เปลี่ยนปี เปลี่ยนวัย ไฉนเลยไม่คิดที่จะเปลี่ยนตัวเอง
วัน อังคาร 10 ก.พ. 09 @ 22:39
หัวข้อ: บทความและแง่คิด


                      เปลี่ยนปี เปลี่ยนวัย ไฉนเลยไม่คิดที่จะเปลี่ยนตัวเอง
                   -----------------------------------------------------
                                                                            โดย shabab kolbunsalim


بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
السلام عليكم ورحمة الله وبركا ته 

                 ผู้ที่ใช้ปัญญาคิดไตร่ตรองและพิจารณาทั้งหลายครับ

         ผ่านแล้ว ผ่านเล่า ผ่านไปและที่จะผ่านมา..สำหรับมัยยิตที่เห็น สำหรับมัยยิตที่รับรู้...และสำหรับมัยยิตที่สัมผัส...แม้จะเป็นญาติของท่าน แม้จะเป็นลูกหลานของท่านหรือแม้กระทั่งคู่ครองของท่าน....หรือพี่น้องปาเลสไตน์ที่เราได้เห็นกัน.....คงไม่พ้นใช่ไหมครับซึ่งการกลับไปยังพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)...โดยพวกเขานั้นมิได้รู้เลยว่า..อาญัลของเขานั้นมาตอนไหน เป็นแบบใด แล้วจะตายไปในลักษณะที่เป็นมุสลิมผู้ศรัทธาหรือจะเป็นมุสลิมที่ฝ่าฝืน.....มันอาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับมุสลิมที่ฝ่าฝืน..แต่อาจเป็นเรื่องที่ครุ่นคิดนักสำหรับมุสลิมผู้ศรัทธา..ที่เขาจะคิดและทบทวนตัวเองอยู่เสมอครับ
 
                        พี่น้องเอ๋ย.....
          เราเปลี่ยนกันหรือยังครับ...แก้ไขกันหรือยังครับ...ศัลยกรรมกันหรือยังครับ สำหรับอีหม่านของเรา ....จิตใจของเราหรืออามาลของเราและความยำเกรงของเราเพื่อให้พร้อมกับการกลับไปอย่างมิรู้ซึ่งเวลากำหนดของมันครับ.
        ..นี่เราก็เปลี่ยนปีมาแล้ว...นี่เราก็เปลี่ยนวัยมาแล้ว...ไฉนเลยครับ...เราไม่คิดที่จะเปลี่ยนตัวเองกันเลย.....หรือวันนี้เราคิดที่จะเปลี่ยนแค่ร่างกายของเรา  เปลี่ยนแค่สัดส่วนของเรา แต่เรามิเคยคิดที่จะเปลี่ยนซึ่งจิตใจครับ........จะรอสักกี่ปี จะรอสักกี่หนครับ ..ถึงเราจะเปลี่ยนกัน..
 
         เสียดายไหม เสียไปไหม หากกับปีใหม่ที่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในขณะนี้นั้น เราเปลี่ยนจากผ้าคลุมสีนั้นเป็นสีนี้ เปลี่ยนโทรศัพท์ยี่ห้อนั้นเป็นยี่ห้อนี้ เปลี่ยนตลับแป้งแบบนั้นเป็นแบบนี้ หรือเราเปลี่ยนกิ๊กคนนั้นเป็นคนนี้....แล้วจะมีเวลาไหนอีกหรือครับท่านพี่น้อง...ที่เราจะคิดเปลี่ยนซึ่งจิตใจ...ให้เป็นสีขาวอันบริสุทธิ์ปราศจากซึ่งสีดำและสีเทาภายในจิตใจของเรา ให้มันสอดคล้องกับลิ้นที่เปล่งเสียงออกมาว่า..ฉันเป็นมุสลิมผู้ศรัทธาต่อวันปรโลก มิใช่เป็นเพียงมุสลิมแค่ลมปาก..จริงไหมครับ..

