแต่ไม่ใช่นะคับ ***
นี้เป็นเว็บๆนึงที่มีเนื้อหาอยู่ด้วย(english)
http://www.kookynet.net/148.html ... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|