ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - เอ็นจีโอมะกันจวกไทยปราบโจรใต้เกินเหตุ
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
เอ็นจีโอมะกันจวกไทยปราบโจรใต้เกินเหตุ

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
u
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 114


ตอบตอบ: Wed May 19, 2004 6:03 am    ชื่อกระทู้: เอ็นจีโอมะกันจวกไทยปราบโจรใต้เกินเหตุ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เอ็นจีโอมะกันจวกไทยปราบโจรใต้เกินเหตุ
Thursday, April 29, 2004
By MGR ONLINE

เอเอฟพี – เอ็นจีโอสหรัฐฯเผยไทยใช้กำลังในการปราบปรามกลุ่มโจรเกินกว่าเหตุ พร้อมเรียกร้อง
ให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯออกแถลงการณ์เป็นห่วงความรุนแรงในไทย
และพร้อมให้ความช่วยเหลือหากทางไทยต้องการ
แบร์ด อดัมผู้อำนวยการบริหารของกลุ่มฮิวเมนต์ ไรท์ วอชประจำภาคพื้นเอเชีย
เผยว่าถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ของไทยมีสิทธิปกป้องตัวเอง แต่ก็ควรมีการสอบสวนว่ามีความจำเป็นมากแค่ไหน
ที่ต้องใช้กองกำลังสังหารกลุ่มโจร ทั้งนี้ทางกลุ่มยังระบุอีกว่าเจ้าหน้าที่ไม่นำเสนอยอดคนตายที่แท้จริงซึ่งสูงมากกว่า 120 คน
อดัมกล่าวว่าไทยใช้กำลังปราบปรามกลุ่มโจรไม่เหมาะสมและอาจจะนำมาซึ่งอันตรายต่อพลเรือนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในช่วงที่กองกำลังบุกเข้าปราบกลุ่มโจรในมัสยิดกรือเซะ



นอกจากนี้ทางกลุ่มยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยให้กลุ่มโจรที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ได้ปรึกษากับทนาย
และพบกับครอบครัวเพื่อเป็นการยืนยันว่าทั้งหมดยังคงมีความเป็นอยู่ที่ดีและไม่ถูกทำร้ายจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ขณะที่อดัม เอเรลีรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯให้สัมภาษณ์ว่าทางทำเนียบขาวเป็นห่วงต่อสถานการณ์เหตุรุนแรง
ในภาคใต้ของไทยอีกทั้งยังมีการหารืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย
และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือหากว่าทางไทยต้องการ
เอเรลีระบุว่าในขณะที่สหรัฐฯยังไม่ได้รับรายงานว่ากลุ่มใดอยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงในครั้งนี้
อีกทั้งยังไม่ขอตั้งข้อสงสัยกับกลุ่มใดทั้งสิ้น ซึ่งทางรองโฆษกกล่าวว่าขณะที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่







กระทู้ นสพ.ผู้จัดการ บันทึก:

ความคิดเห็นที่ 186
1.คริสต์ให้ทุนและสนับสนุน CIA สังเกตุให้ดี การแบ่งแยกดินแดนใดในโลก ทุกรัฐหรือประเทศเอกราช เป็นคริสต์ทั้งหมดอย่างติมอร์เป็นต้น CIA ได้ทรัพยากร คริสต์ได้ศาสนิก
2.ลงมือตอน 5.00 น.โดยยุทธวิธีไม่มีใครเขาทำกันหรอก เพื่อให้เห็นศพตอนเช้าๆ จะได้เกิด ความโกรธแค้นของฝ่ายมุสลิม มีการเตรียมการเพื่อที่จะเข้าไปในมัสยิด ให้นักข่าวเผยแพร่ภาพไปทั่วโลกว่ารถหุ้มเกราะไทย(พุทธ) ยิงกระสุนเข้าไปในมัสยิด(อิสลาม) จะได้ให้สื่อช่วยประโคมข่าวไปทั่วโลก
3.CIAให้ทุนสนับสนุน NGO พวกโง่ คอยแทรกแซงและต่อรองอำนาจรัฐทั่วโลก
4.CIAก่อตั้งโดยตระกูลใหญ่ 4 ตระกูล ปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและอเมริกาโดยไม่คำนึงถึงประเทศอื่นๆว่าจะเสียหายอย่างไร
5.อเมริกาทำสงครามกับอิรัก ทั้งโลกเห็นแล้วว่าคือ สงครามระหว่างคริสต์กับมุสลิม แต่ตอนนี้ต้องทำให้ดูเหมือนว่ามีสงครามระหว่างมุสลิมกับพุทธด้วย

mos



ความคิดเห็นที่ 176
อเมริกานั่นแหละคือต้นเหตุของความวุ่นวายวนโลกนี้ เที่ยวได้คอยสั่งใครต่อใครให้ทำตามความคิดและระบบของตัวเอง คอยแทรกแซงประเทศอื่นๆ ทำให้คนในชาตินั้นๆ แยกแยกต้องฆ่าฟันกันเอง รวมทั้งเมืองไทยด้วย ขอให้คนไทยอย่าไปหลงเชื่อมันอีก
เกรียดอเมริกา