         หากเราไม่อยากเป็นมุสลิมแค่ลมปาก เราก็มาเปลี่ยนกันซิ เรามาศัลยกรรมจิตใจกันซิ ศัลยกรรมอีหม่านกันซิ หรือมาศัลยกรรมซึ่งความยำเกรงและศัลยกรรมความเป็นอยู่กันซิครับ  มันไม่ยากเลยนักรู้ไหม มันไม่ลำบากเลยใช่ไหม...หากเราคิดที่จะเปลี่ยน...กันนะครับ
 
          อย่าซิพี่น้อง..หากเราเน้นและคิดที่จะตกแต่งร่างกายของเราอีก ประทินโฉมร่างกายของเราอีก...หรือเราจะเสริมนี่ แต่งนั่น ทำนี่ ซื้อนั่น ซื้อนี่ เพื่อต้องการให้เราสวย เราหล่อ เราหุ่นดี เราหุ่นสวย เพื่อให้ใครๆเขาพอใจหรือเพื่อต้องการให้ร่างกายเป็นที่ดึงดูดเพศตรงข้าม.... แต่เราไม่เคยคิดที่จะตกแต่งซึ่งจิตวิญาณของเรา ไม่เคยตกแต่งอีหม่านของเราเพื่อให้มีความยำเกรงต่ออัลลอฮ(ซ.บ)เลย ใช่ไหมครับ เราไม่เคยมาทบทวนอามาลของเราเลยหรือครับ ?...พี่น้อง ....ทั้งๆที่ร่างกายของเรานั้นจะรูปร่างหน้าตาอย่างไร จะดำ จะขาว จะหล่อ จะสวย จะอ้วน จะเตี้ย จะหุ่นดีขนาดไหน ร่างกายเหล่านี้ก็จะถูกฝังลงไปในกุโบรเป็นอาหารของหนอนและไส้เดือนวันยังค่ำใช่ไหมครับ แต่อามาลของเราต่างหากหล่ะที่จะถูกประกาศยืนขึ้นกับเรา ณ วันกียามัต ต่อหน้าอัลลอฮ(ซ.บ) ....ฉะนั้นจงพิจารณาซิพี่น้อง..หากเราเกรงกลัวการลงโทษของพระองค์ครับ


ดั่งที่ท่านอบูฮูรอยเราะห์ (ร.ด) เล่าว่า ท่านรอซูล(ซ.ล)กล่าวว่า
"แท้จริง อัลลอฮ(ซ.บ)ไม่ทรงพิจารณาที่รูปร่างหน้าตาของพวกท่าน แต่อัลลอฮ(ซ.บ)ทรงพิจารณาที่  หัวใจของพวกท่าน" (บันทึกโดยมุสลิม)

         แล้วอย่างนี้เรายังจะแต่ง เรายังจะเสริม เรายังจะซื้อ เรายังจะหาสิ่งที่เป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกายของเรามากกว่าจะซื้อ จะหา จะค้นคว้า ตำรับตำราศาสนา ซีดีศาสนาอีกหรือครับ...ผู้ที่ใช้ปัญญาตรึกตรองเอ๋ย ยังไม่ถึงเวลาอีกใช่ไหม ยังไม่พออีกใหม หรือจะรอให้อาญัลมา หรือจะรอให้วันนั้นมาถึงก่อน เราถึงจะเปลี่ยน เราถึงจะสำนึกครับ  พอเถอะครับ พอเถอะ ที่จะเน้นศัลยกรรมร่างกายมากกว่าจะเน้นศัลยกรรมจิตใจอ่ะ

 เรามาเปลี่ยนเถอะนะวันนี้ ยังมีเวลานะ ยังมีเวลา  คงเสียโอกาสนะ หากอาญัลมาถึงที่ลูกกระเดือกของเรา เรามีแค่ละหมาด เรามีแค่บวชสุนนะห์ เรามีแค่อ่านกุรอาน แต่เราไม่มีเลยซึ่งความยำเกรงและการละทิ้งบาปเล็ก บาปน้อยหรือบาปใหญ่ที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน จนความหวังที่เราจะได้รับการตอบรับอามาลจากพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)อย่างสมบูรณ์นั้นหมดสิ้นไป อันเนื่อง จากความที่เราไม่รู้ เราไม่ศึกษา ไม่แสวงหา ไม่เตรียมตัว ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองและดื้อดึงต่อการฝ่าฝืนนั้นอยู่ครับ

