ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Apr 25, 2009 2:37 pm ชื่อกระทู้: อะฮ์ลิสซุนนะฮ์มีมติว่าอัลเลาะฮ์ไม่มีสถานที่จริงหรือ |
|
|
เข้าไปอ่านในกระดานบอร์ดมุสลิมไทย พบกระทู้มีชื่อว่า เมื่อนักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์มีมติว่าอัลเลาะฮ์ไม่มีสถานที่!! ตั้งกระทู้โดย นาย rayes ( 23 เมษายน 52 9:07:00 ) การตั้งกระทู้ข้างต้น เป็นการบิดเบือนเพื่อหลอกลวงผู้อ่าน เพราะประเด็นการที่ว่า ว่าอัลเลาะฮ์ไม่มีสถานที่ เป็นทัศนะของนักวิชาการกลุ่มอาชาอีเราะฮบางส่วนเท่านั้น โดยพวกเขาใช้เหตุผลตีความอายะฮและหะดิษต่างๆ ที่ระบุการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ โดยอ้างว่าถ้าไม่ตีความก็จะทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าอัลลอฮคล้ายคลึงกับมัคลูค
ท่านกอฎีย์อบูยะอฺลา(เสียชีวิตปี ฮ.ศ 458)ในหนังสือ อิบฏอลุตตะวีล ว่า
لا يجوز رد هذه الأخبار ولا التشاغل بتأويلها، والواجب حملها على ظاهرها وأنها صفات لله عز وجل لا تشبه صفات الموصوفين بها من الخلق .. ويدل على إبطال التأويل أن الصحابة ومن بعدهم حملوها على ظاهرها ولم يتعرضوا لتأويلها ولا صرفها عن ظاهرها، فلو كان التأويل سائغاً- يعني على ما زعم من قال إن في الحمل على ظاهرها تشبيه- لكانوا إليه أسبق لما فيه من إزالة التشبيه
ไม่อนุญาตให้คัดค้านบรรดาหะดิษเหล่านี้ และไม่อนุญาตให้สาละวนอยู่กับการตีความมัน และจำเป็นจะต้องถือมันตามความหมายที่ปรากฏมาของมัน และแท้จริงบรรดาสิฟัตของอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง นั้น ไม่มีความคล้ายคลึงกับบรรดาสิฟัต(คุณลักษณะ)ของบรรดาผู้ที่พรรณาสิฟัตด้วยมันจากมัคลูค และ สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าการตีความเป็นโมฆะ คือ บรรดาเศาะหาบะฮและ ผู้ที่อยู่สมัยหลังจากพวกเขา ได้ถือมันตามความหมายที่ปรากฏมาของมัน และพวกเขาไม่ได้แสดงการคัดค้านด้วยการตีความ และไม่ได้เปลี่ยนความหมายจากความหมายที่ปรากฏมาของมัน เพราะถ้า ปรากฏว่าการตีความเป็นสิ่งอนุญาต ตามความเข้าใจของผู้ที่กล่าวว่า แท้จริงการถือตามความหมายที่ปรากฏมาของมัน เป็นการตัชบิฮ(การเปรียบเทียบอัลลอฮว่าคล้ายคลึงกับมัคลูค) แน่นอน พวกเขา(เหล่าเศาะหาบะอ) ได้กระทำล่วงหน้าในมันมาก่อนแล้วจากการขจัดการตัชบิฮ - มุคตะศอรอัลอะลูวีย หน้า 270
.
ท่านอบูยะอลาได้กล่าวว่า ถ้าหากเชื่อตามความหมายที่ปรากฏมาของตัวบทจากบรรดาหะดิษที่ระบุเกี่ยวกับสิฟัตอัลลอฮ ถือเป็นการเปรียบเทียบอัลลอฮว่าคล้ายคลึงกับมัคลูค แน่นอนบรรดาเศาะหาบะฮได้ทำการขจัดการตัชบิฮด้วยการตีความตัวบทเหล่านี้มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ปรากฏว่า ไม่ปรากฏว่าพวกเขาตีความโดยเปลี่ยนจากความหมายเดิม
ท่านอิหม่ามอะหมัด (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
أَنْكَرْتُمْ أَنْ يَكُونَ الله عَلَى العَرْشِ، وَقَدْ قَالَ الله تَعَالَى: "الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى"
พวกท่านคัดค้าน ว่าอัลลอฮทรงอยู่บนอะรัชอย่างนั้นหรือ ทั้งๆที่ อัลลอฮ ตะอาลา ตรัสว่า พระผู้ทรงเมตตาทรงสถิตย์เหนือบัลลังก์ - อัรรอด อะลา อัซซะนาดิเกาะฮวัลยะฮมียะฮ หน้า 48-49
.