ความคิดเห็นที่ 175
ไอ้เวน มัวแต่เห่าชาวบ้าน ตัวเองตัวดีนัก ไปเห่าตัวเองไป อิรักเต็มเมืองเขาเลย
เห่าไปทั่ว



ความคิดเห็นที่ 148
ถึงเราจะไม่เห็นด้วยกับการยิงถล่มมัสยิด แต่ คุณ มะริกัน ไม่เกี่ยวนะยะ...
Thai ja



ความคิดเห็นที่ 144
สื่อมวลชนไทยตามก้นสื่อมวลชนฝรั่ง
(เหมือนสุนัขเดินตามเจ้านาย)
ฟหกด



ความคิดเห็นที่ 143
ใครมีเพื่อนเป็นอเมริกัน ช่วยบอกมันทีว่าคนไทยบอกว่าอย่าใส่เกือก เอาเวลาไปจัดการเรื่องของมรึงที่กวนตานาโมให้เรียบร้อยดีกว่า
kk



ความคิดเห็นที่ 142
ไอ้พวกอักลี่ อเมริกัน
บ้านตัวเอง ละเมิดสิทธิมนุษยชนกันเอิกเกริก แต่กลับไม่สนใจ กลับแส่สอดไปสนใจสิทธิมนุษยชนประเทศอื่น ที่เขาไม่ได้เชิญให้เข้าไปแส่ คนไทยเรียกว่า "ส ใส่เกือก" ไอ้พวกอเมริกันคงไม่เข้าใจหรอกเพราะมันเป็นพวกควายโง่ มองตัวเองไม่เห็น เห็นแต่หัวตัวเองในเงาน้ำ อนิจจา น่าสงสารอย่างยิ่ง
สื่อมวลชนไทย ช่วยบอกมันเพื่อเอาบุญหน่อยเถอะว่า นี่มันกิจการภายใน อย่าได้สอดจมูกเข้ามาหาเรื่อง เดี๋ยวจะถูกคนไทยเนรเทศไปเขมร ไปรักษาสิทธิมนุษยชนที่นั่น หรือจะกลับไปซกตูดแม่ที่อเมริกา ก็น่าจะดี เพราะไปดมขี้แม่ น่าจะทำให้จิตใต้สำนึกดีขึ้น หรือว่าไม่??
อเมริกัน พวกโรคจิต
อเมริกัน พวกชอบสอดเรื่องชาวบ้าน
อเมริกัน พวกชอบหาเรื่องคนอื่น
อเมริกัน พวกชอบทำตัวเป็นตำรวจโลก โดยไม่มีใครเขาเชิญ
อเมริกัน พวกปลิ้นปล้อน ตอlae เขาไม่มีอาวุธร้ายแรง ก็ไปกล่าวหาว่าเขามี ตอนนี้ก็ออกมาพูดตาใสว่า การข่าวผิดพลาด แต่ชีวิตความเป็นอยู่ชาวอิรักที่ต้องเสียหายไป จะเอากลับคืนมาให้เขาอย่างไร
ฝากถึงรัฐบาลไทยด้วย อย่าไปตามตูดอเมริกันให้มากนัก เอาทหารไทยกลับมา เพราะส่งไปโดยไม่มีคำสั่งสหประชาชาติ มันเรื่องอะไรกัน เอาใจกันมากไปหรือเปล่า
นาย



ความคิดเห็นที่ 141
ศาสนาอิสลาม คนอิสลามชอบความสงบสุขไม่ไปด่าว่าใคร


ทุกคนชอบความสงบ



ความคิดเห็นที่ 140
ในราวปลายเดือน พฤษภาคม นี้ มะกันจะมาซ้อมรบกับไทยที่ โคราช เรียกว่า คอ บร้า โกลด์
คุณทักษิณ น่าจะ บอกประชาชน ตรง ๆ นะครับ
ว่า คนไทยไม่ต้องการแบบนี้....ไป..ไป บอก พี่ บุช
ไม่เอา คอบร้าโกลด์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
nes
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: Mar 12, 2004
ตอบ: 80
ที่อยู่: bkk

ตอบตอบ: Wed May 19, 2004 2:27 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมว่าเอ็นจีโอมะกันก็โวยวายไปงั้นแหละ แต่จริงๆก็เพื่อเปิดช่องเข้าไทยอย่างเปิดเผย

จะว่าเสือกเรื่องชาวบ้านก็ไม่เชิง เพราะไม่เห็นไปโวยวายอิสราเอลที่ฆ่าถล่มปาเลสไตน์รายวัน

ไม่แค่นั้น..ไอ้กาดันเสือกหนุนอิสราเอลซะอีก บอกว่าเขามีสิทธิปกป้องตัวเอง

คนไทยก็ร่วมมือกับไอ้กาด้วย คงดีใจได้เป็นลูกน้องโจร
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
u
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 114


ตอบตอบ: Sat May 29, 2004 6:25 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คำพูด:
เร่งเปิดโปง CTIC ขจัดการครอบงำโดยต่างชาติ



โดย เซี่ยงเส้าหลง

CTIC –ต้องไม่หายไปกับสายลมยามดึก !

