ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
pl มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2008 ตอบ: 1
|
ตอบ: Sun Dec 28, 2008 5:13 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
น้อยแน่!!!....ชัด..ชั๊ด..ช้า..ยกหลักฐานมั่วๆมาอ้างเอาไปหลอกเด็กไป๊!!นีกว่าไม่มีใครรู้เห็นหรือยังไง?อย่างน้อยๆก็ควรจะอายอัลลอฮ์(ซ.บ)บ้างนะกอเซ็มแถวบ้านผมเค้าเรียกว่าไร้ยางอาย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ILHAM มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2008 ตอบ: 8 ที่อยู่: 221B BakerStreet London, England.
|
ตอบ: Sun Dec 28, 2008 5:29 pm ชื่อกระทู้: Re: ..... |
|
|
sanna บันทึก: | อารีฟีน แสงวิมารจ๋า!! นี่แค่1/100น่ะที่อ.ปราโมทย์แฉแล้วเรื่องอื่นที่กอเซ็มหมกเม็ดไว้ล่ะพี่น้องก็ระวังไว้แล้วกันอย่าให้โดนหลอกอีกล่ะ!ขายชาติเอ้ย!!ขายศาสนาจริงๆ |
ไหนอีก99ล่ะ อยากดู _________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Mon Dec 29, 2008 12:19 am ชื่อกระทู้: |
|
|
มีคนขอให้ผมก็อปปี้ บรรยายของอาจารย์กอเซ็ม 20 ชุดตอนนั้น เพราะเขาจะเอาไปแจก
ที่มาบอกผม เพราะรู้ว่าผมเป็นซุนนะห์ ผมก็เลย write ให้ไป 20 แผ่น พร้อมกับที่
ฟาริด คุยกับ อาจารย์กอเซ็ม เรื่องหลักฐานเก๋
ผม write ไปให้ และเปิดฟังกันสดๆ
ในช่วงบรรยายอาจารย์กอเซ็ม ในเรื่องหลักฐาน ทุกคนฮือฮามากๆ
แต่พอเปิดเรื่องที่คุยกับอาจารย์ฟาริด เรื่องมารดาของท่านนบี
ก็ค่อยๆ ลุกไปกินกาแฟ เข้าห้องน้ำที่ละคน สองคน จากนั้นก็ไปจับกลุ่มกันข้างนอก
เสียดาย อาจารย์ปราโมชย์เพิ่งทำเรื่องนี้ ไม่งั้น ผมได้ปริ้นท์ แถมไปให้อีกด้วย 20 ชุด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
k มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 29/12/2008 ตอบ: 1
|
ตอบ: Mon Dec 29, 2008 8:50 am ชื่อกระทู้: .. |
|
|
ตอนนี้บิดอะฮ์studentกำลังเต้นพล่านทนไม่ได้ที่หัวเน่า(หัวหน้า)!!ตัวเองโดนอ.ปราโมทย์แฉจนเละข้อหาต้มชาวบ้านซะเปื่อย!!ต้องรีบออกมาเป็นแนวหน้ากลบเกลื่อนความผิดให้กอเซ็ม ฝากไปบอกอารีฟีน(อัลฟารุก)ด้วยว่าคราวก่อนที่อ.ปราโมทย์สอนเรื่องกุนุตไปไม่ทราบเข้าใจทราบซึ้งแตกฉานหรือยัง?คิดจะช่วยกอเซ็มเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
apache มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 29/12/2008 ตอบ: 1
|
ตอบ: Mon Dec 29, 2008 9:31 am ชื่อกระทู้: .... |
|
|
อารีฟีน แสงวิมารและลูกคอกของเขาบอกว่าอ.ปราโมทย์พูดเรื่องเก่าๆ.......ก้อเรื่องเก่าๆนะซิ!!!!!แต่กอเซ็มเอามาหลอกใหม่!!!!!! |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Tue Dec 30, 2008 7:24 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
อัลฮัมดุลิ้ลลาอฮ์