อายะฮข้างต้นอาชาอีเราะฮ ตีความว่า หมายถึง อำนาจการปกครอง ไม่ใช่ทรงประทับบนบัลลังค์จริงๆ
อินชาอัลลอฮ ว่างๆจะมาชี้แจงการบิดเบือนของนายเรเยส คนนี้ต่อ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Apr 25, 2009 10:17 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัลหาฟิซ อิบนุอับดุลบีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
" وأما قوله تعالى : ( أَأَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ أَنْ يَخْسِفَ بِكُمُ ) الملك/16 فمعناه مَن على السماء يعني على العرش ، وقد يكون في بمعنى على ، ألا ترى إلى قوله تعالى : ( فَسِيحُوا فِي الْأَرْضِ أَرْبَعَةَ أَشْهُرٍ ) التوبة/2 أي : على الأرض . وكذلك قوله : ( وَلَأُصَلِّبَنَّكُمْ فِي جُذُوعِ النَّخْلِ ) طه/71 " انتهى.
สำหรับคำตรัสของอัลลอฮตะอาลาที่ว่า (หรือว่าพวกเจ้าจะปลอดภัยจากการที่พระผู้ทรงสถิตย์อยู่ ณ ฟากฟ้าจะทรงส่งลมหอบก้อนกรวดให้กระหน่ำมายัง พวกเจ้า) - อัลมุลกุ/16 และความหมายของมันคือ ผู้ทรงอยู่บนฟากฟ้า หมายถึง อยู่บนอะรัช และบางครั้งคำว่า ฟี(ใน) มีความหมายว่า อะลา(บน) ท่านไม่เห็นดอกหรือ คำตรัสของอัลลอฮตะอาลาที่ว่า (ดังนั้นพวกท่าน จงท่องเที่ยวไปในแผ่นดินสี่เดือน) - อัตเตาบะฮ/2 หมายถึง บนแผ่นดิน และในทำนองเดียวกัน คำตรัสของอัลลอฮที่ว่า(และฉันจะเอาพวกท่านไปตรึงไว้ที่ต้นอินทผาลัม) อัตตัมฮีด เล่ม 7 หน้า 30
.........................
ท่านอิบนุอับดุลบิร ได้อธิบายว่า คำว่า "ฟี" ในอายะฮ ที่ว่าในฟากฟ้า หมายถึง บนฟากฟ้า บนอะรัช _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Apr 27, 2009 10:29 am ชื่อกระทู้: |
|
|
أبو علي الحسين بن الفضل البجلي سئل عن الاستواء وقيل له : كيف استوى على عرشه؟
فقال: (( أنا لا أعرف من أنباء الغيب إلاَّ مقدار ما كُشف لنا، وقد أعلمنا جلّ ذكره انَّه استوى على عرشه ولم يخبرنا كيف استوى
อบูอาลี อัลหุสัยน์ บิน อัลฟัฎลิอัลบะญะลีย์ ถูกถามเกี่ยวกับการอิสติวาอฺ โดยมีผู้ กล่าวแก่เขาว่า "คำว่า "ทรงประทับบนบัลลังก์ของพระองค์นั้นเป็นอย่างไร?" เขา(อบูอาลี)กล่าวว่า " ฉันไม่รู้เกี่ยวกับบรรดาข่าวคราวที่เร้นลับ นอกจาก ปริมาณของสิ่งที่ถูกเปิดเผยให้เรารู้เท่านั้น และอัลลอฮ ผู้ซึ่งการสรรเสริญพระองค์สูงส่งยิ่งนัก ได้ทรงบอกให้เรารู้ ว่า แท้จริง พระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ โดยที่พระองค์ ไม่ได้บอกให้เรารู้ว่า ทรงประทับอย่างไร - อะกีดะฮอัสสะลัฟ ของ อัศศอบูนีย์ หน้า 40
........
