ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - ยก หรือไม่؟ งง และ สงสัย
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
ยก หรือไม่؟ งง และ สงสัย

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
cavaso
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: Apr 17, 2004
ตอบ: 10


ตอบตอบ: Sun Apr 18, 2004 3:39 am    ชื่อกระทู้: ยก หรือไม่؟ งง และ สงสัย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามมูอลัยกุม วาเราะห์มาตุลลอฮิวาบารอกาตุ พี่น้องมุสลิมทุกท่านครับ

พิเศษสำหรับท่านผู้รู้ทุกท่านครับ

สงสัย และงงครับ อยากทราบว่า การยกมือขอดุอาในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น หลังละหมาดฟัรฎุ ตอนยกกุนุตในละหมาดวิตร เป็นต้น ชอบให้ยกมือหรือไม่ครับ ตามแบบอย่างของท่าน นบี มุฮัมหมัด ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีหลักฐานอย่างไรบ้างครับ
สาเหตุของความสงสัย : ผมเคยละหมาดกับนักวิชาการท่านหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นที่รู้จักกับทุกคนดี ในตอนละหมาดมัฆริบครับ และสังเกตุเห็นว่าท่านไม่ยกมือขอดุอาหลังละหมาดแต่จะมีการกล่าวดุอานะ เลยมีเพื่อนผมคนหนึ่งถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านก้อบอกว่า สมัยท่าน นบี ท่านนบีไม่ยกมือขอดุอาอฺ ด้วยหลักฐาน ที่ท่านอาจารย์คนนั้นยกมา ผมเลยสงสัยว่า สิ่งที่ผมทำอยู่ตลอดชีวิตนี้ตั้งแต่เด็กมันไม่ไช่สิ่งที่นบีเคยทำมาหรอ เลยงง และสงสัยครับ
อยากทราบจริง ๆ ครับ เพื่อจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ครับ

ป.ล. หากมีหลักฐานประกอบนิดหน่อยก้อเป็นดีนะ
วัสลามทุกท่าน (ช่วยตอบกันหน่อยนะ)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อัลฮุดา
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/03/2004
ตอบ: 44


ตอบตอบ: Tue Apr 20, 2004 9:01 pm    ชื่อกระทู้: ยกหรือไม่&#1567 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วะอลัยกุมมุสสลามวะเราะห์มาตุ้ลลอฮิวะบารอกาตุ

สำหรับคำตอบของเรื่องนี้นะคะ ดิฉันขอแนะนำให้คุณอ่านหนังสือของอาจารย์มูรีด ทิมะเสน เรื่อง " หรือต้องยกมือหลังนมาซฟัรดู?" ท่านจะได้รับทราบในสิ่งที่ท่านสงสัยอย่างละเอียด พร้อมหลักฐานจากอัลกุรอานและฮาดีสศอเฮี๊ยะห์ ซึ่งจะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่า สิ่งไหนที่ท่านรซูลศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมได้กระทำไว้เป็นแบบอย่างสำหรับเรา ขอเพียงท่านอย่าติดยึดกับของเก่า หรือโต๊ะครูเก่าๆ ที่ไม่ได้มีการพัฒนาความรู้ของตนเองแต่อย่างใด พร้อมทั้งขจัดอคติต่างๆที่มีอยู่ในใจให้หมดไป ทำใจให้บริสุทธิ์ พร้อมทั้งขอดุอาอให้ได้รับความเข้าใจที่ถูกต้องในศาสนาของพระองค์ด้วยค่ะ แล้วท่านจะได้รับทางนำที่ถูกต้อง อินชาอัลลอฮ์ และหากท่านได้ยินได้ฟังอันใดที่แตกต่างไปจากหลักฐานที่ถูกต้องตามที่มีอยู่ในหนังสือของอาจารย์มูรีด ทิมะเสนเล่มนี้แล้วละก้อ โปรดพินิจพิจารณาด้วยว่า อันใดคือตัวบทหลักฐานและอันใดคือความเห็นหรือทัศนะ โปรดแยกแยะด้วยนะคะ เพราะสิ่งใดก็ตามถ้าจะถือว่าเป็นมารยาทที่ดีงามอันพึงกระทำแล้ว แน่นอนย่อมต้องมีหลักฐานที่ท่านรซูล ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมทำหรือแจ้งให้เราทำ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อัลฮุดา
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/03/2004
ตอบ: 44