เท่าที่อ่านบทวิภาษและได้ฟังคำบรรยายจริงๆของกอเซ็มผู้ที่พอจะมีความรู้ศาสนาอยู่บ้างก็จะเห็นได้ชัดว่ากอเซ็มนั้นไม่มีความรู้ในหลักวิชาการเลยแม้แต่น้อยแต่เขาพยายามยกตนอวดอ้างว่าตนเองทรงความรู้และไอ้ความไม่รู้ของเขาก็ได้ทำให้ชาวบ้านหลงผิดตามทัศนะผิดๆของเขา(ขอยืมคำของอ.ปราโมทย์มาใช้หน่อย)ดังที่เราได้เห็นกันมาแล้วนะอูซูบิลละฮ์ขอให้เราห่างไกลจากฟิตนะฮ์เหล่านี้ด้วยที่ผมเรียกกอเซ็มว่ากอเซ็มไม่เรียกอาจารย์ก็เพราะผมเห็นว่าคำนี้ไม่ควรนำมาใช้กับเขาผมรับไม่ได้กับพฤติกรรมกุหะดีษเก๊อ้างหลักฐานฎออีฟญิดดันแล้วหลอกลวงชาวบ้านว่าศอเหี๊ยะเป็นการกระทำของท่านนบี(เท่ากับว่ากอเซ็มใส่ร้ายท่านนบี)นบียังโดนมาแล้ว....ท่านอิบนุตัยมียะฮ์จะเหลือหรือ?ก็กอเซ็มยัดเยียดความเท็จให้ท่านอย่างไม่กระดากปาก....ช่างไม่เกรงกลัวบาปเสียจริงๆนี่กระไร!!!??.........ยังจะฝากคำพูดของท่านนบีเตือนสติกอเซ็มสักหน่อย(ก็ไม่ทราบว่านอกจากหะดีษเก๊และฎออีฟแล้วคำพูดนบีที่ศอเหี๊ยะอย่างนี้กอเซ็มจะสนหรือเปล่า?)ท่านนบีกล่าว(ความว่า)"ผู้ใดชี้แนะบุคคลอื่นไปสู่ความหลงผิดเขาก็ต้องรับบาป!!เสมือนบาปของบรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามการชี้แนะผิดๆของเขาโดยมันจะไม่ลดหย่อนไปกว่าบาปของเขาเหล่านั้นแต่ประการใด"(มุสลิมหะดีษที่16/2674).....อย่างกอเซ็มบทเดียวเอาไม่อยู่หรอกต้องเบิ้ลอีกบท.......ท่านนบีกล่าว(มีความว่า)"ผู้ใดรับคำชี้แนะในปัญหาใดๆโดยปราศจากหลักฐานที่แน่นอนมันมิใช่อื่นใดนอกจากบาปของเขา!จะตกอยู่กับผู้ให้คำชี้แนะแก่เขา"(อบูดาวูดเลขที่3657,ด้วยสายรายงานหะซัน)เจอของเข้าอย่าอ.ปราโมทย์เป็นไงล่ะ
ถ้ากอเซ็มจะออกมายอมรับผิดพวกเรา(และคิดว่าท่านอิบนุตัยมียะฮ์ที่โดยเขาฟิตนะฮ์)ก็ยินดีให้อภัย.......แต่ถ้ายังยืนกรานพวกเราขอมอบหมายให้อัลลอฮ์ซ.บ.เป็นผู้จัดการ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Mr.shot บุคคลทั่วไป
|
ตอบ: Wed Dec 31, 2008 12:39 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อาการของน้องsangkungเข้าขั้นตรีทูต ท่าจะส่งศรีธัญญาไม่ทันการแล้ว |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Wed Dec 31, 2008 3:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ไอ้คำว่าตรีฑูตเนี่ยะ แปลว่าอะไร |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 01, 2009 12:29 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมขอยกตัวอย่างคำสอนของอิหม่ามชาฟิอี (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) ให้น้องบ่าวช้อตพิจารณา
อิหม่ามชาฟิอีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
وأحب لجيران الميت أو ذي القرابة أن يعملوا لأهل الميت في يوم يموت وليلته طعاما يشبعهم فإن ذلك سنة وذكر كريم وهو من فعل أهل الخير قبلنا وبعدنا
และข้าพเจ้าชอบให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง หรือ ญาติใกล้ชิด ทำอาหารให้แก่ครอบครัวผู้ตาย ในวันที่เขาตายและในคืนนั้น ให้พวกเขากินให้อิ่ม แท้จริงดังกล่าวนั้น เป็นสุนนะฮ เป็นการระลึก ของคนใจบุญ และมันเป็นการกระทำของคนที่ดี สมัยก่อนพวกเราและหลังจากพวกเรา.
- หนังสือ อัลอุม เล่ม 1 หน้า 347
..........
