ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
al-faruk มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 23/04/2009 ตอบ: 11
|
ตอบ: Thu Apr 23, 2009 12:03 pm ชื่อกระทู้: เมาลิดเป็นพิธีกรรมที่ที่ท่านนบีรังเกียจ+ขยะแขยง |
|
|
ตามหลัการกียาสเอาลาวีย์เมาลิดเป็นพิธีกรรมที่ท่านนบีสุดจะระอาหลักฐาน
ท่านอนัส บิน มาลิก เล่าว่า
"ไม่มีอีกแล้วในโลกนี้บุคคลที่พวกเขา(ศอหาบะฮ์)อยากจะเจอหน้ายิ่งไปกว่าท่านรอซูลแต่เมื่อพวกเขาเจอท่านพวกเขาไม่เคยยืนขึ้นให้เกียรติท่านเลยเพราะรู้ว่าท่านรังเกียจพฤติกรรมเหล่านี้" ดู บุคอรีในอัลอะดับอัลมุฟร็อด หะดีษที่ 946 อัตติรมีซีย์ หะดีษที่ 2754 อัฏฏอหาวีย์ในมุชกิลอัลอาษาร หะดีษที่ 1276 อะห์มัด เล่ม 3 หน้า 132
แค่การยืนให้เกียรติท่านนบียังรังเกียรติ จนบรรดาศอหาบะฮ์ไม่กล้าทำแล้วนับประสาอะไรกับการจัดงานเมาลิดเพื่อฉลองวันเกิดให้ท่านซึ่งมันเว่อและเอิกเกริกกว่าการยืนให้เกียรติกว่านี้หลายร้อยร้อยเท่านัก คิดหรือว่าหากศอหาบะฮ์จัดงานเมาลิด ท่านนบีคงเปลื้มและภูมิใจ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-faruk มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 23/04/2009 ตอบ: 11
|
ตอบ: Thu Apr 23, 2009 12:27 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
เมื่อพูดถึงการยืนให้เกียรติมีนักวิชาการหลายท่านอ้างว่าเป็นเรื่องที่อิสลามส่งเสริมโดยอ้างหลักฐานว่า "กูมูอีลาซัยยีดีกุม" จงลุกขึ้นไปหานายของพวกท่านซิ ถูกบันทึกโดยท่านบุคอรีย์ หะดีษที่ 6262 อะบูดาวูด หะดีษที่ 5215 อะฮ์มัด เล่ม 2 หน้า 22
ชี้แจง
แม้มีความหมายเชิงคำสั่งแต่สำนวนดังกล่าวเป็นสำนวนสั่งให้ลุกขึ้นไปหาเพื่อให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากเกิดสงครามสนามเพลาะ ตอนนั้น ท่านซะอีด บิน มุอาซซึ่งเป็น แม่ทัพในสงครามคอนดักบาดเจ็บสาหัส
ท่านอิหม่ามอะฮ์มัดได้บันทึกเหตุการณ์นี้ในหนังสือ อัล-มุสนัด ของท่าน เล่มที่ 6 หน้า 142 รายงานจากท่านหญิงอาอีฉะฮ์ว่า
"ท่านร่อซูลจึงสั่งให้คนไปตามท่านสะอัด บิน มุอาซ มา ท่านจึงถูกนำไปวางบนหลังลาซึ่งมีอานทำจากไยถักและถูกบันทุกบนหลังลานั้น เมื่อท่านรอซุลมาถึงก็กล่าวว่า พวกท่านจงลุกขึ้นไปหานายของพวกท่าน แล้วประคองเขามาซิ"
จากข้อความข้างต้นชัดเจนแล้วว่าท่านนบีสั่งให้ลุกขึ้นมิใช่เพื่อเคารพแตเพื่อลุกไปช่วยเหลือ
ผมคิดว่าถ้าเราไม่รั้นเพื่อเอาชนะคะคานกันคงไม่มีใครอ้างหะดีษบทนี้อีกนะครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-faruk มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 23/04/2009 ตอบ: 11
|
ตอบ: Thu Apr 23, 2009 12:33 pm ชื่อกระทู้: .... |
|
|
เพิ่มเติม
บางที่ผมเคยเห็นมานะครับโต๊ะครูแถวบ้านทำหัวหมอแทนที่จะอ้างสำนวนว่า "กูมูอีลาซัยยีดีกุม" กลับอ้างสำนวนที่ว่า กูมูลิซัยยีดีกุม
ก็ขอเรียนว่า
สำนวนนี้ไม่มีปรากฏบันทึกในตำราหะดีษเล่มใดทั้งสิ้น นะขอรับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
al-faruk มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 23/04/2009 ตอบ: 11