การประทับบัลลังก์ของอัลลอฮ แสดงให้เห็นว่าทรงอยู่เบื้องสูง แต่จะอยู่อย่างไร รูปแบบใหนนั้น เป็นความเร้นลับที่ไม่ได้ทรงเปิดเผยให้เรารู้ เพราะฉะนั้นเราเชื่อตามที่ทรงบอกให้รู้ เท่านั้น
อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮ กล่าวว่า
نشهد شهادة مقر بلسانه مصدق بقلبه مستيقن بما في هذه الأخبار من ذكر نزول الرب من غير أن نصف الكيفية ، لأن نبينا المصطفى لم يصف لنا كيفية نزول خالقنا إلى سماء الدنيا وأعلمنا أنه ينزل والله جل وعلا لم يترك ولا نبيه عليه السلام بيان ما بالمسلمين الحاجة إليه من أمر دينهم فنحن قائلون مصدقون بما في هذه الاخبار من ذكر النزول غير متلكفين القول بصفته أو ((بصفة الكيفية)) إذ النبي لم يصف لنا كيفية النزول
เราขอปฏิญาน เป็นการปฏิญานของผู้ที่ยอมรับด้วย วาจาของเขา,เชื่อด้วยหัวใจของเขาและเชื่อมั่นด้วยสิ่งที่อยู่ในบรรดาหะดิษเหล่านี้ จากการระบุการเสด็จลงมาของพระผู้อภิบาล โดยเราไม่พรรณารูปแบบวิธีการว่าเป็นอย่างไร เพราะ นบีของเรา,อัลมุสเฏาะฟา(ผู้ทรงได้รับการคัดเลือก) ไม่ได้พรรณารูปแบบให้แก่เรา ว่าพระผู้ทรงสร้างเร ทรงเสด็จลงมายังฟากฟ้าดุนยาอย่างไร และ ท่านได้บอกให้เรารู้ว่าทรงเสด็จลงมา และอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง และนบีของพระองค์ อะลัยฮิสสลาม จะไม่ละทิ้งการอธิบายสิ่งที่บรรดามุสลิมมีความจำเป็นต่อมัน จากกิจการศาสนาของพวกเขา (อย่างแน่นอน) ดังนั้น เราคือ ผู้กล่าว อีกทั้งเชื่อ ในสิ่งที่อยู่ในบรรดาหะดิษ ที่ระบุเกี่ยวกับการเสด็จลงมา(ของอัลลอฮ) โดยไม่กล่าวว่าลักษณะของมันเป็นอย่างไร หรือ(รูปแบบของมันว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร) เพราะท่านนบีไม่ได้ พรรณาลักณะรูปแบบวิธีการเสด็จลงมาให้เรารู้ - อัตเตาฮิด ของ อิบนุคุซัยมะฮ เล่ม 1 หน้า 289-290
..........
อะขาอีเราะฮยุคหลังปฏิเสธความหมายตามที่ปรากฏในหะดิษเหล่านี้ และปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงด้วยซาตของอัลลอฮ และที่อันตรายที่สุด เพิ่งมีคนที่ใช้นามแฝงว่า reyes ซึงอ้างว่าเป็นกลุ่มอาชาอีเราะฮ มาโพสต์กระทู้บิดเบือนว่า นักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์มีมติว่าอัลเลาะฮ์ไม่มีสถานที่!! นะอูซุบิลละฮ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Sun May 10, 2009 12:10 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ครับอาจารย์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
abu มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 04/01/2009 ตอบ: 19
|
ตอบ: Tue Nov 03, 2009 9:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คำกล่าวของบรรดาอุลามาอฺสะลัฟเกี่ยวกับการปฏิเสธเวลา สถานที่และทิศให้กับอัลเลาะฮฺ(ซุบหานะฮฺ) แบบพอสังเขปดังต่อไปนี้
1. อิมามอลีอิบนิอบีฏอลิบ (ร.ฏ.)
ท่านอิมามอลี (ร.ฏ.) คอลิฟะฮฺผู้ทรงธรรมท่านที่ 4 แห่งโลกอิสลาม กล่าวว่า
كان ولامكان، وهو الأن على ما عليه كان
?อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น(คือไม่ทรงมีสถานที่)? ดู อัลฟัร บันนะ อัลฟิร๊อก หน้า 333 ของท่านอบีมันซูร อัลบุฆดาดีย์
และท่านอิมามอะลี(ร.ฏ.)เช่นกันว่า
إن الله تعالى خلق العرش إظهارا لقدرته لا مكانا له
?อัลเลาะฮฺ ตะอาลา ทรงสร้างอะรัช (บัลลังค์) เพื่อทำให้เห็นถึงเดชานุภาพของพระองค์ ไม่ใช่เพื่อเป็นสถานที่(พำนัก)สำหรับพระองค์? ดู อัลฟัร บันนะ อัลฟิร๊อก หน้า 333 ของท่านอบีมันซูร อัลบุฆดาดีย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผมเองยังไม่เคลียร์ครับ รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายหลักฐานนี้ด้วยครับ..ญาซากัลลอฮฺ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Nov 04, 2009 9:15 am ชื่อกระทู้: |
|
|
abu บันทึก: |
คำกล่าวของบรรดาอุลามาอฺสะลัฟเกี่ยวกับการปฏิเสธเวลา สถานที่และทิศให้กับอัลเลาะฮฺ(ซุบหานะฮฺ) แบบพอสังเขปดังต่อไปนี้
1. อิมามอลีอิบนิอบีฏอลิบ (ร.ฏ.)