ตอบตอบ: Thu Apr 22, 2004 8:04 pm    ชื่อกระทู้: ยกหรือไม่&#1567 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามุอลัยกุม คุณ cavaso

ดิฉันได้เข้าไปดูในเวปของท่านอาจารย์มูรีด ได้พบคำถามของคุณเรื่องนี้ที่ท่านอาจารย์มูรีดได้ตอบให้แล้ว สงสัยว่าคุณยังไม่พอใจในคำตอบกระมัง ถึงได้นำมาถามที่นี่อีก คงจะอยากให้ท่านอาจารย์ที่นี่ตอบใช่ไหมคะ ถ้าเป็นเช่นนั้นดิฉันพอจะช่วยท่านได้บ้างในระดับหนึ่งก่อนที่ท่านอาจารย์ที่นี่จะมีเวลาว่างมาตอบให้คุณนะคะ

เท่าที่ดิฉันได้เคยสอบถามท่านอาจารย์ที่นี่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะ ก็ได้รับคำตอบที่ไม่แตกต่างไปจากท่านอาจารย์มูรีดแต่ประการใด เพียงแต่ดิฉันไม่สามารถจะนำตำราของท่านอาจารย์ที่นี่มาอ้างอิงให้ท่านได้รับทราบอย่างชัดเจนได้ เพราะส่วนใหญ่ท่าน จะบรรยายให้เราฟังมากกว่าที่จะเขียนหนังสือ จึงค่อนข้างลำบากที่จะไปค้นหาเทปบรรยายในเรื่องนี้ว่าอยู่ม้วนไหน เพราะไม่ได้ระบุไว้ในเทป

อย่างไรก็ตามหากคุณยังมีข้อสงสัย อยากจะได้ทัศนะที่แตกต่างจากท่านอาจารย์มูรีด ก็มีหนังสือออกมานะคะ ชื่อเรื่องก็บอกไว้ชัดเจนว่าเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับ"หรือต้องยกมือหลังละหมาด
ฟัรฏู?"ของอาจารย์มูรีด ดิฉันยังซื้อมาอ่านเลยแต่ก็ไม่เห็นได้รับอะไรเพิ่มเติมที่บ่งบอกให้รู้ว่า มีหลักฐานให้ยกมือหลังละหมาดฟัรฏู ดิฉันจึงไม่ขอแนะนำให้คุณไปซื้อค่ะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cavaso
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: Apr 17, 2004
ตอบ: 10


ตอบตอบ: Mon May 17, 2004 7:18 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

บิสมิลลาฮิรฺเราะห์มานิรฺรอฮีม
อัสลามมูอะลัยกุมวาเราะห์มาตุลลอฮฺ วาบารอกาตุ


ถึงพี่นอ้งมุสลิมทุกท่านครับ ผมเล่นเน็ตไม่ค่อยบ่อยหรอก ติดภาระกิจการเรียนนะครับ แต่ก้อดีวันนี้สอบเสร็จแล้ว สำหรับหัวข้อที่ผม โพสต์ เป็นความสงสัยของผม และอยู่ในความสนใจของผมด้วย พอดีผมได้ไปค้นข้อมูลมานิดหน่อยหนะครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านวิทยากร คุณอัลฮุดา รวมถึงท่านผู้อ่านกระทู้ครับ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวข้อมูลนี้ครับ โปรดชี้นำด้วย เพื่อความรู้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของผมผู้นำเสนอ พี่น้องมุสลิมผู้อ่านด้วย ให้ดำเนินไปตามซุนนะห์ ของ รซูลลุลลอฮฺ ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ....