|
ตอบ: Thu Apr 23, 2009 12:47 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
ขอแซวหน่อย คันปากมานานแร้ว
คนที่ทำเมาลิดนี่ก็แปล๊กแปลก ยังไงหรือ
พอเค้าบอกว่าเมาลิดเป็นบิดอะฮ์ บรรดาละแบทั้งหลายแหล่ก็ออกมาโต้ว่าถึงจะบิดอะฮ์ก็บิดอะฮ์หาสะนะฮ์......แต่ผู้รู้บางคน(แถวๆนี้แหละ)เจ๋งกว่าละแบพวกนี้อีก พอโดนจี้ว่าไหนลองหาหลักฐานเรื่องเมาลิดมาดิ ผู้รู้เหล่านี้ก็ร้อนวิชาจนต้องเผยอวิชาออกมาเที่ยวเสาะหาหลักฐานต่างๆมา เช่นเรื่องนบีทำอะกีกอฮ์บ้างละ เรื่องนบีเกิดวันจันทร์บ้างละ ไร้สาระครับเลอะเทอะกันไปใหญ่แล้วครับ
ก็ไหนตะกี้บอกเป็นบิดอะฮ์หาสานะฮ์แล้วยังจะมีดาลี้ลไหนอีกหรือที่ยันยันว่ามันเป็นซุนนะฮ์???????????? ยังงี้ถ้าไม่เรียกว่าพูดรัดคอตัวเองก็ต้องบอกว่าเดินขัดขาตัวเองละครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Fri Apr 24, 2009 2:57 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
ท่านอิบนุฮะญัรอัลฮัยตะมีย์ นักวิชาการฟิกฮ์ผู้โด่งดังแห่งมัซฮับชาฟีอีย์กล่าวว่า
งานเมาลิดยังประกอบขึ้นจากสิ่งต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายๆอย่างอยู่เสมอเช่นกันมาตรว่าจะไม่มีสิ่งต้องห้ามอื่นใดในงานดังกล่าวนั้นนอกจากการเปิดโอกาสให้สตรีได้มองดูผู้ชายอื่น(ที่มิใช่มะห์ร็อมของตน)ก็ถือว่าเป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่จะห้ามการจัดงานนั้น
จากหนังสือ อัล-อิบดาอ์ฟีมะฎอรอัลอิบดาอ์ หน้า264 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Fri Apr 24, 2009 3:07 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
[B]ท่านอัลลามะอัชเชคอะลีย์มะห์ฟูศ ยังได้กล่าวไว้ในหนังสือดังกล่าวต่อไปอีกในหน้าที่ 281 ว่า
"บรรดาบรรพชนยุคแรกๆนั้นพวกเขาจะไม่oกำหนดวันไหนหรือคืนไหน[/]เพือทำอีบาดะฮ์เป็นพิเศษนอกจากมีหลักฐานกำหนดจากท่านร่อซูล.....แล้วต่อมาคนยุคหลังพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ดังกล่าวดโยการกำหนดวันเวลา สถานที่ หรือรูปแบบอีบาดะฮ์กันเองโดยพลการ"[/B] |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Fri Apr 24, 2009 3:29 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
ขอเรียนถามอ.อะสันหน่อยครับ
ที่ท่านอัลลามะอ์อัสสะยูฏีย์ได้กล่าวในหนังสือ อัลหาวีย์ลิ้ลฟะตาวีย์ เล่มที่ 1 หน้า 292 ว่า งานเมาลิดเป็นบิดอะฮ์หาสานะฮ์ หรือที่ท่าน อะบูชามะฮ์กล่าวในหนังสือ อัล-บาอิษอะลาอิงการิลบิดาอีย์วัลหาวาดิษ หน้า 95 ไว้ด้วยนั้น ......แล้วจู่ๆท่านอัสสะยูฏีย์เองก็มากล่าวอีกว่างานเมาลิดเป็นการกียาสมาจากอูซูล 2 ประการคือท่านนบีทำอะกีเกาะฮ์ให้ตัวเอง กับการถือศีลอดอาชูรอ
ขอถามอาจารย์ว่าคำกล่าวที่ว่าเมาลิดเป็นบิอะอ์หาสานะฮ์ กับ เมาลิดมีพื้นฐานมาจากการกียาสนั้นขัดแย้งกันหรือเปล่า....เพราะหลักฐานของศาสนาตามมัซฮับท่านอีหม่ามชาฟีอีย์นั้นมีที่มาจาก 4 ประการคือ อัลกุรอ่าน ซุนนะฮ์ อิญมะอ์ และกียาส....ถ้าเมาลิดมีพื้นฐานจากการกียาสก็ต้องถือว่าเป็นบทบัญญัติจะเรียกว่าเป็นบิดอะฮ์หาสานะอ์ไดอย่างไร???