ดังนั้นแล้ว
         จะเป็นการสมควรละอีกหรือ?ครับพี่น้อง ที่จิตใจของเราจะยอมสยบต่อซัยฎอนด้วยการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อพระผู้ทรงสร้างและชำระซึ่งการกระทำของเราในทุกอันธุลีของการกระทำนั้นอย่างแน่นอนในวันปรโลกนั้นครับ.......
หรือวันนี้.... เรายังคิดที่จะศัลยกรรมร่างกายของเราแต่เรามิเคยคิดที่จะศัลยกรรมซึ่งจิตใจของเราเลย..ผู้ศรัทธาแห่งวันปรโลกแล้วทั้งหลายครับ

แต่พี่น้องครับ...หากในวันนี้!นั้น....เงินที่ได้มา จากความเหนื่อยของพ่อแม่ ใช้หมดไป กับการซื้อซีดีเพลง.... มากกว่าซีดีบรรยายศาสนา
 เงินที่ได้มา จากความเหนื่อยของพ่อแม่  ใช้หมดไป กับการซื้อนิตยสารดารานักร้อง.... มากกว่าหนังสือศาสนาทั่วไป
   เงินที่ได้มา จากความเหนื่อยของพ่อแม่ ใช้หมดไป กับเครื่องสำอางเพื่อศัลกรรมแต่งร่างกายเพื่อให้ชายอื่นได้เชยชม.....มากกว่าให้สามีได้เชยชม.... หรือเงินที่ได้มา จากความเหนื่อยของพ่อแม่ ใช้หมดไป กับการเติมเงินในโทรศัพท์ เพื่อคุยกับสาวหรือชายอื่นทั้งวันทั้งคืน....มากกว่าคุยกับพ่อกับแม่หรือญาติสนิทเพื่อบอกกล่าวเรื่องศาสนา และเวลาที่ท่านมี ....ได้หมดไปกับการดูละครน้ำเน่าและฟังเพลง...มากกว่าจะฟังเรื่องราวศาสนาและฟังอัลกุรอาน แล้วล่ะก็เมื่ออาญัลมาถึง เมื่อวันแห่งการสอบสวนนั้นมาถึง
 อะไรหล่ะครับพี่น้องที่จะเป็นสิ่งค้ำประกันถึง..นรกและสวรรค์ครับ
 
จงไตร่ตรองและพิจารณาตรวจสอบตัวเอง และจงเปลี่ยนแปลงกันเถิดนะ
มันไม่คุ้มเลย หากการฝ่าฝืนอันชั่วครั้งชั่วคราวจะนำไปสู่การลงโทษของพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)อย่างเจ็บแสบครับ
 เพราะอัลลอฮ(ซ.บ)ทรงตรัสไว้ในซูเราะห์ Al-Anfaal อายะฮที่ 53 ว่า "........ อัลลอฮ์มิได้ทรงเป็นผู้เปลี่ยนแปลงความกรุณาใดๆที่พระองค์ทรงประทานมันแก่กลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใด จนกว่าพวกเขาจะได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ในตัวของพวกเขาเอง และแท้จริงนั้นอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงได้ยินผู้ทรงรอบรู้

โอ้..อัลลอฮ
อัลลอฮเท่านั้นที่ฉันเคารพภักดี อัลลอฮเท่านั้นที่ฉันขอความช่วยเหลือ
 
ขอพระองค์ทรงทำให้ฉันและท่านทั้งหลายได้อยู่บนหนทางอันเที่ยงตรงด้วยเถิด
อามีน

والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته






บทความนี้มาจาก Moradokislam.org
http://www.moradokislam.org

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.moradokislam.org/modules.php?name=News&file=article&sid=388