เวลามีการตาย อิหม่ามชาฟิอี สอนให้เรานำอาหารไปอนุเคราะห์ครอบครัวผู้ตาย แต่ทุกวันนี้ คนที่อ้างตามมัซฮับชาฟิอี กลับ ส่งเสริมให้ครอบครัวผู้ตายทำบุญคนตายโดยเลี้ยงอาหารให้แก่พวกเขา แล้วถ้ามีใครมาอ้างคำพูดของอิหม่ามชาฟิอี เขาก็ถูกกล่าวหาว่า "พวกวะฮบีย์ ไม่ทำบุญคนตาย
وفد جرير بن عـبدالله البجـلي رضي الله عنه على عمر بن الخطاب رضي الله عنه فقال له ( هل يُــناحُ على ميتكم ؟ قال : لا ، قال فهل تجتمعـون عـند أهل الميت وتجعلون الطعام ؟ قال : نعم ، قال : ذلك النوح
ญะรีร บุตร อับดุลลอฮ อัลบะญะลีย์(ร.ฎ) ได้มายังท่านอุมัร บุตร อัลคอ็ฏฏอ็บ (ร.ฎ) แล้วเขา(อุมัร)กล่าวแก่เขา(ญะรีร)ว่า มีการนิยาหะฮ(การร้องให้คร่ำครวญ)แก่มัยยิตของพวกท่านใช่ไหม? เขากล่าวว่า "ไม่" เขา(อุมัร)กล่าวว่า พวกท่านรวมตัวกันที่ครอบครัวผู้ตายและทำอาหารกินกันใช่ไหม? เขา(ญะรีร)กล่าวว่า "ครับ" เขา(อุมัร)กล่าวว่า "ดังกล่าวนั้นคือ นิยาหะฮ
..............
นิยาหะฮ เป็นส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ต้องห้าม(หะรอม) นี่คือตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า หลายๆเรื่องที่พี่น้องเราปฏิบัติกัน คือ ประเพณีอยู่เหนือหลักคำสอน แต่ถ้าใครมาเตือน ก็จะถูกกล่าวหาว่า"วะฮบีย์" _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Sat Jul 11, 2015 11:09 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 01, 2009 12:48 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อีกเรื่องหนึ่ง ทีคนอ้างว่าตามมัซฮับชาฟิอีย์ แต่ ไม่ตามทัศนะของอิหม่ามชาฟิอี คือ
อิหม่ามนะวาวีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
وأما قراءة القرآن فالمشهور من مذهب الشافعي أنه لا يصل ثوابها إلى الميت وقال بعض أصحابه يصل ثوابها إلى الميت وذهب جماعات من العلماء إلى أنه ، يصل إلى الميت ثواب جميع العبادات من الصلاة والصوم والقراءة وغير ذلك، وكل هذه المذاهب ضعيفة ودليلهم القياس على الدعاء والصدقة والحج فإنها تصل بالإجماع ودليل الشافعي وموافقيه قول الله تعالى : ﴿ وَأَن لَّيْسَ لِلْإِنسَانِ إِلَّا مَا سَعَى﴾ [ النجم:39] وقول النبي - صلى الله عليه وسلم - إذا مات بن آدم انقطع علمه إلا من ثلاث صدقة جارية أو علم ينتفع له أو ولد صالح يدعو له والله أعلم
สำหรับการอ่านอัลกุรอ่าน(อุทิศผลบุญ)นั้น ที่แพร่หลายจากมัซฮับชาฟิอีย์ นั้น ผลบุญของมันไม่ถึงผู้ตาย และ สหายบางคนของท่าน กล่าวว่า ผลบุญของมันถึงผู้ตาย และ มีนักวิชาการหลายคณะ มีทัศนะว่า ผลบุญ บรรดาอิบาดะฮทั้งหมด นั้น ถึง ผู้ตาย เช่น การละหมาด,การถือศีลอด ,การอ่านอัลกุรอ่านและอื่นจากนั้น และทุกๆทัศนะที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นทัศนะที่เฎาะอีฟ(หลักฐานอ่อน) ทั้งสิ้น โดยที่หลักฐานของพวกเขาคือ การกิยาส(การเทียบ)กับ การอ่านดุอา,การบริจาคทานและการทำหัจญ์ เพราะแท้จริง มติของนักวิชาการว่าผลบุญของมัน ถึงผู้ตาย และหลักฐานของอิหม่ามชาฟิอีย์ และบรรดาผู้ที่มีทัศนะตรงกับท่าน คือ คำตรัสของอัลลอฮ ที่ว่า "แท้จริงมนุษย์จะไม่ได้รับผลตอบแทน นอกจากสิ่งที่เขาได้พากเพียรไว้เท่านั้น" - อัลนัจญมิ/39 และคำพูดของท่านนบี ที่ว่า "เมื่อลูกหลานอาดัมสิ้นชีวิตลง การงานของเขาก็ยุติ เว้นแต่จาก 3 ประการคือ
1. ทานถาวรวัตถุ(การบริจาคทานวัตถุถาวรให้เป็นสาธารณะประโยชน์)
2. ความรู้ที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้วยมัน
3. ลูกที่ดีขอดุอาให้แก่เขา
วัลลอฮุอะอฺลัม - ดู ชัรหุมุสลิม 1/90
...........