เป็นคำสรุปของนักปราชญ์คนสำคัญชาวอินเดีย เกี่ยวกับเรื่อง "การยกมือทั้งสองในการขอดุอาอฺ" นามว่า "อัล อัลลามะฮฺ ซัยยิดมุฮัมหมัด ศิดดิ๊ก คอน" ว่า
และผลสรุปที่ได้นั้น คือ การยกมือทั้งสองในการขอดุอาอฺ ไม่ว่าจะเป็นดุอาอฺใดๆ และในเวลาใด ๆ จะหลังละหมาดทั้งห้าเวลา หรืออื่น ๆ นั้น เป็นมารยาทชนิดหนึ่งจากบรรดามารยาทอันดียิ่งที่บรรดาฮะดิษทั้งที่มีข้อความไม่เฉพาะเจาะจง และที่มีข้อความเฉพาะเจาะจงบ่งถึงไว้ และการที่มิได้มีรายงานการยกมือในขณะขอดุอาอฮหลังละหมาดนั้นไม่ทำให้เสียหายแก่การมีมารยาทนี้แต่อย่างใด เพราะเป็นที่ทราบแก่เศาะฮาบะฮฺ ทุกคนแล้วดังนั้นพวกเขา (บรรดาสาวก) จึงมิได้สนใจที่จะกล่าวถึงในขณะนั้น และการที่ท่านอัล ฮาฟิซ อิบนุลกอยยิม เราะฮิมาฮุลลอฮฺ ได้ปฎิเสธการยกมือทั้งสองในการขอดุอาอฺ หลังละหมาดนั้นเป็นการเข้าใจผิด (ขออัลลอฮฺทรงให้สิ่งที่ซ่อนเร้นในใจของเขาบริสุทธิ์เถิด) แท้จริงปัญหานี้เราได้วิจัยไว้แล้วอย่างชัดเจนโดยไม่มีสิ่งใดปิดบังไว้อีกในตำหรับตำราต่าง ๆ ที่เราเขียนไว้ ท่าน อิมาม อัล-กอสเฎาะลานีย์ ได้กล่าวไว้ใน "อิรฺชาดิซซารีย์ ชะเราะอฺเศาะฮีฮุล บุคอรีย์" ว่าที่ถูกต้องนั้นคือ ชอบให้ยกมือในบรรดาดุอาอฺทั่ว ๆ ไป(ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น) เล่าโดย อัล บุคอรีย์ และมุสลิม และท่านอื่น ๆ

และฮะดิษของอนัส ในศ่อฮีหฺ อัลบุคอรีย์ และมุสลิมที่ว่า "ท่านนบีไม่ยกมือนอกจากในการขอฝนนั้น" ถูกตีความไปว่า ท่านบีไม่ยกมือทั้งสองของท่านอย่างถึงขึดสุด (นอกจากในการขอฝน) และการที่ท่านนบี ศอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยกมือทั้งสองของท่าน (ในขณะขอดุอาอฺ) นั้นมีปรากฏอยู่ในหลายที่ด้วยกัน เช่นการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่าน จนกระทั่งความขาวของรักแร้ทั้งสองของท่านถูกเห็น ขณะที่ท่านแต่งตั้ง อิบนุ อัล-ลุตบียะฮฺ ให้เป็นเจ้าหน้าที่เก็บซะกาต ดังที่ปรากฎอยู่ในศ่อฮีหฺทั้งสอง และการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่านอีกเช่นเดียวกันในเรื่องราวของ "คิอลิดุบนุลวะลีด" โดยกล่าว่า "ข้าแด่อัลลอฮฺ แท้จริงข้าพระองค์ขอปลีกตัวต่อพระองค์ให้พ้นจากส่งที่คอลิดกระทำ" เล่าโดย อัลบุคอรีย์ และ อัลนะซาอีย์ และการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่านบนภูเขาเศาะฟา เล่าโดย มุสลิม และอะบูดาวู๊ด และการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่าน สามครั้งที่ "บะกีอฺ" โดยขออภัยโทษให้แก่ครอบครัวของท่าน เล่าโดย อัลบุคอรีย์ ในการยกมือทั้งสอง และเล่าโดย มุสลิมด้วย และขณะที่ท่านได้อ่านดำรัสของอัลลอฮฺตะอาลาที่มีความว่า "โอ้พระเจ้าแห่งข้าพระองค์ แท้จริงบรรดาเจว็ดนั้นได้ทำให้ประชาชนมากมายหลงผิด ครั้นผู้ใดตามข้าพระองค์ แท้จริงเขาก็เป็นพวกของข้าพระองค์และผู้ใดฝ่าฝืนข้าพระองค์ แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงกรุณาเสมอ" (14:36) โดยท่านกล่าวว่า "ข้าแต่อัลลอฮฺ อุมัตของข้าพระองค์ อุมัตของข้าพระองค์" (หมายถึงโปรดช่วยอุมัตของข้าพระองค์ด้วย) เล่าโดยมุสลิม และเมื่อท่านนบีได้ส่งกองทหารไป ซึ่งในกองทหารนั้นมีท่านอาลี รอฎิยัลลอฮุอันฮุอยู่ด้วย โดยท่านนบีกล่าว่า "ข้าแต่อัลลอฮฺ โปรดอย่าเพิ่งให้ข้าพระองค์เสียชีวิตเลย จนกว่าพระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์เห็นอาลีก่อน" เล่าโดยท่านอัตติรฺมีซีย์ และเมื่อท่านนบีได้ชุมนุมวงศ์วานของท่าน และได้โยนเสื้อคลุมไปบนพวกเขา โดยกล่าวว่า "ข้าแต่อัลลอฮฺ ! ชนเหล่านี้คือ วงศ์วานของข้าพระองค์" เล่าโดยท่านอัลฮากิม และอิมามนะวะวียได้รวมไว้ใน "ชัรฺฮุล มุฮัซซับ" ประมาณ 30 ฮะดิษในเรื่องนั้น (กรยกมือขณะขอดุอาอฺ) จากเศาะฮีหฺ อัลบุคอรีย์ และมุสลิม และจากตำราอื่น ๆ และสำหรับ ท่านอัล-มุนซิรีย์ มีเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการยกมือขอดุอาอฺ และผลสรุปที่ได้นั้นชอบให้ยกมือในทุก ๆ การขอดุอาอฺ นอกจากดุอาอฺซึ่งมาในสภาพที่ถูกจำกัดไว้กับส่งที่จำเป็นจะต้องไม่ยกมือ เช่น ดุอาอฺในรุกัวอฺ และสุยูด และอื่น ๆ อีก เป็นต้น

