อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[ทีมงานสื่ออนุรักษ์]

สืบเนื่องจากควันหลงของการสัมมนาวิชาการ เรื่อง ข้อแตกต่างระหว่างซุนนะห์กับชีอะห์ ณ.หอประชุมใหญ่ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.00 – 18.00 ที่ผ่านมานั้น ได้เกิดความวุ่นวายหลังจากเสร็จสิ้นการสัมมนา ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ แม้ว่าจะมีผู้คนที่รู้เห็นเหตุการณ์ และมีการบันทึกวิดิโอ ไว้ทั้งสองฝ่าย แต่กลุ่มชีอะห์ก็ยังกล้าที่จะมุสาโดยไม่อับอายว่า อ.ฟารีด ปอดแหกหน้าเหลือสองนิ้ว

ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์คือ

หลังจากการสัมมนาเสร็จสิ้นลง กลุ่มชีอะห์ได้เข้ามาภายในตัวอาคารด้านล่างของห้องประชุมเพื่อก่อกวน และได้ตะโกนโวยเพื่อจุดความสนใจจากผู้คนที่กำลังทยอยลงมา พร้อมทั้งแจกซีดีโดยประกาศว่า ชีอะห์ประทะวะฮาบีย์ จนกระทั่ง อ.ฟารีด และคณะได้ลงมาจากห้องประชุมเป็นกลุ่มสุดท้าย

ชีอะห์ได้ปราดเข้าไปหา อ.ฟารีด พร้อมทั้งกล่าวว่า แจกซีดีครับอาจารย์
อ.ฟารีด ได้ถามว่า ซีดีอะไร
ชีอะห์ ไม่ตอบ
อ.ฟารีด กล่าวว่า ถ้าไม่แจ้งที่มาที่ไปก็จะไม่รับ

จึงทำให้ชีอะห์ เดินวนไปรอบๆ แล้วตะโกนซ้ำว่า มาดูการโกหกของเวบมรดก

อ.ฟารีด จึงเดินเข้าไปหาแล้วกล่าวว่า ผมเป็นทำเวบมรดก ทำไมคุณถึงกล่าวหาว่าโกหก

และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของความโกลาหล ที่มีเสียงใครต่อเสียงใครพูดแข่งกันขรม

และท่อนหนี่งจากการกล่าวท้าทายของฝ่ายชีอะห์ มีเสียงของ อ.ฟารีด พูดแทรกว่า นัดมา...นัดมา..ที่ไหน..เมื่อไหร่ อย่าเก่งแต่ปาก...นัดมา....นัดมา.... และนี่เป็นประเด็นที่ชีอะห์กล่าวว่า อ.ฟารีด ชี้หน้า

ขณะที่ชีอะห์แสดงท่ากดโทรศัพท์ อ.ฟารีด พูดเสียงดังฟังชัดว่า.... นัดมา..ซัยยิดสุไลมาน...นัดมา....ซัยยิดขี้ขลาดไม่กล้าคุยกับฟารีด.....ซัยยิดขี้ขลาดไม่กล้าคุยกับฟารีด.....ซัยยิดขี้ขลาดไม่กล้าคุยกุบฟารีด......

ทำให้ทุกเสียงเงียบกริบในขณะนั้น

แต่ตามที่ชีอะห์ได้โพสต์ข้อความไว้ในเวบมุสลิมไทย กลับบิดเบือนให้เป็นไปในทางตรงกันข้ามว่า อ.ฟารีด ปอดแหกหน้าเหลือสองนิ้ว ช่างเป็นการบิดเบือนและใส่ความสิ้นดี สมกับที่อิหม่ามชาฟีอี พูดว่า “ไม่มีใครจะโกหกตะลบแตลงไปยิ่งกว่าพวกรอวาฟิฏ”

ชีอะห์กล่าวว่า จะนำเหตุการณ์นี้ลงในยูทุป เราจะคอยดูว่า ชีอะห์จะกล้านำเอาคำของ อ.ฟารีด มาลงด้วยหรือไม่ แต่เสียงของ อ.ฟารีด ในวันนั้นยังก้องอยู่ในหูผม .... นัดมา..ซัยยิดสุไลมาน...นัดมา....ซัยยิดขี้ขลาดไม่กล้าคุยกับฟารีด.....ซัยยิดขี้ขลาดไม่กล้าคุยกับฟารีด.....ซัยยิดขี้ขลาดไม่กล้าคุยกับฟารีด......

.