แปลกใจอยู่เหมือนกันว่า ทำไมคนที่ชอบอ้างว่าตามมัซฮับอิหม่ามชาฟิอีย์ แต่กลับ อ่านอัลกุรอ่านอุทิศผลบุญแก่คนตายซึ่งสวนทางกับทัศนะของอิหม่ามชาฟิอีย์ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Thu Jan 01, 2009 1:04 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อัลลอฮ ตะอาลาตรัสว่า
وأن ليس للإنسان إلا ما سعى
และแท้จริง มนุษย์จะไม่ได้รับการตอบแทน นอกจากสิ่งที่เขาได้พากเพียรไว้" )
............
ท่านอิหม่ามอิบนุกะษีร(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)ได้อธิบายว่า
ومن هذه الأية الكريمة استنبط الشافعي رحمه الله ومن اتبعه أن القراءة لا يصل إهداء ثوابها إلى الموتى لأنه ليس من عملهم ولا كسبهم ولهذا لم يندب إليه رسول الله صلى الله عليه وسلم أمته ولا حثهم عليه ولا أرشدهم إليه بنص ولا ايماء ولم ينقل ذلك عن أحد الصحابة رضي الله عنهم ولو كان خيراً لسبقونا إليه وباب القربات يقتصر فيه على النصوص ولا يتصرف فيه بانواع الأقسية والآراء فأما الدعاء والصدقة فذاك مجمع على وصولهما ومنصوص من الشارع عليهما.
จากอายะฮอันทรงเกียรตินี้ อิหม่ามชาฟิอี(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) และบรรดาผู้ที่เจริญรอยตามท่าน ได้วิเคราะห์ออกมาว่า การอ่านอัลกุรอ่าน อุทิศผลบุญของมันนั้น ไม่ถึงผู้ตาย เพราะไม่ใช่การกระทำและการพากเพียรของเขา และเพราะเหตุนี้ ท่านรซูลุ้ลลอฮ ไม่ได้ส่งเสริม อุมมะฮของท่าน ,อีกทั้งไม่ได้กำชับและแนะนำพวกเขา ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะด้วยทางตรงหรือทางอ้อม และไม่มีการรายงานดังกล่าวมาจากคนใดจากบรรดาเศาะหาบะฮ (ร.ฎ) และถ้าหากว่า มันเป็นสิ่งที่ดี แน่นอนพวกเขาจะทำล่วงหน้ามาก่อนพวกเราแล้ว และเรื่องของการอิบาดะฮนั้น มันจะถูกจำกัดอยู่บนตัวบท(คือ อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ) และจะหันไปเอาประเภทของการกิยาส(เทียบ)และบรรดาความเห็นในมันไม่ได้ สำหรับดุอาและเศาะดะเกาะฮ ดังกล่าวนั้นได้มีมติว่าทั้งสองถึง(ผู้ตาย )และมีตัวบท(หลักฐาน)จากผูบัญญัติศาสนบัญญัติ บนมันทั้งสอง- ดู ตัฟสีร อิบนิกะษีร 4/276
................
