ในสังคมปัจจุบัน ผู้คนแต่ละคนพยายามที่จะเสาะแสวงหาให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุด มีคุณค่าที่สุด แต่อันใดเล่าที่จะเป็นบรรทัดฐานในการที่จะวัดว่าสิ่งนี้ดีหรือสิ่งนั้นมีคุณค่า
แน่นอนในหมู่มนุษย์พี้นฐานความต้องการของแต่ละบุคคลนั้นย่อมแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นแล้วบรรทัดฐานในการหาสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับตัวเองจึงแตกต่างกันแต่พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย หวังเหลือเกินว่าความสับสนเหล่านี้นั้นจะไม่เกิดกับพวกเราเด็ดขาด (อินชาอัลลอฮฺ)
เพราะบรรทัดฐานที่จะวัดว่าสิ่งใดมีคุณค่าหรือสิ่งใดปราศจากคุณค่านั้น ทั้งหมดอัลลอฮฺได้ทรงบอกแก่พวกเรา
หมดแล้วสิ้น ฉะนั้นมุสลิมจะต้องมีความภาคภูมิใจในศาสนาที่ตัวเองมี เพราะนี่ไม่ใช่ศาสนาที่มาจากผู้ใด
แต่ทว่าศาสนานี้นั้นมาจากพระผู้ทรงรอบรู้ อัลลอฮฺทรงตรัสว่า
....วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้วซึ่งศาสนาของพวกเจ้าและข้าได้ให้ครบถ้วนแล้วซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแกพวกเจ้า....( อัลมาอีดะห์ : 3)
ท่านทั้งหลายพึงพิจาณาเถิดว่า ศาสนาของอัลลอฮฺนั้นสามารถที่จะนำไปปฏิบัติได้ในทุกๆสังคมโดยปราศจากความเกลียดชังหรือเหยียดหยามซึ่งกันและกัน เช่นนี้แล้วไม่เรียกศาสนานี้ว่า ศาสนาแห่งความสันติ แล้วจะให้เรียกเช่นไร...
หมายเหตุ: โดย..อัล-บับลี...