เอกสารที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธส่งมอบต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อกลางดึกคืนวันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2547 จะมีรายละเอียดอย่างไร จนใจที่ “เซี่ยงเส้าหลง” ไม่อาจรับรู้

แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นพฤติกรรมที่ส่อเค้าว่าอาจจะมีการตกลงบางประการระหว่างรัฐบา ลชุดที่แล้ว กับสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว

ก่อนหน้าสัก 2 – 3 สัปดาห์ นักวิเคราะห์สถานการณ์ในบ้านเราฮือฮากับรายงานชิ้นหนึ่งที่ปรากฏในเว็บไซต์ขององ ค์กร Center for Strategic and International Studies หรือ CSIS ของสหรัฐอเมริกาเอง ที่ระบุว่ามีหน่วยปฏิบัติการร่วมไทย-สหรัฐอเมริกาภายใต้ชื่อ Counter Terrorist Intelligence Center หรือ CTIC ที่อย่าว่าแต่คนไทยทั่วไปจะไม่รู้เรื่องเลย รัฐบาลปัจจุบันก็ไม่รู้เรื่อง

และมีอีกบางเว็บไซต์นำไปถ่ายทอดต่อ

รายงานขนาด 6 หน้าชิ้นนี้มีขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 เป็นการฉายภาพรวมการทำงานต่อต้านการก่อการร้ายของรัฐบาลอเมริกันทั่วโลก โดยมีเรื่อง CTIC รวมอยู่ด้วยส่วนหนึ่งในหน้า 3 ภายใต้หัวข้อ....

“CIA, Thai Agencies Unite to Root Out Al Qaeda”

เนื้อหาระบุว่า CITIC ตั้งขึ้นในช่วงต้นปี 2544

จะเป็นเอกสารมโนสาเร่หรือไม่ กรุณาเปิดเว็บไซด์ศึกษาได้โดยตรง โดยเปิดหาที่ www.csis.org หรือจะเปิดไปถึงที่หมายโดยตรงเลยก็ได้ที่ http://www.csis.org/tnt/ttu/ttu_0310.pdf สาระสำคัญโดยสังเขปอยู่ตรงย่อหน้าต่อไปนี้....

“Working directly with at least a score of CIA operatives, the Counter Terrorism Intelligence Center (CTIC) combines key personnel from Thailand's three main security agencies: the National Intelligence Agency; the Thai police, and the armed forces.

“The CTIC relies heavily on the CIA for its structure, guidance, and funding. The two agencies share facilities, equipment, and information on a daily basis....

“The Thai government, which has often asserted that Thailand is free of terrorist, has never publicly acknowledged the existence of the CTIC.”

เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลอเมริกันยุคจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชคือการทำสงครามกวาดล้างขบวนการมุสลิมจารีตนิยมทั่วโลก

เอเชียอาคเณย์เป็นจุดหนึ่งที่มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามอยู่หนาแน่น
หน่วยงานด้านยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าขบวนการแบ่งแยกดินแดนทั้งในฟิลิป ินส์, อินโดนีเซีย และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต่ของประเทศไทย ล้วนเป็นเครือข่ายของขบวนการอัลกออิดะฮ์

เรื่องนี้มีรายละเอียดปรากฎอยู่ในหลายเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น....

http://fpc.state.gov/documents/organization/27533.pdf
http://www.usembassy.it/pdf/other/RL31152.pdf

มีบางเว็บไซต์ อาทิ www.fridaycallege.org เสนอบทวิเคราะห์เรื่อง CTIC ไว้ – ขอนำมาสรุปโดยสังเขปต่อไปนี้

..............

มีรายงานชิ้นหนึ่งของสหรัฐ ระบุชัดเจน CIA แอบเข้ามาตั้งศูนย์ต่อต้านการก่อการร้าย ณ จังหวัดชายแดนภาคใต้นาน 3 ปีมาแล้ว “ไฟใต้ - ก่อการร้าย - CIA” จึงเป็นสมการที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง

รัฐบาลไทยพยายามปกปิดการจัดตั้ง CTIC มาเกือบ 3 ปีแล้ว ศูนย์ลึกลับในภาคใต้แห่งนี้เป็นของสหรัฐอเมริกา บริหารงานโดยหน่วยงาน CIA ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา

ทว่า ความลับนั้นกลับถูกเปิดเผยโดยรายงานของ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ของสหรัฐอเมริกาเอง

รายงานของ CSIS ได้กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ CTIC ในภาคใต้ เพื่อต่อต้านกลุ่มเจไอและอัลกออิดะฮ์ โดยมี CIA เป็นผู้วางโครงสร้างให้เงินทุนสนับสนุน และวางแผนการปฎิบัติงานทุกอย่าง โดยตํารวจและทหารไทยที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องอยู่ภายใต้การบัญชาการโดยตรงของ CIA