ตัวอย่างเช่น การวาญิบจ่ายซะกาตข้าวเปลือกเป็นการกียาสมาจากข้าวสาลีหรือข้าวบาร์เลย์จึงถือเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติ......ไม่เห็นจะมีนักวิชาการคนไหนกล่าวว่าการวาญิบจ่ายซะกาตข้าวเปลือกเป็นบิดอะฮ์หาสานะฮ์ซักคน ...เอะ...หรือมี???
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Apr 24, 2009 10:27 pm ชื่อกระทู้: Re: ... |
|
|
sunnahkung บันทึก: |
ขอเรียนถามอ.อะสันหน่อยครับ
ที่ท่านอัลลามะอ์อัสสะยูฏีย์ได้กล่าวในหนังสือ อัลหาวีย์ลิ้ลฟะตาวีย์ เล่มที่ 1 หน้า 292 ว่า งานเมาลิดเป็นบิดอะฮ์หาสานะฮ์ หรือที่ท่าน อะบูชามะฮ์กล่าวในหนังสือ อัล-บาอิษอะลาอิงการิลบิดาอีย์วัลหาวาดิษ หน้า 95 ไว้ด้วยนั้น ......แล้วจู่ๆท่านอัสสะยูฏีย์เองก็มากล่าวอีกว่างานเมาลิดเป็นการกียาสมาจากอูซูล 2 ประการคือท่านนบีทำอะกีเกาะฮ์ให้ตัวเอง กับการถือศีลอดอาชูรอ
ขอถามอาจารย์ว่าคำกล่าวที่ว่าเมาลิดเป็นบิอะอ์หาสานะฮ์ กับ เมาลิดมีพื้นฐานมาจากการกียาสนั้นขัดแย้งกันหรือเปล่า
|
อัลหัมดุลิลละฮ
ขอตอบดังนี้
1. ผู้ที่กล่าวว่า เมาลิดเป็นบิดอะฮหะสานะฮ นั้น แสดงว่า ผู้กล่าวยอมรับว่า การเฉลิมฉลองวันเกิดของท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมนั้น ไม่มีในสุนนะฮ เพราะ บิดอะฮ มีความหมายตรงข้ามกับคำว่า อัสสุนนะฮ
2. ที่บอกว่า เมาลิดมีพื้นฐานมาจากการกิยาส ,การกิยาส คือ การนำสิ่งที่ไม่มีตัวบทกำหนดไว้เป็นบทบัญญัติ มาเทียบกับ สิ่งที่มีตัวบทกำหนดไว้เป็นบทบัญญัติ เพราะมีสาเหตุ(อิลละฮ)ใกล้เคียงกัน
สองเรื่องข้างต้น มันคนละเรื่องกัน เพราะถ้า สิ่งนั้น มีรากฐานมาจากตัวบทที่กำหนดไว้เป็นบทบัญญัติ
ก็ไม่เรียกว่า เป็นบิดอะฮ เพราะ บิดอะฮ คือ สิ่งที่ไม่มีรากฐานมาจากตัวบทกำหนดไว้เป็นบทบัญญัติ จากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่อง อิบาดะฮ ไม่มีคำว่า บิดอะฮที่ดี เพราะทุกบิดอะฮ เป็นการหลงผิด
ท่านมุหัมหมัด อับดุสสลาม เคาะฎีร อัชชะกีรีย์ กล่าวว่า
فاتخاذ مولده موسماً والاحتفال به بدعة منكرة، وضلالة لم يرد بها شرع ولا عقل، ولو كان في هذا خير كيف يغفل عنه أبو بكر وعمر وعثمان وعلي وسائر الصحابة والتابعون وتابعوهم والأئمة وأتباعهم
การถือเอาวันเกิดของท่านนบี เป็นเทศกาลชุมนุมและการเฉลิมฉลอง ด้วยมันนั้น เป็นบิดอะฮ ที่เลว เป็นการหลงผิด ไม่ปรากฏบทบัญัติด้วยมัน และ ไม่กินกับปัญญา และถ้าปรากฏว่าในสิ่งนี้ มีความดีงาม ทำไมอบูบักร์,อุมัร,อุษมาน ,อาลี ,เหล่าสาวกคนอื่นๆ,เหล่า ตาบิอีน ,บรรดาผู้เจริญรอยตามพวกเขา ,บรรดาอิหม่ามและบรรดาผู้ที่ตามพวกเขา ได้ละเลย จากมัน อัสสุนัน วัล มุบตะดะอาต หน้า 138