[dabdulla]

ทีมงานสื่อทุกท่านครับ

ถ้าจะนำลงใน youtube จะเป็นไปได้หรือไม่ครับ

[aalfajun]

ชีอะห์เค้าไม่ได้ไปป่วนอย่างที่คุณโกหกหรอก เราก็อยู่ในเหตุการณ์
แล้วไอ้ที่บอกว่าพูดว่า ซัยยิด สุไลมาน นะ ที่ได้ยินมาพวกคุณไม่ได้เรียกแบบนั้น
คุณไปเรียกเค้าว่าไอ้สุไลมานไม่ใช่หรือ...............

จนเค้าพูดกลับจนพวกคุณหน้าแหกว่า อ้าว อาจารย์ฟารีด ทำไมไปเรียกเค้าว่าไอ้สุไลมาน ซัยยิดเค้ายังไม่เคยเรียกคุณว่าไอ้ฟารีดสักครั้ง แล้วอีกอย่างนักการศาสนาเค้าก็ไม่พูดจาหยาบๆๆแบบนี้ด้วย

แหละเท่าที่เห็น ฟารีดก็ยังไปชี้หน้าว่าเค้า จนโดนเค้าเอามือตบทือฟารีดลง 2-3 ครั้งไม่ใช่หรอ


อยากเห็นวีดีโอในยูทูบ จังจะได้รู้ว่าใครตอแหล ใครพูดจริง

[aalfajun]

ไอ้ที่ว่าเห็นชีอะห์เอามือกดโทรศัพท์นะ เค้ากดเพื่อเอาเบอร์ซัยยิดให้ แล้วให้โทรไปนัด ไม่ใช่ว่ากดโทรออกตอนนั้น เลิกตออออออออออออลด ได้ละ เบื่อ

[ทีมงานสื่ออนุรักษ์]

เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ชีอะห์ยังมุสาได้ขนาดนี้

แล้วเหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 1400 กว่าปี ที่ชีอะห์นำเสนอไม่ถูกยำเละหรือ

อย่าคิดว่าการมุสาของชีอะห์นี้จะทำลายภาพลักษณ์ของชาวซุนนะห์ได้

ข้าพเจ้าผู้โพสข้อความในนาม ทีมงานสื่ออนุรักษ์ ขอกล่าวว่า

“โอ้อัลลอฮ์ หากข้าฯ นำเสนอข้อความเท็จ ขอพระองค์ทรงให้ข้าฯ และครอบครัวของข้าได้รับความหายนะ”

หากชีอะห์เชื่อมั่น ศรัทธาในอัลลอฮ์ คงกล้าที่จะยืนยันด้วยข้อความข้างต้นนี้เช่นเดียวกัน

.

[salafy]

สลามุอะลัยกุม

ได้เป็นผู้หนึ่งในเหตุการณ์
ได้เห็นชีอะฮฺคนนั้นมาตะโกนเสียงดังใต้ตึกประชุม ในขณะที่ผู้ใหญ่ๆเริ่มกลับกันหมดแล้ว
ได้เห็นชีอะฮฺคนนี้ตะโกนปาวๆว่า เราไม่เคยเลยที่จะด่าว่าพี่น้องมุสลิมซุนหนี่เป็นกาเฟร ทั้งๆในหนังสือเค้าว่าเราแรงกว่านี้
ได้เห็นชีอะฮฺท่านนี้ตะโกนท้าทาย อ.ฟารีด แล้วพอมีคนถามเค้าคุณว่าชื่ออะไร เค้าไม่ยอมบอก??
และได้เห็นชีอะฮฺมาโวยวายๆ ท้าให้มีการโต้วาทียังงี้มาหลายครั้งแล้ว...แต่ก็ไม่มา???

ขอต่ออัลลอฮฺ ทรงละความเมตตา และทรงสาปแช่งกับบรรดาผู้กลับกลอก ผู้ใส่ร้ายบรรดาซอฮาบะฮฺ และบรรดาภรรยาของท่านนบีด้วยเถิด

[sobry444]

by ทีมงานสื่ออนุรักษ์ (ก็คนเดียวกับไอ้ฟารีดนั่นแหละ)

{แต่ตามที่ชีอะห์ได้โพสต์ข้อความไว้ในเวบมุสลิมไทย กลับบิดเบือนให้เป็นไปในทางตรงกันข้ามว่า อ.(ไอ้) ฟารีด ปอดแหกหน้าเหลือสองนิ้ว ช่างเป็นการบิดเบือนและใส่ความสิ้นดี สมกับที่อิหม่ามชาฟีอี พูดว่า “ไม่มีใครจะโกหกตะลบแตลงไปยิ่งกว่าพวกรอวาฟิฏ” }