ท่านอิมามอลี (ร.ฏ.) คอลิฟะฮฺผู้ทรงธรรมท่านที่ 4 แห่งโลกอิสลาม กล่าวว่า
كان ولامكان، وهو الأن على ما عليه كان
?อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น(คือไม่ทรงมีสถานที่)? ดู อัลฟัร บันนะ อัลฟิร๊อก หน้า 333 ของท่านอบีมันซูร อัลบุฆดาดีย์
และท่านอิมามอะลี(ร.ฏ.)เช่นกันว่า
إن الله تعالى خلق العرش إظهارا لقدرته لا مكانا له
?อัลเลาะฮฺ ตะอาลา ทรงสร้างอะรัช (บัลลังค์) เพื่อทำให้เห็นถึงเดชานุภาพของพระองค์ ไม่ใช่เพื่อเป็นสถานที่(พำนัก)สำหรับพระองค์? ดู อัลฟัร บันนะ อัลฟิร๊อก หน้า 333 ของท่านอบีมันซูร อัลบุฆดาดีย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผมเองยังไม่เคลียร์ครับ รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายหลักฐานนี้ด้วยครับ..ญาซากัลลอฮฺ |
ช่วงนี้ ผมไม่ค่อยมีเวลา บังเอิญเห็นคุณอบูนำคำพูดที่อ้างว่า ท่านอาลีกล่าว ทั้งๆที่ความจริง เป็นการอุปโลกน์คำพูดเท็จให้แก่ท่านอาลี อะลัยฮิสสลาม เพราะคำพูดข้างต้น ผู้บันทึกคือ ท่าน อบูมันศูร อัลบัฆดาดีย์ ในหนังสือ อัลฟัรกุ บัยนัลฟัรกิ หน้า 333 ไม่ได้ระบุสายรายงาน และ ในขณะเดียวกัน ชีอะฮก็ได้อ้างหะดิษต้นนี้ในอัลกาฟีย์ และอัลหาฟิซ อิบนุหะญัร กล่าวว่า
وقع في بعض الكتب في هذا الحديث " كان الله ولا شيء معه، وهو الآن على ما عليه كان " وهي زيادة ليست في شيء من كتب الحديث،
ปรากฏในบรรดาตำราบางส่วน ในหะดิษนี้ คือ อัลลอฮทรงมีอยู่ และไม่มีสิ่งใดพร้อมกับพระองค์ และ และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น" และมันคือ การเพิ่มเติม มันไม่มีในสิ่งใดเลยจากบรรดาตำราหะดิษ - ดูฟัตหุ้ลบารีย์ เล่ม 6 หน้า 289
_________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Nov 04, 2009 9:43 am ชื่อกระทู้: |
|
|
قال العلامة ابن مانع في حاشيته على " الواسطية ":
وقع في بعض الكتب التي زعم مؤلفوها أنها على مذهب السلف عبارة باطلة وهي كما في رسالة " نجاة الخلف في اعتقاد السلف " (فالله تعالى كان ولا مكان ثم خلق المكان وهو على ما عليه كان قبل خلق المكان
อัลลามะฮ อิบนุมาเนียะ ได้กล่าวไว้ในหาชิยะฮ อะลัลวาสิเฏาะฮ ว่า"ได้ปรากฏข้อความเท็จในหนังสือบางเล่มซึ่งผู้เรียบเรียง(ผู้แต่ง)มันเข้าใจว่าอยู่บนทัศนะสะลัฟ และดังที่มันปรากฏใน ริสาละฮที่มีชื่อว่า "นะญาตุลเคาะลัฟ ฟี เอียะติกอดอัสสะลัฟว่า
فالله تعالى كان ولا مكان ثم خلق المكان وهو على ما عليه كان قبل خلق المكان
อัล เลาะฮฺตะอาลาทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ ต่อมาทรงสร้างสถานที่ และพระองค์ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น ก่อนสร้างสถานที่"
http://www.ahlalhdeeth.com/vb/showthread.php?p=791711
.................
เว็บซุนนะฮสะติวเด้นได้อ้างคำพูดที่แอบอ้างข้อความเท็จให้แก่ท่านอาลี อะลัยฮิสสลาม ข้างต้น มาอ้างบ่อยมาก _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Nov 05, 2009 11:09 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อะชาอีเราะฮเว็บซุนนะฮสะติวเด้น และรอฟิเฎาะฮ(ชีอะฮ) ให้การยอมรับกับข้อความเท็จที่ชีอะฮกุขึ้นมา แอบอ้างว่าท่านอาลี พูด คำว่า
كان ولامكان، وهو الأن على ما عليه كان
อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น(คือไม่ทรงมีสถานที่)?