การจัดตั้ง CTIC นั้น เกิดขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ผลกระทบที่จะมีต่อวัฒนธรรมในพื้นที่ และสังคมของชาวบ้านในภาคใต้ จึงไม่ได้อยู่ในการพิจารณาของรัฐบาลไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น

นอกจากนี้แล้วการกระทําต่าง ๆ ของ CTIC อาจทําให้เกิดความขัดแย้งภายใน เช่นนโยบายไล่ล่าและกักขังชาวบ้านมุสลิม ที่ถูกกล่าวหาว่าต่อต้านสหรัฐอเมริกา

เจ้าหน้าที่ของ CTIC สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ เพราะการทํางานของ CIA ในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย (War on Terrorism) นั้น ไม่ได้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายไทย หรือแม้แต่กฎเกณฑ์ของสนธิสัญญาเจนีวา

เมื่อถูกจับกุมแล้ว ผู้ต้องหาก็ไม่มีสิทธิที่จะหารือกับทนาย แม้ว่าเขายังคงถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิตามกฎหมายก็ตาม จะเห็นได้จากกรณีของนายจาเมา นักโทษของสงครามการต่อต้านการก่อการร้ายรายหนึ่งที่ถูกคุมขังอยู่ที่อ่าวกวนตานา โม

“พวกเขาสอบสวนผม เป็นเวลา 12 ชั่วโมงติดต่อกัน ในขณะที่ตรึงแขนผมไว้ด้วยโซ่ เมื่อผมไม่ยอมให้พวกเขาฉีดยา psychoactive drugs ผมก็ได้ยินเสียงผู้คุมฝรั่งทั้งหลาย เร่งผีเท้ากันเข้ามาทางห้องขังของผม พวกเขามีกันทั้งหมดห้าคน ใส่ชุดเกราะเข้ามาเตะต่อยผม และตีด้วยไม้ตะบอง จนผมเจ็บระบมไปทั้งตัว พวกเขาตะโกนพร้อมกันว่า Comply, comply, comply. Do not resist. Do not resist. ผู้คุมคนหนึ่งเตะผมอย่างแรง จนทําให้ผมเกิดอาการอักเสบที่กระดูกสันหลัง....

“หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง ในขณะที่ผมกําลังเริ่มฟื้นตัวขึ้นมา ผู้คุมคณะที่สองก็เข้ามาเตะต่อยผมอีก ผู้คุมอเมริกันคนหนึ่งขู่ว่า จะฆ่าครอบครัวของผมให้สิ้น....

“หลังจากนั้น เขาก็พาผมไปขังไว้ในห้องแคบมากๆ ที่ร้อนระอุในตอนกลางวัน พอตอนกลางคืน พวกเขาก็เปิดไฟในห้องให้สว่างจนนอนไม่หลับ รวมทั้งเปิดพัดลมอย่างแรงทําให้ห้องเย็นยะเยือก จนผมต้องลงไปหลบลมอยู่ใต้เตียง..... "

“เขาต้องการทําลายผมทั้งทางกายและใจ.... เพื่อให้ได้มาซึ่งคําสารภาพ.... แม้ว่าผมจะเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม”

การกระทําทั้งหมด CIA มักจะใช้ตํารวจไทยเป็นเครื่องมือเบื้องต้น ในการหาข้อมูล และจับกุม ซึ่งทําให้เกิดความแค้นเคืองระหว่างคนไทยด้วยกันเอง เป็นอย่างมาก

เนื่องจากศูนย์ CTIC และ CIA เป็นหน่วยงานของต่างชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้ จึงไม่ใช่ปัญหาระดับชาติ แต่เป็นปัญหาที่เรียกว่า US Fundamentalism ซึ่งเป็นจักรวรรดินิยมในรูปแบบหนึ่ง

เรากําลังเผชิญหน้ากับสหรัฐอเมริกา ที่ใช้กําลังทหารเพื่อบีบบังคับให้ประเทศอื่น ให้มองโลกจากมุมมองและกรอบคิดของตน

ในรอบร้อยปีที่ผ่านมานี้ สหรัฐอเมริกาก็เคยมีแนวโน้มไปทาง Fundamentalism เหมือนกับที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะแนวคิดแบบ “เสรีนิยม” ในช่วงทศวรรษที่ 1960 หรือช่วงสงครามเวียดนาม ที่สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาตั้งฐานทัพทางทหารในประเทศไทย ในช่วงทศวรรษที่ 1960-1970

ทําให้เยาวชนและนักศึกษาไทยในช่วงนั้น ต้องเติบโตมากับสงครามเวียดนาม เติบโตมากับเสียงฝูงบิน B - 52 เติบโตมากับภาพหญิงไทยกอดอยู่กับทหารฝรั่ง และเติบโตมากับรัฐบาลเผด็จการ ที่เอาแต่จะเสพสุขไปวัน ๆ