บรรดาผู้ที่ตามมัซฮับอิหม่ามชาฟิอี น่าจะนำไปพิจารณานะครับ ว่า ท่านทำตามอิหม่ามของท่านจริงหรือไม่ และ จากข้อความข้างต้น เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เขาตามมัซฮับชาฟิอี หรือ ตามมัซฮับชาฟิอียะฮ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย asan เมื่อ Thu Jan 01, 2009 6:07 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Thu Jan 01, 2009 12:02 pm ชื่อกระทู้: ... |
|
|
ที่อ.อะสันพูดถูกเผงเลยครับ! ผมมีบทความอยู่เรื่องนึงที่เขียนโดยอ.ปราโมทย์ท่านเขียนเป็นหนัวสือตอบโต้โต๊ะครูบ.ด.อ.ยุคใหม่ที่พยายามสันหาไปเอาหะดีษฏอวูสและหะดีษอะฮ์นัฟบินก็อยส์ที่ไม่เคยมีนักวิชาการยุคไหนอ้างมันมาก่อนแต่มาเจอที่เว็บ.ด.อ.แถวนี้แหล๊ะ.ครับ.อินชาอัลลอฮถ้ามีโอกาสจะเอามาให้ดูกันอีกครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
sunnahkung มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2008 ตอบ: 116
|
ตอบ: Fri Jan 02, 2009 3:58 pm ชื่อกระทู้: . |
|
|
[size=18]مَنْ كَذَبَ عَلَىَّ مُتَعَمِّدًا فَالْيَتَبَوَّأْ مَقْعَدَهُ مِنَ النَّارِ[/size]ผู้ใดป้ายความเท็จให้ฉันโดยเจตนา ก็ให้เขาจงเตรียมที่พำนักในนรก |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
dabdulla มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005 ตอบ: 437
|
ตอบ: Fri Jan 02, 2009 4:23 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอลัยกุม คุณ ซุนนะห์ คุง
ยะซากัลลอฮ ฮุคอยร็อน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Fri Jan 02, 2009 10:35 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หะดิษที่โต๊ะครูบางคนนำมาอ้างเป็นหลักฐานทำบุญครบรอบ 7 วันของการตาย
คือหะดิษที่ว่า
عن سفيان قال ، قال طاووس : إن الموتى يفتنون فى قبورهم سبعاَ وكانوا يستحبون أن يطعم عنهم تلك الأيام
" จากท่านซุฟยาน เขากล่าวว่า ท่านฏอวูส กล่าวว่า "ท่านซุฟยานกล่าวว่า ท่านฏอวูสกล่าวว่า แท้จริงบรรดาผู้ตายนั้น พวกเขากำลังถูกสอบถามในกุบูรของพวกเขา ถึง 7 วัน และบรรดาซอฮาบะฮ์มีความชอบที่จะทำการเลี้ยง(ให้)อาหารแทนจากพวกเขา ในเจ็ดวันดังกล่าว" ดู หนังสือ อัลหาวีย์ ฟี อัลฟะตาวา เล่ม 2 หน้า 216 ดารุลฟิกร์ ตีพิมพ์ 2004 - 1424 ฮ.ศ
..........
หะดิษข้างต้นมีจุดบกพร่อง ดังต่อไปนี้
1. สุฟยานรายงานแบบตะลีก (قال طاووس) ซึ่งการรายงานแบบตะลีกเป็นการรายงานแบบขาดตอน เป็นการตัดสายรายงานระหว่างผู้รายงานกับผู้ถูกพาดพิงออก ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ต่อเนื่องของสายรายงานอย่างชัดเจน
2. ฏอวูสเป็นชาวเยเมน ในขณะที่สุฟยานเป็นชาวกูฟะฮฺ ในกรณีนี้เราไม่สามารถจะยืนยันถึงความเป็นไปได้ที่ทั้งสองจะพบเจอกัน นอกจากว่าจะมีการยืนยันว่าฏอวูสเคยเดินทางไปยังกูฟะฮฺในช่วงอายุของสุฟยานดังกล่าวเท่านั้น ส่วนความเป็นไปได้ที่สุฟยานจะเดินทางไปยังเยเมนในช่วงอายุก่อน 10 ขวบนั้น คงไม่ต้องพูดถึง เพราะทั้งอบูนุอิม และท่านอื่น ๆ ต่างระบุว่าสุฟยานเริ่มเดินทางออกจากเมืองกูฟะฮฺเมื่อปี 150 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ฏอวูสได้เสียชีวิตไปแล้วถึง 40 กว่าปี
3. ท่านอัซซะฮะบีย์ ได้กล่าวถึง ครูที่ถ่ายทอดหะดิษให้แก่ท่านซุฟยาน อัษเษารีย์ ในหนังสือ ซิยาร อะอฺลามินนุบะลาอ์ เล่ม 7 หน้า 175-177 ก็ไม่ปรากฏรายชื่อของ ฏอวูสอยู่เลย โปรดดูข้างล่างนี้
الأسود بن قيس , وأشعث بن أبي الشعثاء , وأيوب السختياني , وبَهْزُ بن حكيم , وثور بن يزيد , وجامع بن شداد , وحبيب بن أبي ثابت وهو من كبار شيوخه , وحُميد الطويل , وخالد الحذّاء , ورَبيعة الرأي , وزياد بن عِلاقة وهو من كبار مشيخته , وأبو حازم : سلمة بن دينار , وسلمة بن كُهيل وهو من كبارهم , وسليمان الأعمش , وسليمان التيمي , وعاصم الأحول , وعبد الله بن سعيد المقبري , وعبد الله بن عون ، وعطاء بن السائب , وعكرمة بن عمار , وعمرو بن دينار , ومحمد بن المنكدر وهو من كبارهم , وهشام ابن عُروة , ويحيى بن سعيد الأنصاري , وأبو إسحاق السَّبيعي . ويقال إن عدد شيوخه ست مائة شيخ
........