สัยยิดอาลี อัลฟักรีย์ กล่าวว่า
لم يكن في سنة العرب أن يحتفلوا بتاريخ ميلاد لأحد منهم، ولم تجر بذلك سنة المسلمين فيما سلف، والثابت في كتب التاريخ وغيرها أن عادة الاحتفال بمولد النبي صلى الله عليه وسلم من العادات المحدثة
ในสุนนะฮ(แบบอย่าง)ของชาวอาหรับ ไม่ปรากฏว่า พวกเขาเฉลิมฉลองวันเกิดคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเขา และด้วยการกระทำดังกล่าวนั้น ไม่ได้ถูกนำไปเป็นสุนนะฮของบรรดามุสลิม ในยุคสะลัฟ และที่ปรากฏยืนยันในบรรดาตำราประวัติศาสตร์และอื่นจากนั้น แท้จริง ประเพณีเฉลิมฉลองวันเกิดนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากประเพณีที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ อัลมุหาเฎาะรอตอัลฟิกรียะฮ หน้า 128
เช็คอัลลามะฮ หะมูด อัตตุวัยญะรีย์ กล่าวว่า
فالذين يتخذون المولد عيداً ليسوا من الذين ترجى لهم المثوبة على هذه البدعة، وإنما هم من الذين تخشى عليهم العقوبة على مخالفتهم للأمر الذي كان عليه رسول الله وأصحابه
ดังนั้นบรรดาผู้ที่ถือเอาวันเกิด เป็นวันตรุษเฉลิมฉลองนั้น พวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาผู้ที่หวังว่าจะได้รับผลบุญ ต่อบิดอะฮนี้ และความจริง พวกเขาเป็นส่วนหนึ่ง จากผู้ที่เกรงว่า การลงโทษ ตกอยู่บนพวกเขา ต่อการที่พวกเขาขัดแย้งต่อสิ่งที่รซูลุลลอฮ และบรรดาสาวกของท่าน ได้ยืนหยัดอยู่ - อัลเกาะวีย์ อะลัรรอฟิอีวัลมัจญฮูล อิบนุอะละวีย์ หน้า 223
ส่วนที่อ้างการกิยาส กับหะดิษที่นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมนั้น ทำอะกีเกาะให้ตัวเองนั้น หะดิษดังกล่าวเป็นหะดิษเฎาะอีฟ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
อิหม่ามนะวาวีย(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่านกล่าวว่า
أما الحديث الذي ذكره ـ أي الشيرازي ـ في عق النبي عن نفسه فرواه البيهقي بإسناده عن عبدالله بن محرر بالحاء المهملة والراء المكررة عن قتادة عن أنس "أن النبي صلى الله عليه وسلم عق عنه نفسه بعد النبوة" وهذا حديث باطل ، قال البيهقي هو حديث منكر
สำหรับหะดิษที่เขา(อัชชิรอซีย์)ได้ระบุ ในเรื่อง การทำอะกีเกาะฮของท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แทนตัวของท่านเองนั้น รายงานโดยอัลบัยฮะกีย์ ด้วยสายรายงานของมัน จากอับดุลลอฮ บิน มะหัรเราะริน อ่านด้วยอักษรหา อัลมุฮมะละฮ (ที่ถูกละไว้)และอักษรรออฺที่ถูกอ่านซ้ำ จากเกาะตาดะฮ จากอะนัสว่า "แท้จริง นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทำอะกีเกาะฮ แทนตัวของท่านเองหลังจากที่ได้รับตำแหน่งนบีแล้ว" - นี้คือหะดิษไม่ถูกต้อง(หะดิษเท็จ) ,อัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า " มันคือหะดิษมุงกัร(หะดิษที่ถูกปฏิเสธ) - อัลมัจญมัวะ เล่ม 8 หน้า 412 , ท่านหาฟิซอิบนุหะญัร ระบุว่า "เป็นหะดิษเฎาะอีฟ - ดู ฟัตหุ้ลบารีย์ เล่ม 9 หน้า 513 และ อัตตัลคิศ เล่ม 4 หน้า 174