แต่ที่เห็นๆ ไอ้ฟารีดหน้าตัวเมียอยู่แล้วนี่ เรื่องปอดแหกเป็นเรื่องธรรมดาของมันอยู่แล้ว และเรื่องตอแหลก็เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวมันอยู่แล้ว แค่การมาโพสต์ข้อความยังตอแหลเลย เอามาโพสเองก็ยังหน้าตัวเมียไม่กล้าให้ใครรู้ว่าตัวเองโพสเอง

{ชีอะห์กล่าวว่า จะนำเหตุการณ์นี้ลงในยูทุป เราจะคอยดูว่า ชีอะห์จะกล้านำเอาคำของ อ.(ไอ้) ฟารีด มาลงด้วยหรือไม่ แต่เสียงของ อ..(ไอ้) ฟารีด ในวันนั้นยังก้องอยู่ในหูผม (ก็เป็นคนพูดเองนี่หว่า).........

[sobry444]

ข้าพเจ้าผู้โพสข้อความในนาม ทีมงานสื่ออนุรักษ์ ขอกล่าวว่า

“โอ้อัลลอฮ์ หากข้าฯ นำเสนอข้อความเท็จ ขอพระองค์ทรงให้ข้าฯ และครอบครัวของข้าได้รับความหายนะ”

ไม่ต้องสาบานหรไอ้ฟารีด ทุกวันนี้ครอบครัวก็หายนะแล้ว บ้านก็ไม่มีจะซุกหัวนอน

[sobry444]

กระทู้ที่ 9 ตอบกระทู้โดย : รักวาฮาบีย์ ( 25 พฤษภาคม 52 12:32:00 ) [แก้ไขข้อความ] [ตอบกระทู้]



ไม่มีรูปแสดง


IP Address :
124.121.5.xxx
วันที่สมัคร :
Feb 8, 2009 13:16
เยี่ยมล่าสุด :
May 26, 2009 21:02


สลามครับพี่น้อง ผมมีข่าวล่าสุดจากการสัมนามาเล่าให้ฟังนะครับ รายงานจากนักศึกษาคนหนึ่งที่ไปร่วมในงานสัมนาครั้งนี้ด้วย นักศึกษาคนนี้ได้รายงานว่า ในช่วงการสัมมนานั้นได้มีเชคของชีอะห์คนหนึ่งได้มาแจกซีดีการสนทนาวิชาการ ระหว่างอุลามาชีอะห์และวะฮาบี และได้แจกเอกสารคำฟัตวาของ บินบาซ ที่ให้ทัศนะว่าโลกนี้นั้นแบน ไม่ได้กลมอย่างที่เข้าใจกัน และใครก็ตามที่เชื่อเช่นนั้นเขาเป็นกาเฟร ซึ่งนักศึกษาคนนั้นก็ได้รับซีดีและเอกสารดังกล่าวมาด้วย ผมก็ได้เลยขอก๊อปปี้มาฉบับหนึ่ง นักศึกษาคนนั้นได้กล่าวต่อไปว่า เมื่องานจบ อาจารย์ฟารีด ฟินดี้ได้ลงมาจากเวที และเข้าไปหาเชค ของชีอะห์คนนั้น และถามว่า “เป็นชีอะห์ใช่ไหม”