การยินยอมให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงดังกล่าว จึงเป็นชนวนทําให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลอย่างแรง ไม่ต่างจาก "ไฟใต้" ที่กําลังปะทุขึ้นมาในขณะนี้ เพียงแต่ในช่วงทศวรรษที่ 1970 นั้น มันถูกจุดประกายขึ้นโดยนักศึกษาที่มิใช่ชาวมุสลิม

คงเป็นที่น่าขบขันไม่น้อยทีเดียว เมื่อรัฐบาลพยายามจะฉลองครบรอบ 30 ปี 14 ตุลาคม 1973 ด้วยการไว้อาลัยอย่างเงียบ ๆ แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับการฉลองที่แท้จริงกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

คนไทยนั้นไม่ชอบการถูกครอบงำโดยต่างชาติเป็นธรรมดา ประวัติศาสตร์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นมาช้านานแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธ ชาวมุสลิม หรือชาวกฟผ. !
การที่ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านการดําเนินนโยบายเอาใจต่างชาติโดยรัฐบาลเผด็จการนั้ น จึงเป็นเรื่องปกติของประวัติศาสตร์ชาติไทย

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยกล่าวไว้ว่า สหรัฐอเมริกานั้นเป็นเพื่อนที่น่ารําคาญ

ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า เพื่อนที่น่ารําคาญผู้นี้ นอกจากจะยัดเยียดให้จัดตั้ง CTIC อย่างลึกลับแล้ว ยังเปิดเผยรายงานการจัดตั้งดังกล่าวต่อสาธารณะ ให้รัฐบาลไทยต้องขายหน้าอีกต่างหาก !

ถึงเวลาแล้ว ที่รัฐบาลควรจะร่วมมือกับประชาชน เพื่อขจัดปัญหาการเข้ามาครอบงำโดยต่างชาติอย่างจริงจัง

นั่นหมายถึงการยกเลิกให้ต่างชาติ เข้ามาใช้สถานที่และฐานทัพภายในประเทศ อันนํามาซึ่งปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

...................

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธจุดชนวนสำคัญออกมาแล้ว

อย่าให้มันล่องลอยไปกับสายลมยามดึกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีวันแรก และการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลเลย

รัฐบาลไหนแอบไปตกลงให้เกิด CTIC ขึ้น เป็นคำถามที่คนไทยทุกคนอยากได้คำตอบ


หน้าตาเว็บไซต์ www.csis.org
แกะรอย CTIC จากฉก. 399 !

หน่วยเฉพาะกิจ 399 หรือฉก. 399 คือ “ข้อมูล”, “หลักฐาน” และ “ใบเสร็จ” ที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาคือตัวการสำคัญที่ทำให้รัฐบาลพม่าไม่ไว้วางใจและห วาดระแวงไทย

เป็น “มูลเหตุพื้นฐาน” ของความตึงเครียดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2544 และเมษายน 2545

การเผชิญหน้ากันระหว่างไทย-พม่า และการใช้นโยบายทางทหารอย่างแข็งกร้าวภายใต้การนำของแม่ทัพภาคที่ 3 ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการประกาศปิดด่านแม่สายตั้งแต่ต้นปี 2544, การห้ามไม่ให้ส่งออกยุทธปัจจัย 4 ประเภทเข้าพม่า ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ยารักษาโรค ยานยนต์ ข้าวสาร, การกักไม่ให้ขบวนรถบรรทุกอุปกรณ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าท่าขี้เหล็กผ่านด่านแม่สา ย ตลอดจนการปะทะกันด้วยกำลังทหารตามแนวชายแดน เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการปรากฏตัวของหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยหน่วยงานหนึ่ง











คำพูด:

“หน่วยเฉพาะกิจ 399”

“ฉก. 399”

เป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงที่กองทัพบก (ทบ.) ก่อตั้งขึ้นภายใต้การสนับสนุนของกองทัพสหรัฐอเมริกา

แม้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้น จะลงนามในคำสั่งก่อตั้งเมื่อปลายเดือนเมษายน 2544 แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ฉก. 399 เริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่ปลายปี 2543 ในยุครัฐบาลชวน หลีกภัยแล้ว

ฉก. 399 ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วยกำลังพล 4 กองร้อย มาจากกรมทหารราบที่ 7 จำนวน 2 กองร้อย กองพลรบพิเศษที่ 2 จำนวน 2 กองร้อย และตชด.อีก 1 กองร้อย

กองทัพสหรัฐส่งหน่วยรบพิเศษที่ประจำการในภาคพื้นแปซิฟิค ณ เกาะกวม เข้ามาทำหน้าที่ช่วยฝึกสอนงานด้านการข่าวและการปฏิบัติการต่อเป้าหมาย

วัตถุประสงค์ – อ้างว่าเพื่อสกัดกั้นและปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดโดยเฉพาะ

