Moradokislam.org - ฤาต้องละหมาดซุนนะห์ด้วย

โดย..อ.อับดุลลอฮ์ สุไลหมัด

عن أبى هريرة قال قال رسول الله صلى الله عليه وسلم ان أول ما يحاسب الناس به يوم
القيامة من أعمالهم الصلاة يقول الرب للملائكة وهو أعلم انظروا فى الصلاة عبدى
أتمها أم نقصها فان كانت تامة وان كان انتقص منها شئ قال الرب انظروا هل لعبدى
من تطوع فان كان له تطوع قال الرب أتموا لعبدى فريضته من تطوعه ثم تؤخد الاعمال
على دلك

จากอาบีฮูรอยเราะห์รอฎิยัลลอฮู่อันฮุ ท่านรอซูลุลลอฮ์ซอลลัลลอฮูอะลัยฮิว่าซัลลัมทรงมีพระวจนะว่า

“แท้งจริงสิ่งแรกที่มนุษย์ทุกคนจะถูกสอบสวนในวันกิยามะห์จากการงานของพวกเขา คือ ละหมาด อัลลอฮ์จะทรงมีดำรัสแก่มะลาอิกะห์ว่า พวกเจ้าจงสำรวจพิจารณาดูละหมาดของบ่าวข้าเถิด เขาได้ทำละหมาดอย่างสมบูรณ์ และหากว่าการละหมาดของบ่าวบกพร่องไม่สมบูรณ์ อัลลอฮ์จะทรงดำรัสแก่มะลาอิกะห์อีกว่า พวกเจ้าจงสำรวจเถิดว่าบ่าวของข้ามีการละหมาดซุนนะห์อาสา (ตะเฏาวัวอ์) หรือไม่? และหากบ่าวมีละหมาดซุนนะห์ อัลลอฮ์จะทรงดำรัสแก่มะลาอิกะห์ว่า พวกเจ้าจงนำละหมาดซุนนะห์ของบ่าวไปเสริมละหมาดพัรฎูให้สมบรูณ์เถิด จากนั้นงานประเภทอื่นๆ ก็จะดำเนินและเป็นไปตามนี้” บันทึกโดยอาบูดาวูด

การละหมาดซุนนะห์โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุนนะห์รอติบะห์ (ก่อนและหลัง) ประจำละหมาดฟัรฎู ทั้ง5 เวลา เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและความประเสริฐอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยทดแทนเสริมเติมสิ่งที่อาจบกพร่องไปบ้างจากการบละหมาดฟัรฎูต่างๆ แต่กับมีจำนวนไม่มากนักที่เห็นความสำคัญและคุณค่าของการละหมาดซุนนะห์และรักษาปฏบัติอย่างจริงจัง ส่วนมากแล้วจะมองข้ามละหมาดซุนนะห์ ละหมาดเฉพาะฟัรฎูเพียงอย่างเดียว หรือบางคนละหมาดเพราะเห็นผู้อื่นละหมาดหรือละหมาดขาดสมาธิและความสงบ บางคนก็ละหมาดแบบรีบร้อนปฏิบัติเฉพาะส่วนที่เป็นวายิบหรือรู่ก่นบังคับเท่านั้น หรือวันใดขยันทำก็ทำวันใดไม่ขยันทำก็ทิ้ง โดยคิดว่าละหมาดซุนนะห์รอติบะห์นั้นเป็นเพียงกิจอาสา ทิ้งบ้างทำบ้างคงไม่บาปอะไร แต่ความจริงแล้วการละหมาดซุนนะห์รอติบะห์นั้นมีคุณค่าอย่างเอนกอนันต์