เชคของชีอะห์คนนั้นตอบว่า “ใช่ครับ” อาจารย์ฟารีด ฟินดี้จึงได้ เอะอะโวยวายขึ้นในงาน ว่า “คณะกรรมการการจัดงานอยู่ที่ไหนกันหมด ทำไมปล่อยให้ชีอะห์เข้ามาในงานนีได้” เชคชีอะห์คนนั้นจึงได้ตอบว่า “ผมประสานงานเรียบร้อยแล้วครับกับคุณอิมรอน” คุณอิมรอนจึงเดินเข้ามา และกล่าว่า “ใช่ครับ เขาประสานงานกับผมเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะมาในงาน” อาจารย์ฟารีดจึงได้กล่าวขึ้นว่า “พวกคุณชีอะห์ก็มีแต่พูดลับหลัง แทงกันข้างหลัง ทำไมไม่พูดกันซึ่งๆหน้าล่ะ?” เชคชีอะห์คนนั้นจึงตอบว่า “ผมมาในงานวันนี้มีจุดประสงค์เดียวก็คือ มาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดที่อาจารย์โกหกเอาไว้ในเว็ป มรดกอิสลามบ้าง ในเว็ปฟารีดดอทคอมบ้าง แล้วที่บอกว่าพวกเราแทงข้างหลัง หรือพูดลับหลังนั้น ใครกันแน่ อาธิเช่นงานในวันนี้ก็ได้ยินได้ฟังกันแล้ว และที่สำคัญ ที่อาจารย์บอกว่า ทำไมไม่คุยกันซึ่งๆหน้า ผมอยากถามว่า อาจารย์ลืมความอัปยศของตัวเองแล้วหรือเมื่อสิบปีก่อน ที่ท่านและพวกยกขโยงกันไปสิบกว่าคนโต้กับซัยยิดสุไลมาน คนเดียวเอง แต่ก็แพ้ราบคาบ ซึ่งอาจารย์สามารถไปดูได้นะครับ เพราะตอนนี้ก็มีให้โหลดฟังฟรีในยูทูป ดอทคอม ซึ่งในวิดิโอชุดนั้นช่วงสุดท้าย

อาจารย์อิสหาก ได้ประกาศเองว่า การสนทนาครั้งนี้จะไม่สใช่ครั้งสุดท้ายแน่ๆ แต่จนวันนี้เราชีอะห์คอยกันสิบปีแล้ว ยังไม่เห็นโทรมานัดแนะอะไร มีแต่ไปจัดเวทีที่โน่น ที่นี่ไปเรื่อย” อาจารย์ฟารีด จึงชี้หน้าและตะคอกใส่เชคของชีอะห์คนนั้นว่า “ผมโทรไปแล้ว แต่ไอ้สุไลมาน มันไม่รับเอง” เชคคนนั้นของชีอะห์จึงได้ตอบด้วยเสียงเรียบๆว่า “อาจารย์ฟารีดครับ ท่านเป็นถึงนักบรรยายธรรม ผู้รู้ทางศาสนา แต่ทำไมท่านใช้วาจาต่ำๆเช่นนั้นละครับ” นักศึกษาผู้นั้นกล่าวว่า ทั้งศาสนุศิษย์และประชาชนที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างหันมองหน้ากันเห็นด้วย กับคำพูดของเชคชีอะห์คนนั้น คุณอิมรอนจึงกล่าวขึ้นว่า “เอางี้ดีไหมครับ ผมจะจัดเวทีสนทนาวิชาการเองระหว่าง อาจารย์ฟารีด ฟินดี้ กับ ซัยยิดสุไลมาน ผมจะขอรับหน้าที่นี้เอง” เชคชีอะห์จึงกล่าวขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อนคุณอิมรอน คุณถามอาจารย์ฟารีดก่อนไม่ดีกว่าหรือ ว่าท่านพร้อมหรือเปล่า” นักศึกษาคนนั้นเล่าว่า แทนการตอบของอาจารย์ฟารีด ได้มีลูกศิษย์คนหนึ่งของอาจารย์ฟารีด ตอบมาว่า “ไม่ต้องไปรับปากมัน ไม่ต้องไปรับปากมัน” นักศึกษาคนนั้นเล่าต่อไปอีกว่า ทุกคนต่างมองไปที่อาจารย์ฟารีด ฟินดี้ เป็นสายตาเดียวกันแต่ดูเหมือนว่าหน้าตาอาจารย์ฟารีด ฟินดี้ หน้าซีดจนขาวและ เล็กเหลือแค่สองนิ้วเห็นจะได้ จึงจบกันด้วยการแยกย้าย ความจริงแล้วผมไม่คิดที่จะนำมาเล่าหรอกครับ