กำลังพลที่ได้รับการบรรจุเข้าฉก. 399 จะได้รับการสนับสนุนเบี้ยเลี้ยงจากทางการสหรัฐวันละประมาณ 500-600 บาท/คน ได้รับการสนับสนุนเครื่องมือที่ทันสมัย และยานพาหนะต่าง ๆ จากสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่

นอกจากนั้นยังจะได้รับเงินพิเศษช่วยรบ (พศร.) ปีละ 1 ขั้น

เงิน พศร.นี้จะติดตัวกำลังพลไปจนกว่าจะเสียชีวิต

พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ อดีตแม่ทัพกองทัพภาคที่ 3 เคยระบุไว้ว่า การตั้งฉก. 399 ขึ้นมามีเป้าหมายที่การสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ แต่จะไม่มีการรุกล้ำอาณาเขตของประเทศเพื่อนบ้าน และ....
การเข้ามาช่วยเหลือของกองทัพสหรัฐอเมริกาเป็นไปในลักษณะเดียวกับที่เคยช่วยเหลือ รัฐบาลโคลัมเบียปราบปรามโคเคน !

แต่แม้จะยืนยันหนักแน่นอย่างนั้น ความเป็นจริงของปฏิบัติการในพื้นที่กลับเป็นไปในลักษณะ.....

“มะกันหนุน-ไทยคุม-กะเหรี่ยง(คริสต์)ลงมือ” การช่วยเหลือของกองทัพสหรัฐต่อฉก. 399 อยู่ที่การช่วยเหลือด้านเทคนิคเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอ่านภาพจากดาวเทียมหาจุดที่ตั้งโรงงานยาเสพติด, การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการปราบปรามยาเสพติด รวมไปถึงถ่ายทอด Know-how ที่จำเป็นผ่านชุดการฝึก “การปฏิบัติการต่อเป้าหมาย” ให้ เช่น การฝึกจู่โจมทางเฮลิคอปเตอร์ในเวลากลางคืน
มีนายทหารสหรัฐเข้ามาทำหน้าที่ในแผ่นดินภายใต้อธิปไตยของราชอาณาจักรไทยระหว่าง 12-30 นาย

ส่วน “การปฏิบัติการต่อเป้าหมาย” เป็นหน้าที่ของกำลังพลฝ่ายไทย โดยมีชนกลุ่มน้อยที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลพม่าเข้าร่วมปฏิบัติการด้วย !

ฉก. 399 เริ่มวางโครงร่างของหน่วยงานมาตั้งแต่กลางปี 2543 เริ่มฝึกเต็มอัตราเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2544

ฉก. 399 มีลักษณะเดียวกันกับหน่วยงานในสังกัดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) หมายเลข 514 และ 311 ในอดีต เพียงแต่ภารกิจแตกต่างกัน

โครงการ 514 ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อปฏิบัติการโต้ตอบกองกำลังของขุนส่าในอดีต ขณะที่โครงการ 311 ก่อตั้งขึ้นมาปฏิบัติงานด้านการข่าวพื้นที่ชายแดนไทย-พม่าโดยเฉพาะ และเสร็จสิ้นภารกิจไปเมื่อเดือนตุลาคม 2543 หลังจากนั้นจึงมีฉก. 399 ขึ้นมาทดแทน

เป็นที่รับรู้และพิจารณากันมาแต่ต้นแล้วว่าฉก. 399 คือความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ความสัมพันธ์ไทย-พม่าเลวร้ายลงไป เพราะนี่คือช่องทางในการส่งผ่านความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกเข ้าไปยังชนกลุ่มน้อยที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลพม่า ทั้งด้านเงินทุน และอื่น ๆ

รวมทั้งเป็นการรื้อฟื้นสถานภาพความเป็น Buffer State ของประเทศไทยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้วัตถุประสงค์อ้างอิงใหม่ – สกัดกั้นยาเสพติดจากแหล่งผลิตในประเทศพม่า

เหตุการณ์หลายครั้งที่ผ่านมาในช่วงปี 2543 – 2544 บ่งชี้ให้เห็นว่าชนกลุ่มน้อยในพม่าเป็นผู้นำกำลังเข้าปะทะกับคาราวานยาเสพติด แล้วนำยาเสพติด ยาบ้า ที่ยึดได้มามอบให้กับทางการไทย

ตัวอย่างที่ “บอกเล่า” ได้ดีคือกรณียาบ้า 13 ล้านเม็ดเมื่อเดือนเมษายน 2544 !

ยาบ้าของกลางที่กองกำลังนเรศวรตรวจยึดได้ 2 ครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 16 และ 24 เมษายน 2544 รวมกว่า 13 ล้านเม็ดนั้น....