และโดยปกติแล้วท่านรอซูลุลอฮ์ ซอลลัลลอฮูอะลัยฮิว่าซัลลัมจะละหมาดซุนนะห์รอติบะห์ทั้งก่อนและหลังละหมาดฟัรฎูเป็นประจำ โดยมีละหมาดก่อนและหลังจำนวน 10-12 รอกอะห์โดยประมาณที่ท่านรอซุลุลลอฮ์ซอลัลลอฮูอะลัยฮิว่าซัลลัมเน้นรักษาและปฏิบัติเป็นกิจวัต ที่เรียกกันว่า รอติบะห์มุอักกะดะห์ ส่วนที่เหลือเป็นละหมาดที่ท่านรอซุลุลลอฮ์ซอลัลลอฮ์ ทำเป็นครั้งคราว ไม่ประจำและสม่ำเสมอ ซึ่งเรียกกันว่ารอติบะห์ฆอยรุมุอักกะดะฮ์ มีรายงานจากอิหม่ามบุคอรีย์และมุสลิมว่าท่านอับดุลลอฮิบนุอุมัร ได้จดจำจากท่านรอซุลุลลอฮ์ซอลัลลอฮูอะลัยฮิว่าซัลลัมว่า ละหมาดซุนนะห์รอติบะห์ในวันหนึ่งๆ นั้นมีจำนวน 10 รอกอะห์ ได้แก่ 2 รอกอะฮ์ก่อนซุฮริ, 2 รอกอะห์หลังซุฮริ ,2 รอกอะห์หลังมัฆริบ , 2รอกอะห์ปลังอิชาอ. ปละอีก 2 รอกอะห์ก่อนซุบฮิ. ท่านอิหม่ามมุสลิมบันทึกไว้ว่า ท่านรอซูลุลอฮ์ ซอลลัลลอฮูอพลัยฮิว่าซัลลัม กล่าวว่า “ สองรอกอะห์ก่อนละหมาดซุบฮิดีเยี่ยมกว่าโลกนี้ทั้งโลก “ และอิหม่ามมุสลิมรายงานเพิ่มเติมว่าท่านหญิงอาอิชะห์กล่าวว่า ท่านรอซูลลุลลอฮ์ละหมาดซุฮริหลังตะวันคล้อยแล้ว โดยท่านละหมาดซุนนะห์ก่อนซุฮริ 4 รอกอะห์ และหลังซุฮริอีก 2 รอกอะห์ และท่านรอซูลุลอฮ์ ซอลลัลลอฮูอพลัยฮิว่าซัลลัม ยังกล่าวเป็นโอวาทอีกว่า
“ ผู้ใดที่ละหมาดซุนนะห์ก่อนอัศริ 4 รอกอะห์ อัลลอฮ์จะทรงปกป้องเรือนร่าของเขาไม่ให้ไฟนรกลามเลียได้ ” รายงานโดยอิหม่ามอะหมัดและนักบันทึกท่านอื่นๆ

อิหม่ามอัลบุคอรีย์และอิบนิฮิบบานรายงานอีกว่า ท่านรอซูลลุลลอฮ์เคยละหมาดซุนนะห์ก่อนมัฆริบ 2 รอกอะห์ และกล่าวย้ำอีกว่า
“พวกท่านจงละหมาดซุนนะห์ทั้งก่อนและหลังมัฆริบเถิด”

นักวิชาการส่วนใหญ่มีทรรศนะความเห็นว่า การละหมาดซุนนะห์รอติบะห์ทั้งสองประเภท คือ มุอักกะดะห์และไม่มุอักกะดะห์นั้น มีซุนนะห์ให้ละหมาดโดยเว้นระยะห่างจากละหมาดฟัรฎูเล็กน้อยมิใช่พอเสร็จละหมาดฟัรฎูก็รีบละหมาดซุนนะห์เลยเสียที่เดียว ซึ่งตรงกับคำรายงานของอิหม่ามอะห์หมัด

เมื่อทราบกันดังนี้แล้ว หลายคนคงนึกเสียดายขึ้นมาเป็นแน่ ที่ในอดีตเคยเพิกเฉยและมอข้ามคุณค่าความสำคัญของการละหมาดซุนนะห์ไป แต่บัดนี้ท่านทราบแล้วว่าคุณค่าและภาคผลของการละหมาดซุนนะห์นั้นมีมากเพียงใด ท่านคงจะไม่ทิ้งละหมาดซุนนะห์อีกเป็นแน่ ยังไม่สายเกินไปใช่ไหมครับ

ขอสาบานด้วยกาลเวลา
แท้จริงมนุษย์ทุกคนอยู่ในการขาดทุน
นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบกรรมดีทั้งหลาย
และตักเตือนกันและกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรม
และตักเตือนกันและกันให้มีความอดทน
บทอัลอัสร. โองการที่1-3