(จากหนังสือ "นุซุลุลอับรอฮฺ บินอิลมิลมะซูรฺ มินัลอัดอิยะฮฺ วัล-อัซการฺ หน้า 36")

คิดเห็นยังไงเกี่ยวกับข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นมั้งครับ ต้องการคำชี้แนะ จากผู้อ่านทุกท่านนะครับ

วัลลอฮุอะลัม
และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรู้ยิ่ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cavaso
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: Apr 17, 2004
ตอบ: 10


ตอบตอบ: Mon May 17, 2004 7:26 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

cavaso บันทึก:
บิสมิลลาฮิรฺเราะห์มานิรฺรอฮีม
อัสลามมูอะลัยกุมวาเราะห์มาตุลลอฮฺ วาบารอกาตุ


ถึงพี่นอ้งมุสลิมทุกท่านครับ ผมเล่นเน็ตไม่ค่อยบ่อยหรอก ติดภาระกิจการเรียนนะครับ แต่ก้อดีวันนี้สอบเสร็จแล้ว สำหรับหัวข้อที่ผม โพสต์ เป็นความสงสัยของผม และอยู่ในความสนใจของผมด้วย พอดีผมได้ไปค้นข้อมูลมานิดหน่อยหนะครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านวิทยากร คุณอัลฮุดา รวมถึงท่านผู้อ่านกระทู้ครับ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวข้อมูลนี้ครับ โปรดชี้นำด้วย เพื่อความรู้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของผมผู้นำเสนอ พี่น้องมุสลิมผู้อ่านด้วย ให้ดำเนินไปตามซุนนะห์ ของ รซูลลุลลอฮฺ ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ....