ดังปรากฏในตำราชีอะฮชื่อ อัลกาฟีย์ ของกุลัยนีย์ ในหัวข้อเรื่อง باب الكون والمكان โดยระบุว่า
عن أحمد بن محمد بن أبي نصر ، عن أبي الحسن الموصلي ، عن أبي عبد الله عليه السلام قال : جاء حبر من الاحبار إلى أمير المؤمنين عليه السلام فقال : يا أمير المؤمنين متى كان ربك ؟ فقال له : ثكلتك أمك ومتى لم يكن ؟ حتى يقال : متى كان ، كان ربي قبل القبل بلا قبل وبعد البعد بلا بعد ، ولا غاية ولا منتهى لغايته ، انقطعت الغايات عنده فهو منتهى كل غاية ، فقال : يا أمير المؤمنين ! أفنبي أنت ؟ فقال : ويلك إنما أنا عبد من عبيد محمد صلى الله عليه وآله .
وروي أنه سئل عليه السلام : أين كان ربنا قبل أن يخلق سماء وأرضا ؟
فقال عليه السلام : (( أين سؤال عن مكان ؟ ! وكان الله ولا مكان
รายงานจากอะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน อบีนัศริน จากอัลหะซัน อัลมูศิลีย์ จากอบีอับดุลลอฮ อะลัยฮิสสลาม กล่าวว่า " บาทหลวงคนหนึ่ง จากบรรดาบาทหลวง ได้มาหาผู้นำแห่งศรัทธาชน(อาลี) อะลัยฮิสสลาม แล้วกล่าวว่า "โอ้อะมีรุ้ลมุอฺมินิน.. พระเจ้าของท่านมีมาแต่เมื่อไหร? แล้วเขา(อาลี)กล่าวแก่เขาผู้นั้นว่า " มารดาของท่านคงได้ตายไปจากท่านละซิ.. และเมื่อไหร่พระองค์ทรงไม่มีหรือ? จนกระทั่ง มีผู้กล่าวว่า " พระเจ้าของฉัน ทรงมีมาก่อน คำว่าก่อน โดยไม่มีคำว่าก่อน และทรงมีหลังจากคำว่า หลังจาก โดยไม่มีคำว่าหลังจากนั้น,ไม่มีเป้าหมายและไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับเป้าหมายของพระองค์ ,บรรดาเป้าหมายได้ขาดตอน ณ ที่พระองค์ โดยที่พระองค์คือ ที่สิ้นสุดของทุกๆเป้าหมาย,แล้วเขาผู้นั้น กล่าวว่า "โอ้ อะมีรุ้ลมุอฺมินีน.. ท่านเป็นนบีหรือ? แล้วเขา(อาลี)กล่าวตอบว่า " ขอความวิบัติจงประสบแด่ท่าน.. ความจริง ฉันเป็นบ่าว จากบรรดาบ่าวของมุหัมหมัด ขออัลลอฮโปรดประทานพรแก่ท่านนบี และวงศวานของท่าน และมีรายงานว่า เขา(อาลี)ถูกถามว่า " พระเจ้าของเราอยู่ไหน ก่อนที่พระองค์ทรงสร้างฟากฟ้าและแผ่นดิน ,แล้วเขา(อาลี)กล่าวว่า " ใหนล่ะคำถามเกี่ยวกับสถานที่? .. และพระองค์นั้นทรงมีมาแล้ว และไม่มีสถานที่"
http://www.alagidah.com/vb/showthread.php?t=3371
.........
ข้างต้นเป็นรายงานของชีอะฮ ที่อะชาอีเราะฮซุนนะฮสะติวเด้นชอบนำมาอ้าง _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Apr 19, 2012 1:49 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ในตอนหนึ่ง ของหะดิษเกี่ยวกับเมียะรอจญ์ ระบุว่า
فَعَادَ بِهِ جَبْرَائِيلُ حَتَّى أَتَى الْجَبَّارَ عَزَّ وَجَلَّ وَهُوَ مَكَانُهُ ، فَقَالَ : " رَبِّ خَفِّفْ عَنَّا ، فَإِنَّ أُمَّتِي لَا تَسْتَطِيعُ هَذَا ، فَوَضَعَ عَنْهُ عَشْرَ صَلَوَاتٍ; ثُمَّ رَجَعَ إِلَى مُوسَى عَلَيْهِ السَّلَامُ
แล้ว ญับรีลได้นำเขา(มุหัมหมัด) กลับไป จนกระทั้งมาถึง พระผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงสูงส่ง และทรงเลิศยิ่งโดยที่พระองค์ อยู่ ณ.สถานที่ของพระองค์ แล้วเขา(มุหัมหมัด) กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้า ได้โปรดลดย่อนจากเราเถิด เพราะแท้จริง อุมมะฮของข้าพระองค์ ไม่มีความสามารถ สิ่งนี้ แล้วพระองค์ได้ลดให้เขา สิบเวลาละหมาด.ต่อมา เขา (มุหัมหมัด )กลับไปยังมูซา ......หะดิษเศาะเฮียะ ดู ตัฟสีรอัฏอ็บรีย์ เล่ม 17 หน้า 339 เรื่อง การอิสเราะ เมียะรอจญ
...........