แต่พอดีได้เห็นเม้นที่ 11 http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?id=3183&category=86&subcategory=&page=sub&kword= แล้วอดใจไม่ได้ที่เขาพยายามนำการสนทนาทางโทรศัพย์มาเล่าให้ฟัง และสรุปว่า สุไลมานปอดแหก ไม่กล้าสนทนากับอาจารย์ฟารีดฟินดี้ แต่ก็มันก็แค่เป็นการสนทนาในโทรศัพย์ระหว่างคนไม่กี่คน ซึ่งในทัศนะของผมและอีกหลายคนมันไม่ค่อยน่าจะเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ยินจากน้องนักศึกษาที่เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์สดๆๆร้อนนๆๆเมื่อ วานให้ฟัง ซึ่งไม่มีการตอบรับใดๆๆจากปากของอาจารย์ฟารีด ฟินดี้ ต่อหน้าสาธารณชน จึงทำให้ผมคิดว่า “ใครกันแน่ที่ปอดแหก” ซัยยิดสุไลมานในการสนทนาทางโทรศัพย์ที่เม้นที่ 11 เล่ามา หรือ อาจารย์ฟารีด ฟินดี้ ที่หน้าเหลือเท่าสองนิ้วต่อหน้าสาธารณะชน น้องนักศึกษาเล่าต่อว่า เชคของชีอะห์คนนั้นได้บอกว่า หากใครอยากได้ซีดีการสนทนาทางวิชาการระหว่างอุลามาชีอะห์กับวะฮาบีย์ และเอกสารของบินบาซ ก็สามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดที่เขาโดยตรงได้ ที่เบอร์ 089731124 และยังได้บอกมาอีกว่า วิดีโอการปะทะกันครั้งนี้ระหว่างเชคชีอะห์คนนั้นกับอาจารย์ฟารีด ฟินดี้ จะนำไปลงไว้ที่ยูทูป ซึ่งสามารถเข้าไปรับชมได้เร็วๆนี้เพื่อยืนยันถึงความปอดแหกของอาจารย์ฟารีด ฟินดี้ นอกจากการให้รายละเอียดของเขา

ที่มา : คัดลอกมาให้อ่านกัน

ไอ้ฟารีดตอแหล

[dabdulla]

สาบานในชื่อ สื่ออนุรักษ์มีแล้ว

sobry444 ไม่สาบานด้วยล่ะ


อาจารย์ ฟาริดไม่มีที่จะซุกหัวนอนนั้น วันนึงอาจจะมีก็ได้
แต่ชีอะห์เป็นรอวาฟิฏ ยังมีอยู่ในทุกตำรา

[dabdulla]

test

[dabdulla]

สมาชิกไม่ต้องสงสัย ว่าผมทำอะไร
ผมแค่พยายามจะเพิ่มคำลงท้าย ใครรู้ช่วยบอกหน่อยครับ



ขอความสันติ ความเมตตาจากเอกองค์อัลลอฮ ซบ ทรงมีแด่นบีมูฮำมัด และบรรดานบีทั้งหมดทรงมีแด่ท่านหญิงอาอิชะห์ มารดาแห่งศรัทธาชน ซึ่งอยู่กลุ่มอะห์ลุลบัยต์ตลอดจนท่านอีหม่าม อบูบักร ท่านอีหม่ามอูมัร ท่านอีหม่ามอุษมาน ท่านอีหม่ามอาลีซึ่งทั้งหมด คืออมีรุ้ลมุอมินีน

---

[ทีมงานสื่ออนุรักษ์]

คุณ sobry444 สมัครสมาชิกใหม่เข้ามา เพียงเพื่อต้องการด่าให้สะใจ
จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะตอบกลับ นอกจากกล่าวว่า “อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์”


แม้ sobry444 จะไม่ได้สาบานยืนยันข้อความที่โพ้สไว้ แต่ทุกอักษรมีบัญชี ณ.ที่อัลลอฮ์แล้ว
และจะได้รับการตอบแทนตามที่กระทำไว้อย่างแน่นอน

.

[salafy]

สลามุอะลัยกุม

เสียดายอย่างนึงครับ ที่งานวันนั้น อาจารย์ทั้งสองไม่ได้พูดประเด็นเรื่อง ตะกียะฮฺ ของพวกรอวาฟิฎ นี้

เราจะได้เห็นการตะลบตะแลงของเค้า และมีตัวอย่างให้เห็นจากคนที่มาโวยวายข้างล่างวันนั้นเลย

พูดแล้วน่าโมโหจริงๆ
ขออัลลอฮฺทรงลงโทษอย่างรุนแรงแก่พวกพวกมุนาฟิก พวกกลับกลอก และพวกที่เชื่อว่าการกระทำตัวปลิ้นปล้อนแบบนี้แล้วจะได้ผลบุญด้วยเถิด

[aalfajun]

เราจะได้เห็นการตะลบตะแลงของเค้า และมีตัวอย่างให้เห็นจากคนที่มาโวยวายข้างล่างวันนั้นเลย

คือสงสัยว่าคนที่มาโวยวายวันนั้นเค้าตะลบตะแลงอะไรหรือ งง
อธิบายด้วย