เป็นคำสรุปของนักปราชญ์คนสำคัญชาวอินเดีย เกี่ยวกับเรื่อง "การยกมือทั้งสองในการขอดุอาอฺ" นามว่า "อัล อัลลามะฮฺ ซัยยิดมุฮัมหมัด ศิดดิ๊ก คอน" ว่า
และผลสรุปที่ได้นั้น คือ การยกมือทั้งสองในการขอดุอาอฺ ไม่ว่าจะเป็นดุอาอฺใดๆ และในเวลาใด ๆ จะหลังละหมาดทั้งห้าเวลา หรืออื่น ๆ นั้น เป็นมารยาทชนิดหนึ่งจากบรรดามารยาทอันดียิ่งที่บรรดาฮะดิษทั้งที่มีข้อความไม่เฉพาะเจาะจง และที่มีข้อความเฉพาะเจาะจงบ่งถึงไว้ และการที่มิได้มีรายงานการยกมือในขณะขอดุอาอฮหลังละหมาดนั้นไม่ทำให้เสียหายแก่การมีมารยาทนี้แต่อย่างใด เพราะเป็นที่ทราบแก่เศาะฮาบะฮฺ ทุกคนแล้วดังนั้นพวกเขา (บรรดาสาวก) จึงมิได้สนใจที่จะกล่าวถึงในขณะนั้น และการที่ท่านอัล ฮาฟิซ อิบนุลกอยยิม เราะฮิมาฮุลลอฮฺ ได้ปฎิเสธการยกมือทั้งสองในการขอดุอาอฺ หลังละหมาดนั้นเป็นการเข้าใจผิด (ขออัลลอฮฺทรงให้สิ่งที่ซ่อนเร้นในใจของเขาบริสุทธิ์เถิด) แท้จริงปัญหานี้เราได้วิจัยไว้แล้วอย่างชัดเจนโดยไม่มีสิ่งใดปิดบังไว้อีกในตำหรับตำราต่าง ๆ ที่เราเขียนไว้ ท่าน อิมาม อัล-กอสเฎาะลานีย์ ได้กล่าวไว้ใน "อิรฺชาดิซซารีย์ ชะเราะอฺเศาะฮีฮุล บุคอรีย์" ว่าที่ถูกต้องนั้นคือ ชอบให้ยกมือในบรรดาดุอาอฺทั่ว ๆ ไป(ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น) เล่าโดย อัล บุคอรีย์ และมุสลิม และท่านอื่น ๆ

และฮะดิษของอนัส ในศ่อฮีหฺ อัลบุคอรีย์ และมุสลิมที่ว่า "ท่านนบีไม่ยกมือนอกจากในการขอฝนนั้น" ถูกตีความไปว่า ท่านบีไม่ยกมือทั้งสองของท่านอย่างถึงขึดสุด (นอกจากในการขอฝน) และการที่ท่านนบี ศอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยกมือทั้งสองของท่าน (ในขณะขอดุอาอฺ) นั้นมีปรากฏอยู่ในหลายที่ด้วยกัน เช่นการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่าน จนกระทั่งความขาวของรักแร้ทั้งสองของท่านถูกเห็น ขณะที่ท่านแต่งตั้ง อิบนุ อัล-ลุตบียะฮฺ ให้เป็นเจ้าหน้าที่เก็บซะกาต ดังที่ปรากฎอยู่ในศ่อฮีหฺทั้งสอง และการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่านอีกเช่นเดียวกันในเรื่องราวของ "คิอลิดุบนุลวะลีด" โดยกล่าว่า "ข้าแด่อัลลอฮฺ แท้จริงข้าพระองค์ขอปลีกตัวต่อพระองค์ให้พ้นจากส่งที่คอลิดกระทำ" เล่าโดย อัลบุคอรีย์ และ อัลนะซาอีย์ และการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่านบนภูเขาเศาะฟา เล่าโดย มุสลิม และอะบูดาวู๊ด และการที่ท่านยกมือทั้งสองของท่าน สามครั้งที่ "บะกีอฺ" โดยขออภัยโทษให้แก่ครอบครัวของท่าน เล่าโดย อัลบุคอรีย์ ในการยกมือทั้งสอง และเล่าโดย มุสลิมด้วย และขณะที่ท่านได้อ่านดำรัสของอัลลอฮฺตะอาลาที่มีความว่า "โอ้พระเจ้าแห่งข้าพระองค์ แท้จริงบรรดาเจว็ดนั้นได้ทำให้ประชาชนมากมายหลงผิด ครั้นผู้ใดตามข้าพระองค์ แท้จริงเขาก็เป็นพวกของข้าพระองค์และผู้ใดฝ่าฝืนข้าพระองค์ แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงกรุณาเสมอ" (14:36) โดยท่านกล่าวว่า "ข้าแต่อัลลอฮฺ อุมัตของข้าพระองค์ อุมัตของข้าพระองค์" (หมายถึงโปรดช่วยอุมัตของข้าพระองค์ด้วย) เล่าโดยมุสลิม และเมื่อท่านนบีได้ส่งกองทหารไป ซึ่งในกองทหารนั้นมีท่านอาลี รอฎิยัลลอฮุอันฮุอยู่ด้วย โดยท่านนบีกล่าว่า "ข้าแต่อัลลอฮฺ โปรดอย่าเพิ่งให้ข้าพระองค์เสียชีวิตเลย จนกว่าพระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์เห็นอาลีก่อน" เล่าโดยท่านอัตติรฺมีซีย์ และเมื่อท่านนบีได้ชุมนุมวงศ์วานของท่าน และได้โยนเสื้อคลุมไปบนพวกเขา โดยกล่าวว่า "ข้าแต่อัลลอฮฺ ! ชนเหล่านี้คือ วงศ์วานของข้าพระองค์" เล่าโดยท่านอัลฮากิม และอิมามนะวะวียได้รวมไว้ใน "ชัรฺฮุล มุฮัซซับ" ประมาณ 30 ฮะดิษในเรื่องนั้น (การยกมือขณะขอดุอาอฺ) จากเศาะฮีหฺ อัลบุคอรีย์ และมุสลิม และจากตำราอื่น ๆ และสำหรับ ท่านอัล-มุนซิรีย์ มีเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการยกมือขอดุอาอฺ และผลสรุปที่ได้นั้นชอบให้ยกมือในทุก ๆ การขอดุอาอฺ นอกจากดุอาอฺซึ่งมาในสภาพที่ถูกจำกัดไว้กับส่งที่จำเป็นจะต้องไม่ยกมือ เช่น ดุอาอฺในรุกัวอฺ และสุยูด และอื่น ๆ อีก เป็นต้น