หะดิษข้างต้นเป็นการรับรอง สถานที่เกี่ยวกับอัลลอฮ ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น อัลลลอฮเท่านั้นทรงรู้ยิ่ง _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed May 23, 2012 10:08 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อิหม่ามอัดดาริมีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่านกล่าวว่า
فقد أخبر الله العباد أين الله وأين مكانه، وأيَّنَه رسول الله في غير حديث
แท้จริง อัลลอฮทรงบอกบรรดาบ่าวว่า อัลลอฮยู่ใหน และสถานที่พระองค์อยู่ใหน และ รซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮูอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ระบุว่าพระองค์อยู่ใหน มากกว่าหนึ่งหะดิษ ดู อัลมะริสีย์อัลญะฮมีย์ เล่ม 1 หน้า 509
อิหม่ามอัดดาริมีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่านกล่าวว่า
فلو لم يوصف بأين كما ادعيت أيها المعارض لم يكن رسول الله يقول للجارية أين الله فيغالطها في شيء لا يؤين وحين قالت هو في السماء لو قد أخطأت فيه لرد رسول الله عليها وعلمها، ولكنه استدل على إيمانها بمعرفتها أن الله في السماء،
แล้วถ้าหากอัลลอฮ ไม่ได้ทรงบอกลักษณะว่า พระองค์อยู่ใหน ดังที่ท่านอ้างโอ้ บรรดาผู้ที่คัดค้าน แน่นอนรซูลลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม คงไม่กล่าวแก่ทาสหญิงคนนั้นว่า อัลลอฮอยู่ใหนหรอก เพราะจะทำให้นางผิดพลาดในสิ่งที่ไม่ได้อยู่ที่ใหน และในขณะทีนางกล่าวว่า พระองค์อยู่บนฟ้า แน่นอนถ้านาง ผิดพลาดในคำตอบนั้น รซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะต้องคัดค้านนาง และสอนนาง แต่ในทางกลับกัน ท่านรซูลุลลอฮ กลับแสดงบอกถึงความศรัทธาของนาง ด้วยการรู้จักของนาง ว่า อัลลอฮอยู่บนฟากฟ้า- ดู อัลมะริสีย์อัลญะฮมีย์ เล่ม 1 หน้า 511 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Dec 10, 2012 9:50 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
فأما ما روي عن الإمام علي ـ رضي الله عنه ـ مما ذكر، فلم نعثر على أي سند له ـ صحيحا كان السند أو ضعيفا ـ ولكن ثبت عن رسول الله صلى الله عليه وسلم أنه قال: كان الله ولم يكن شيء قبله، وكان عرشه على الماء، ثم خلق السموات والأرض وكتب في الذكر كل شيء.
وأما جملة: وهو الآن على ما عليه كان.
فهي زيادة موضوعة من بعض أهل البدع، ولم تثبت في شيء من كتب الحديث، وهذا باتفاق المحدثين.
قال الحافظ ابن حجر: وهي زيادة ليست في شيء من كتب الحديث. فتح الباري
สำหรับสิ่งที่ถูกรายงานจากอิหม่ามอาลี (ร.ฎ) จากสิ่งที่ถูกระบุดังกล่าว เราไม่เคยพบว่าสายรายงานของมันมาจากใหน ไม่ว่าจะเป็นสายรายงานที่เศาะเฮียะ หรือ เฎาะอีฟ (ก็ไม่เคยพบ) แต่ที่ปรากฏแน่นอนจากรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ) นั้นแท้จริงท่านได้กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดมาก่อนพระองค์ และอะรัชของพระองค์ อยู่บนน้ำ ต่อมาทรงสร้าง บรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และทรงบันทึกทุกสิ่งในอัซซิกริ (เลาหุลมะฮฟูซ)
สำหรับประโยคที่ว่า และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น"
มันคือ การเพิ่มเติม ที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาจากชาวบิดอะฮบางส่วน โดยที่ไม่ปรากฏในสิ่งใดจากบรรดาตำราหะดิษ และนี้คือ ด้วยการเห็นฟ้องของบรรดานักหะดิษ ,อัลหาฟิซ อิบนุหะญัร กล่าวว่า และมันคือ การเพิ่มเติม มันไม่มีในสิ่งใดเลยจากบรรดาตำราหะดิษ - ดูฟัตหุ้ลบารีย์
http://www.islamweb.net/fatwa/index.php?page=showfatwa&Option=FatwaId&Id=129671 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Jul 21, 2013 10:46 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คำนี้ได้จากใหน
الله موجود بلا مكان.