เพราะฉะนั้น ท่านซุฟยาน ไม่ได้รับฟังหะดิษจากฏอวูสอย่างแน่นอน และฏอวูสเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง แล้วท่านฎอวูสเป็นอาจารย์ลำดับที่เท่าไหร่ ไม่ปรากฏว่าได้ระบุไว้ แล้วมีหนังสือเล่มใหนบ้าง ที่ระบุว่า ฏอวูสได้ถ่ายทอดหะดิษแก่ท่านซูฟยาน ตัวต่อตัว ซึ่งปรากฏว่าไม่มี
4. อิมามอัสสะยูฏีย์ ก็ได้ยืนยันแล้วว่า
إلا أكثر روايته عنه بواسطة
"แต่ทว่าส่วนมากจากการรายงานของท่านซุฟยานจากท่านฏอวูสนั้นด้วยสื่อกลาง" ( ดู หนังสืออัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา เล่ม 2 หน้า 216 )
เมื่อท่านซุฟยานไม่ได้พบกับฏอวูส และเป็นไปได้ว่า ท่านซุฟยานได้ยินจากการบอกเล่าอีกที แต่ท่านไม่ระบุชื่อ แล้วไประบุชื่อฏอวูส เลย แบบนี้ก็เป็นรายงานลักษณะตัดลิส (คื่อ การอำพรางตัวบุคคล)
5. ยิ่งกว่านั้นแม้แต่บรรดานักรายงานหะดีษที่ดังๆแห่งเมืองกูฟะฮฺเองที่เสียชีวิตหลังฏอวูสหลายท่าน ได้รับการยืนยันว่าสุฟยานไม่ได้รับรายงานหะดีษจากพวกเขาด้วย ดังคำยืนยันของอัลบุคอรีย์ต่อไปนี้
وقال البخاري سمعت بن المديني يقول سئل سفيان هل رأيت ابن أشوع قال: لا، قيل: فمحارب قال وأنا غلام رأيته يقضي في المسجد
อัลบุคอรีย์กล่าวว่า ฉันได้ยินอิบนุอัลมะดีนีย์เล่าว่า มีคนถามสุฟยานว่า ท่านเคยเห็นอิบนุอัชวะอฺหรือไม่? ท่านตอบว่า ไม่ มีคนถามอีกว่า แล้วมุหาริบละ ? ท่านตอบว่า ตอนที่ฉันยังเด็กๆ ฉันเห็นเขากำลังพิพากษาคดีความในมัสยิด อัตตะฮซีบ เล่ม 4 หะดิษหมายเลข 199
6. สุฟยานเกิดปี 97 ขณะที่ฏอวูสเสียชีวิตปี 106 ตามทัศนะที่มีน้ำหนักและถูกต้องดังคำยืนยันของอัซซะฮะบีและอัลหาฟิซอิบนุหะญัร ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่สุฟยานจะพบเจอกับฏอวูสนั้นอยู่ในช่วงอายุเพียง 9 ปีเท่านั้น ซึ่งโดยปกติ เด็กอายุช่วงนี้ยังไม่มีการรับรายงานหะดีษ
7. สายรายงานของท่านซุฟยานนี้ ก็ไม่มีสายรายงานมาสนับสนุนในการยืนยันว่า ถ้อยคำที่ชี้ถึงการได้ยินหะดิษนี้ของท่านซุฟยานจากท่านฏอวูส ซึ่งคำอ้างของอิมามสุยูฏีเป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น และการคาดคะเนของท่านไม่น่าจะถูกต้อง
8. ไม่ปรากฏว่าอิหม่ามมุจญตะฮิด ทั้งสี่ ท่านใด เอาหะดิษนี้มาเป็นหลักฐาน ทำบุญ 3 วัน 7 วันให้แก่ผู้ตายที่อยู่ในหลุมศพ
..........
อินชาอัลลอฮ มีต่อ _________________ จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|