ครั้งแรก 7 ล้านเม็ด พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ มทภ. 3 ในขณะนั้น บอกว่ากองกำลังกะเหรี่ยงคริสต์ (KNU) ยึดได้หลังปะทะกับคาราวานขนยาเสพติดของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) ในฝั่งพม่าแล้วนำมามอบให้กองกำลังนเรศวร

ข่าวในพื้นที่บอกเล่าว่าเมื่อคืนวันที่ 14 เมษายน 2544 มีขบวนรถของเจ้าหน้าที่ทหารไทยลำเลียงกำลังทหารในสังกัด KNU จำนวน 7 คันรถไปปล่อยบริเวณโรงสูบน้ำประปาแม่สอด เพื่อให้ข้ามแม่น้ำเมยไปยังฝั่งพม่า แล้วรับกลับมาในคืนเดียวกัน ต่อมาอีก 1 วัน KNU ก็นำยาบ้า 7 ล้านกว่าเม็ดมามอบให้ทางการไทย

ครั้งที่ 2 มีรายงานว่า ฉก.ร. 4ตรวจยึดได้หลังเกิดปะทะกับ DKBA บริเวณชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก แต่หน่วยงานอื่น ๆ ในพื้นที่ไม่มีรายงานเหตุการณ์ปะทะ
ชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มในพม่าหันมาให้ความร่วมมือในการปราบปรามสกัดกั้นยาเสพติด-ย าบ้าที่มีแหล่งผลิตตามแนวชายแดนประเทศพม่า เริ่มจากกองกำลัง SSA ของพ.อ.ยอดศึก รวมไปถึง KNU, กองทัพกะเหรี่ยงคะยา(KNPP) ปะล่อง ปะโอ แม้แต่กลุ่มมอญเองก็เริ่มมีท่าทีที่จะเข้าร่วมกับแนวทางนี้มากขึ้น
ถือเป็นแนวทางแสวงหาความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและโลกตะวันตกของชนกลุ่มน้อยที ่ต่อต้านรัฐบาลพม่าอีกแนวทางหนึ่ง
เป็นแนวทางที่ประเมินว่าน่าจะเห็นผลเร็วกว่าการชูธงเรียกร้องประชาธิปไตยเพียงธง เดียว !

เพราะปัญหายาเสพติดไม่เพียงแต่เป็นปัญหาใหญ่ของไทยเท่านั้น ยังเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมโลก เมื่อชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ประกาศเจตนารมณ์สกัดกั้นขบวนการผลิต-ค้ายาเสพติด ความช่วยเหลือจากภายนอกก็จะมีเข้ามามากและเร็วขึ้นแน่นอน
การผลักดันให้ชนกลุ่มน้อยในพม่าเข้าร่วมการปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดเข้าประเท ศไทยนี้ย่อมมีแรงหนุนจากสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน

โดยมีหน่วยงานในสังกัดกองทัพบกไทยเป็นผู้ควบคุม และชนกลุ่มน้อยในพม่าเป็นผู้ปฏิบัติงาน !

หลังการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านยาเสพติดของบรรดาชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ในพม่า มีเม็ดเงินสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกเข้ามาค่อนข้างมาก รวมทั้งอาวุธด้วย

แน่นอน – ทุกอย่างผ่านประเทศไทยทั้งสิ้น !

รัฐบาลพม่าแสดงท่าทีไม่พอใจต่อการกำเนิดของฉก. 399 มาตั้งแต่ต้น ผ่านข่าวและบทความในหนังสือ The Mirror โดยตั้งธงไว้ว่ารัฐบาลไทยสมคบสหรัฐอเมริกาสนับสนุนกบฏชนกลุ่มน้อย มีอยู่บทความหนึ่งลงตีพิมพ์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2544 ตั้งชื่อเลียนแบบสุภาษิตไทยว่า....

“ช้างตายทั้งตัวเอาหนังแพะไปปิดไม่มิด”

เนื้อหาเป็นการลงบันทึกความเคลื่อนไหวหน่วยรบพิเศษไทยละเอียดยิบ โดยมุ่งเน้นไปที่กำลังผสมไทย-สหรัฐ อเมริกาเข้าไปให้การสนับสนุนชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้สวามิภักดิ์ต่อรัฐบาลพม่า

กองทัพบกและรัฐบาลไทยยุคชวน หลีกภัยออกมาปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา ไม่ว่าจะเป็นการให้การสนับสนุนกองกำลังชนกลุ่มน้อยในพม่า หรือการเปิดพื้นที่ให้ผู้นำชนกลุ่มน้อยเข้ามาพักอาศัยในประเทศไทย พร้อมกันนั้นนายทหารระดับสูงของไทยหลายนาย โดยเฉพาะในระดับกองทัพภาคที่ 3 ก็ออกมาระบุหลายครั้งว่าทางการพม่าไม่ให้ความร่วมมือต่อการปราบปรามยาเสพติดเท่า ที่ควร
งบประมาณในการป้องกันและปราบปรามยาเสพย์ติดแต่ละปีของสำนักคณะกรรมการปราบปรามยา เสพติด (ป.ป.ส.) อยู่ในราว 1,600-1,900 ล้านบาท

นอกเหนือจากจะได้รับสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลแล้ว ป.ป.ส.ยังได้รับงบสนับสนุนเพิ่มเติมมาจากองค์การสหประชาชาติอีกเป็นวงเงินประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11,250 ล้านบาท

แต่หลายปีที่ผ่านมาผลงานของป.ป.ส.ดูจะไม่ค่อยเข้าตาสหประชาชาติเท่าที่ควร
สหประชาชาติจึงเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณในการปราบปรามยาเสพย์ติดส่วนใหญ่มาให้กั บ

“หน่วยปฏิบัติ” -- คือกองทัพบก -- โดยตรง แทนที่จะส่งผ่านให้ป.ป.ส.