อัลลอฮทรงมีอยู่โดยไม่มีสถานที่
คำนี้มาจากคำพูดที่อ้างว่าเป็นคำพูด ของท่านอาลี(ร.ฎ) คือ
كان ولامكان، وهو الأن على ما عليه كان
อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น - ดู อัลฟัร บันนะ อัลฟิร๊อก หน้า 333 ของท่านอบีมันซูร อัลบุฆดาดีย์
@@@@@
มาดูคำตอบ
الحمد لله والصلاة والسلام على رسول الله وعلى آله وصحبه، أما بعد:
فهذه العبارة قد كثر تداولها في كتب الأشاعرة وأمثالهم من نفاة صفات الله تعالى، وقد نسبها بعضهم إلى علي - رضي الله عنه - كما فعل الخطيب البغدادي في كتابه: "الفَرق بين الفِرَق" ولم يذكر لها إسنادًا، قال الدكتور عبد الله بن حسين الموجان في كتابه: الرد الشامل على الدكتور عمر كامل: فأين الإسناد عن علي بأن الله (كان ولا مكان وهو الآن على ما عليه كان) وقد نقلته من الفَرْقِ بين الفِرَقِ وهو مصنف لرجل أشعري......اهـ. وهم يريدون بهذه العبارة نفي علو الله تعالى على خلقه واستوائه على عرشه، ويذكرونها في هذا السياق.
มวลการสรรเสริญ เป็นสิทธิแห่งอัลลฮ พรและความสันติสุข จงประสบแด่รซูลุลลอฮ ,วงศวานและบรรดาสาวกของท่าน อนึ่ง
ข้อความนี้ การใช้มัน ส่วนมาก อยู่ในบรรดาตำราอะชาอิเราะฮและบรรดาผู้ที่มีแนวทางเหมือนกับพวกเขา จากการ ปฏิเสธบรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮ ตะอาลา ,ส่วนหนึ่งของพวกเขาได้อ้างมัน แก่ อาลี (ร.ฎ) ดัง ที่อัลเคาะฏิบ อัลบัฆดาดีย์ กระทำ ในหนังสือของเขาชื่อ อัลฟัรกุ บัยนัลฟัรกิ และโดยที่เขาไม่ได้ระบุสายรายงานของมัน ,ดร.อับดุลเลาะ บิน หุสัยนฺ อัลมูญาน ในหนังสือของเขาชื่อ อัรรอ็ด อัชชามิล อะลัดดอ็กเตอร์ อุมัร กามิล ว่า ใหนล่ะสายรายงานจากอาลี ว่า(อัลลอฮ อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ และพระองค์ในปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอย่างนั้น) และแท้จริงข้าพเจ้าได้คัดลอกมัน มาจาก หนังสือ อัลฟัรกุ บัยนัลฟัรกิ โดยที่มัน คือ ผลงานเขียนของ ชายคนหนึ่งที่เป็นชาวอะชาอิเราะฮ ....... และด้วยข้อความนี้ พวกเขาต้องการปฏิเสธ การอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮตะอาลา เหนือมัคลูคของพระองค์ และการสถิตของพระองค์ บน อะรัชของพระองค์ และพวกเขาระบุมัน ในความหมายนี้
والصواب أن الله تعالى مستو على عرشه، بائن من خلقه، وفوق جميع خلقه، وقد أخبر أنه خلق السموات والأرض ثم استوى على العرش، وذلك في سبعة مواضع من كتابه الكريم، منها قوله تعالى: إِنَّ رَبَّكُمُ اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ [الأعراف:54].
และที่ถูกต้องนั้น แท้จริง อัลลอฮตะอาลา ทรงเป็นผู้สถิต/อยู่ บน อะรัช ของพระองค์ แยกจากมัคลูคของพระองค์ และทรงอยู่เหนือ บรรดามัคลูคของพระองค์ทั้งหมด และแท้จริง พระองค์ทรงบอก ว่า พระองค์ทรงสร้างฟากฟ้าและแผ่นดิน หลังจากนั้นทรง สถิต/อยู่ บน อะรัช และดังกล่าว ถูกระบุในเจ็ดแห่งจากคัมภีร์ของพระองค์ อันทรงเกียรติ ,ส่วนหนึ่งจากมัน คือ คำตรัสของอัลลอฮตะอาลาที่ว่า
إِنَّ رَبَّكُمُ اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ [الأعراف:54].