_________________
ส่วนการกิยาสกับหะดิษถือศีลอดวันอะชูรอนั้น มันคนละเรื่องกันเลย เพราะหะดิษส่งเสริมให้ถือศีลอด แต่การทำเมาลิด ส่งเสริมให้มาชุมนุมกินกัน
.............
والله أعلم بالصواب _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Sat Apr 25, 2009 1:08 am, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Apr 25, 2009 8:38 am ชื่อกระทู้: |
|
|
Mr.shot บันทึก: | เด็ก"ญินเข้า"เปิดประเด็นเขาทาง"พี่ไชย" จริงๆ |
.........
ผมได้ปล่อยให้น้องบ่าวช้อตป่วนมานาน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากมายุ่ง เพราะดูตามพฤติกรรมของน้องบ่าวคนนี้ น่าจะไม่ใช่ผู้แสวงหาสัจธรรม แต่สิ่งที่น้องบ่าวกล่าวหาผมว่าเป็นชัยฎอน เพราะผมได้นำเสนอวิชาการข้างต้น มันค่อนข้างจะเกินไป เพราะถ้าผมอ้างในสิ่งที่ถูกต้องแล้วคุณกล่าวหาว่าเป็นชัยฏอน คุณก็จะต้องเตาบะฮต่ออัลลอฮ และกล่าวปฏิญานตนใหม่ อาจจะไม่มีใครรู้ว่าคุณคือใคร แต่ให้ตระหนักว่า อัลลอฮรู้ว่า คุณคือใคร ผมเอื่อมระอาที่จะเข้ามาโพสต์ ผมจะดูสักระยะหนึ่ง หากมีคนแบบคุณมากๆ ผมอาจจะทิ้งเว็บนี้ไปเลย แต่ด้วยวิญญานของคนทำงานทางนี้ เมื่อมีปัญหาที่พี่น้องถามผมก็ต้องตอบตามอามานะฮ สิ่งที่คุณกล่าวหาผม ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม อัลลอฮก็จะตัดสินแน่นอนในวันกิยามะฮ อินชาอัลลอฮ.............. _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Sun Apr 26, 2009 3:15 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
คำพูด: | ผมได้ปล่อยให้น้องบ่าวช้อตป่วนมานาน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากมายุ่ง เพราะดูตามพฤติกรรมของน้องบ่าวคนนี้ น่าจะไม่ใช่ผู้แสวงหาสัจธรรม แต่สิ่งที่น้องบ่าวกล่าวหาผมว่าเป็นชัยฎอน เพราะผมได้นำเสนอวิชาการข้างต้น มันค่อนข้างจะเกินไป เพราะถ้าผมอ้างในสิ่งที่ถูกต้องแล้วคุณกล่าวหาว่าเป็นชัยฏอน คุณก็จะต้องเตาบะฮต่ออัลลอฮ และกล่าวปฏิญานตนใหม่ อาจจะไม่มีใครรู้ว่าคุณคือใคร แต่ให้ตระหนักว่า อัลลอฮรู้ว่า คุณคือใคร ผมเอื่อมระอาที่จะเข้ามาโพสต์ ผมจะดูสักระยะหนึ่ง หากมีคนแบบคุณมากๆ ผมอาจจะทิ้งเว็บนี้ไปเลย แต่ด้วยวิญญานของคนทำงานทางนี้ เมื่อมีปัญหาที่พี่น้องถามผมก็ต้องตอบตามอามานะฮ สิ่งที่คุณกล่าวหาผม ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม อัลลอฮก็จะตัดสินแน่นอนในวันกิยามะฮ อินชาอัลลอฮ.............. |