ตัวเลขงบประมาณจากสหประชาชาติในปีหนึ่ง ๆ ตกราว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท

ฉก. 399 ก่อกำเนิดขึ้นเพื่อเป็น “หน่วยปฏิบัติภายในหน่วยปฏิบัติ” เพื่อรองรับการเปลี่ยน แปลงด้านการสนับสนุนงบประมาณจากสหประชาชาติดังกล่าว

ฉก. 399 มาจากแนวคิดของพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้น และได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล

รัฐบาลที่มีชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประสงค์ สุ่นศิริเป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง !

ในชั้นต้น ภาพที่มีกำลังพลจากรบพิเศษของสหรัฐอเมริกาเข้ามาทำการฝึกสอนกำลังพลของกองทัพบก ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อกังขาเป็นการภายในว่านี่จะเท่ากับเป็นการอนุญาตให้ต่างชาติ เข้ามาจัดตั้ง “ฐานทัพ” ในประเทศหรือไม่ ถ้าใช่ก็เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เพราะเป็นการละเมิดทั้งรัฐธรรมนูญและประมวลกฎหมายอาญา

แต่ก็เป็นเพียงเสียงนกเสียงกา – ทั้งรัฐบาลและกองทัพบกไม่ได้ตอบโต้อะไร !


http://www.manager.co.th/Politics/PoliticsView.asp?NewsID=4714616677164


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
nuroiya
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2003
ตอบ: 41


ตอบตอบ: Sun May 30, 2004 11:37 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามุอ้าลัยกุม

ดิฉันได้อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกเป็นห่วงมุสลิมเรามาก ๆ ช่วยกันต่อสู้และปกป้อง อย่างน้อยก็ช่วยกันขอดุอาอฺให้พี่น้องมุสลิมกันด้วยเถิด ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ดีมาก ๆ ดิฉันเคยได้คุยกับเพื่อน ๆ ก็บอกเกี่ยวกับกระทู้นี้แต่ดิฉันก็ยังงไม่เคยเข้าไปดู พอดีได้มาอ่านกระทู้ของคุณ U แล้วมีประโยชน์มาก ใครได้อ่านแล้วช่วยกรุณาเล่าต่อหรือบอกต่อกันไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะให้พี่น้องมุสลิมเราได้ตื่นขึ้นจากพวังค์กันเสียที เพราะมันเป็นการทำลายล้างอิสลามอย่างแท้จริง นี่เป็นหนึ่งในรูปแบบการทำลายล้างอิสลาม ยังมีอีกหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นด้านการข่าว การเอาลัทธินิกายต่าง ๆ เข้ามาแล้วอ้างว่า นี่คือ อิสลาม ด้านเศรษฐกิจ ก็คือ การที่รัฐบาลเราเอาใจพี่น้องที่ยากจนหรือขัดสนต้องการเงิน ก็สามารถกู้เงินจากรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนชุมชน เงินกู้ออมสิน นี่คือระบบการทำลายล้างอิสลามโดยสันดานยิวอย่างชัดเจน และการปลุกระดมโดยการสร้างภาพ ว่าจะทำให้ทุกประเทศมีสิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน และอื่น ๆ อีกมากมาย เราต้องหันกลับมาช่วยกันเพื่อเป็นหนึ่งเดียวแด่ประชาชาติอิสลาม วัสสลาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว เข้าชมเว็บไซต์
อัลฮุดา
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/03/2004
ตอบ: 44


ตอบตอบ: Fri Jun 04, 2004 10:03 pm    ชื่อกระทู้: เอ็นจีโอ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามุอะลัยกุม
ขอขอบคุณ คุณ u มากนะคะที่นำเรื่องนี้มาเสนอในเวปนี้ให้เราได้ทราบกัน เพราะโดยปกติดิฉันก็ไม่ค่อยได้ไขว่คว้าที่จะหาข้อมูลในเรื่องนี้มาอ่านสักเท่าไหร่ ข้อมูลที่คุณนำมาเป็นเรื่องใหม่สำหรับดิฉันและอีกหลายๆ คนที่ดิฉันได้คัดลอกไปให้อ่าน

อย่างไรก็ตามไม่อยากจะเชื่อเลยที่ว่ารัฐบาลปัจจุบันไม่รู้มาก่อนหน้านี้ ก็ไอ้ตี๋ออกจะเป็นขี้ข้าไอ้ บุชปานนั้น ไฉนเลยจึงไม่รู้เรื่องที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กันเช่นนี้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.08 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