แท้จริงพระเจ้าของพวกเจ้านั้น คือ อัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินภายในหกวัน และทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ อัลอะรอฟ/54
สรุปว่า คำว่า
كان ولامكان، وهو الأن على ما عليه كان
เป็นคำที่แอบอ้างว่าเป็นคำพูดของอาลี (ร.ฎ) โดยไมมีสายรายงาน
http://fatwa.islamweb.net/fatwa/index.php?page=showfatwa&Option=FatwaId&Id=189597 _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Wed Sep 24, 2014 2:04 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อิหม่ามอัดดาริมีย์ หรือ มีชื่อเต็มว่า อุษมาน บิน สะอีด อัดดาริมีย์ มีชีวิต อยู่ใน ระหว่าง ปี ฮ.ศ 200 - 280 กล่าวว่า
وقال الله {الرحمن على العرش استوى} فقد أخبر الله العباد أين الله وأين مكانه وأينه رسول الله في غير حديث فقال:" من لم يرحم من في الأرض لم يرحمه من في السماء
และอัลลอฮ ตรัสว่า (พระเจ้าผู้ทรงเมตตา ทรงสถิตเหนือบัลลังค์) แท้จริง อัลลอฮทรงบอกบรรดาบ่าวว่า อัลลอฮยู่ใหน และสถานที่พระองค์อยู่ใหน และ รซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮูอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ระบุว่าพระองค์อยู่ใหน มากกว่าหนึ่งหะดิษ
และท่านนบีได้กล่าวว่า
مَنْ لَمْ يَرْحَمْ مَنْ فِي الأَرْضِ لَمْ يَرْحَمْهُ مَنْ فِي السَّمَاءِ
ผู้ใดไม่เมตตาต่อ ผู้ที่อยู่ บนพื้นดิน ผู้ที่อยู่บนฟ้า ก็จะไม่เมตตาเขา -ดู อัลมะริสีย์อัลญะฮมีย์ เล่ม 1 หน้า 509
.
อิหม่ามอัดดารมีย์ เสียชีวิต ปี ฮ.ศ 280 อิหม่ามมุหัมหมัด บิน อับดุลวะฮฮับ หรือ ที่มีผู้ฉายาว่าวะฮบีย เกิดปี ฮ.ศ 1115 มีระยะห่างกัน 835 ปี แต่ถ้าใครอ้างคำพูด อิหม่ามดารีมีย์ ก็จะถูกกล่าวหาว่า เป็นแนวคิดวะฮบีย์ นี่คือ อันตรายของคนเสพวิชากาลาม(วิภาษวิทยา) ที่พยายายามปฏิเสธ หลักฐานต่างๆที่ไม่กินกับปัญญาและเหตุผล อิหม่ามชาฟิอีเองต่อต้านว่าชานี้มาก เพราะอันตราย
อิหม่ามชาฟีอี ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ กล่าวว่า
حُكْمِي فِي أهْلِ الكلاَمِ أنْ يُضْرَبُوا بِالْجَرِيْدِ وَالنِعَالِ وَيُطَافُ بِهِمْ فِي العَشَائِرِ وَالقَبَائِلِ وَيُقَالُ : هَذَا جَرَاءُ مَنْ تَرَكَ الكِتَابَ وَالسُنَّةَ وَأقْبَلَ عَلَى الكلاَمِ
คำตัดสินของฉันเกี่ยวกับนักวิพากษ์นิยมนั้นคือ ให้หวดด้วยก้านอินผลัม และรองเท้า แล้วจับแห่รอบวงศาคณาญาติและชนเผ่าต่างๆ โดยให้กล่าวว่า นี่คือรางวัลของผู้ละทิ้งอัลกุรอานและซุนนะห์แล้วไปรับเอาวิชากะลาม ซิยะรุ้ลอะอ์ลามิลนุบะลาอ์ 10/29
คำพูดอหม่ามชาฟิอีข้องต้น เป็นรายงานที่เศาะเฮียะ ดูที่มา
أخرجه البيهقي في مناقب الشافعي 1/462، والخطيب والغدادي في شرف أصحاب الحديث رقم: 163، وابن عبد البر في الانتقاء في مناقب الأئمة الثلاثة الفقهاء ص 123-124، وأبو نعيم في حلية الأولياء 9/116، والبغوي في شرح السنة 1/218، وابن حجر في توالي التأسيس ص 111، وذكره الذهبي في سير أعلام النبلاء 10/29، وعلي القاري في شرح الفقه الأكبر ص 2-3، والسيوطي في الأمر بالإتباع والنهي عن الابتداع ص 72، وفي صون المنطق والكلام ص 31 و65، وابن مفلح الحنبلي في الآداب الشرعية 1/225،
...... _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Mon Nov 02, 2015 9:17 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|