(จากหนังสือ "นุซุลุลอับรอฮฺ บินอิลมิลมะซูรฺ มินัลอัดอิยะฮฺ วัล-อัซการฺ หน้า 36")

คิดเห็นยังไงเกี่ยวกับข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นมั้งครับ ต้องการคำชี้แนะ จากผู้อ่านทุกท่านนะครับ

วัลลอฮุอะลัม
และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรู้ยิ่ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ramzi
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 11/05/2004
ตอบ: 16


ตอบตอบ: Mon May 17, 2004 11:30 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามุอะลัยกุม

ผมได้อ่านกระทู้ของคุณ cavaso แล้ว ก็มีความรู้สึกชื่นชมที่เราได้มีการแลกเปลี่ยนความเข้าใจกัน ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่มาจากกิตาบุลลอฮ์และซุนนะห์ของท่านนบีมุฮำหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าซัลลัม ผมเคยได้ฟังในเรื่องนี้มาพอสมควรเหมือนกัน ก็มีหลากหลายทัศนะ และก็ยกหลักฐานมาเหมือนกัน ผู้รู้บางคนก็บอกว่า ที่ยกมือขอดุอาอฺนั้นเป็นที่อนุญาติให้กระทำได้เพราะมีหลักฐานมากมายดังที่ยกตัวอย่างมา แต่เท่าที่ผมอ่านมานั้นผมยังไม่เคยได้ฟังหรือเห็นใครเขียนหนังสือออกมาอย่างชัดเจน และที่ผมพอจะเข้าใจ ผิดถูกช่วยชี้แนะด้วยน่ะครับ มีตัวบทอย่างชัดเจนหรือไม่ว่ามีหลักฐานให้ยกมือขอดุอาอฺหลังละหมาดฟัรฎู มีแต่ละหมาดสุนัต แต่ผมไม่ปฏิเสธว่า มีหลักฐานในการยกมือขอดุอาอฺแต่ไม่ใช่หลังละหมาดฟัรฎู ผมไม่ได้มีความรู้สึกที่จะมาสร้างความแตกแยกแต่เพื่อที่ต้องการความเข้าใจ ดังนั้นผมคิดว่าถ้าจะทำก็น่าจะแยกออกมาหลังจากละหมาดฟัรฎเสร็จเรียบร้อย (ขึ้นอยู่กับการเหนียต) ขอผู้รู้ช่วยหรือท่านอื่น ๆ ช่วยชี้แจงด้วยครับ
ญะซากุมุ้ลลอฮุคอยร็อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
shaweb
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 31/12/2003
ตอบ: 31