ขอเป็นกำลังใจให้อ.อะสันขอให้อดทนไว้นะครับ เผยแพร่สัจธรรมต่อไปเถอะครับยังมีคนเอาวามอีกหลายๆคนที่ยังต้องการความรู้และการชี้แนะจากท่าน.....อย่าไปสนใจสัมพเวสีแถวนี้เลยครับ.....ผมเองก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อยทีแรกไอ้เราก็คุยดีกับเขาด้วยอยู่หรอกเพราะคิดว่าเขาตลกดูน่ารักดีไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไรและผมเองก็ยังเคยขอดุอาให้เขาได้รับทางนำที่ถูกต้องจากอัลลอฮ์ด้วยแต่พอมาช่วงหลังๆนี่พฤติกรรมแย่ลงจริงๆจนผมไม่อยากตอแยด้วยแล้ว |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Mon Apr 27, 2009 9:43 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อาจารย์อะซันครับ อย่าน้อยใจครับ งานของอัลลอฮนั้นย่อมต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดา
เวปนี้จะไร้ความหมายถ้าไม่มีผู้รู้ที่มีใจเป็นธรรม
คนอย่าง น้องบ่าวช๊อตนั้นไม่มีอะไร ทางการแพทย์ถือว่าเป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง คนพวกนี้
จะเศร้าสร้อย ถ้าเห็นเราไม่โกรธ ยิ่งไม่ตอบกระทู้เขาด้วย คนพวกนี้จะอยู่ไม่ได้
ดีซะอีก ที่มีคนแบบนี้ในเวป เพราะทำให้อาจารย์และผู้ไฝ่หาความรู้ดูสูงค่า ขึ้นมาในบัดดล
เมื่อก่อนอยากให้เวปมาสเตอร์ลบ แต่ตอนนี้ไม่และ เพราะถ้าโดนคนพวกนี้ว่า ผมจะไปอ่าน
กุรอ่านเพิ่ม เพื่อยกระดับให้สูงขึ้น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Mon Apr 27, 2009 10:21 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
dabdulla บันทึก: |
อาจารย์อะซันครับ อย่าน้อยใจครับ งานของอัลลอฮนั้นย่อมต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดา
เวปนี้จะไร้ความหมายถ้าไม่มีผู้รู้ที่มีใจเป็นธรรม
คนอย่าง น้องบ่าวช๊อตนั้นไม่มีอะไร ทางการแพทย์ถือว่าเป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง คนพวกนี้
จะเศร้าสร้อย ถ้าเห็นเราไม่โกรธ ยิ่งไม่ตอบกระทู้เขาด้วย คนพวกนี้จะอยู่ไม่ได้
ดีซะอีก ที่มีคนแบบนี้ในเวป เพราะทำให้อาจารย์และผู้ไฝ่หาความรู้ดูสูงค่า ขึ้นมาในบัดดล
เมื่อก่อนอยากให้เวปมาสเตอร์ลบ แต่ตอนนี้ไม่และ เพราะถ้าโดนคนพวกนี้ว่า ผมจะไปอ่าน
กุรอ่านเพิ่ม เพื่อยกระดับให้สูงขึ้น |
............
ญะซากัลลอฮุคอ็ยร็อน น้องบ่าว sunnahkung และน้องบ่าว dabdulla มากที่ให้กำลังใจ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|