ตอบตอบ: Mon May 17, 2004 1:32 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามมุอะลัยกุ้ม

ขอร่วมแจมด้วยคนนะครับ

ผมว่าเราน่าจะทำความเข้าใจกันก่อน ในเรื่องของดุอาอ์หลังละหมาดฟัรดูว่า

มีตัวบทให้ขอดุอาอ์หรือปล่าว จะขอหรือไม่ขอ...ถ้าไม่ขอก็ไม่ต้องพูดเรื่องยก

แต่ถ้าขอจะต้องยกมือหรือไม่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อัลฮุดา
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/03/2004
ตอบ: 44


ตอบตอบ: Mon May 17, 2004 8:03 pm    ชื่อกระทู้: ยกหรือไม่&#1567 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอลัยกุมวะเราะห์มาตุ้ลลอฮิวะบารอกาตุ
คุณ cavaso คะ

ดิฉันได้มีโอกาสค้นเทปเก่าๆ มาฟัง บังเอิญพบเทปที่ได้บันทึกการตอบคำถามของท่านอาจารย์ที่นี่ในรายการถามมาซิจะตอบให้ นานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ท่านอาจารย์ตอบคำถามคู่กับโฆษกร่างยักษ์ ดิฉันเห็นว่าเป็นเรื่องที่ตรงกับประเด็นกระทู้ของคุณพอดีเลย และยังแถมให้ในเรื่องของการลูบหน้าหลังการขอดุอาอด้วย จึงได้ถอดเทปดังกล่าวออกมาเป็นตัวหนังสือ แบบคำต่อคำ เกือบ 100% ไม่มีการตัดทอนหรือเสริมแต่งอันใดทั้งสิ้น เพื่อให้ได้อรรถรสเสมือนฟังจาหท่านอาจารย์โดยตรง โดยเฉพาะคำว่า "ตะนี้" ใครทีเป็นชาวอนุรักษ์ฯ โดยแท้ก็จะทราบดีว่า เป็นท่านอาจารย์ที่นี่ของแท้แน่นอน

************************************************
“ ถามเรื่องของการยกมือขอดุอาอ ถามว่าหลังละหมาดเสร็จต้องยกมือขอดุอาอไหม ?
ผมว่า คำถามอย่างนี้เป็นคำถามที่หมกเม็ดอยู่สักนิดนึง เพราะ ไม่ได้ถามว่าละหมาดแล้วจะต้องขอไหม ? แต่ถามว่า จะต้องยกมือไหม ? - ดุอาอ. เพราะหากว่า ขอ จะยกหรือไม่ยก เดี๋ยวค่อยเจียรนัย ถ้าไม่ขอ ไม่ต้องถามว่า จะยกไหม ? จะลูบหน้าไหม ? เพราะไม่ได้ขอ จะไปยกไปลูบทำไม

ประเด็นที่คุยกันคือ หลังละหมาดเสร็จแล้วต้องขอดุอาอไหม ?
เรื่องของการขอดุอาอหลังละหมาดเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นหลังละหมาดฟัรดูหรือละหมาดสุนัต มันไม่ใช่กฏกติกาว่า ต้องขอ มันไม่เป็นฮุก่มว่าวายิบต้องทำ ถ้าวายิบต้องทำ ถ้าไม่ทำถือว่ามีความผิด ถามว่า ในกรณีที่ทำการละหมาดฟัรดูเสร็จแล้ว จะขอดุอาอ ยกมือขอดุอาอ

พี่น้องครับ เวลาท่านนบีมูฮำหมัด ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ปฏิบัติไว้ให้เป็นรูปแบบก็คือ เวลาท่านนบีละหมาดฟัรดูเสร็จแล้ว ท่านจะสอนให้กล่าว วิริธ อัสตัฟรุลลอฮ 3 ครั้ง ว่าเรื่อยไป แล้วก็ซุบฮานัลลอฮ์ 33 อัลฮุมดุลิลลาฮ์ อย่างละ 33 - ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ อัลลอฮุอักบัร 33 ตรงนี้ เมื่อนบีละหมาดฟัรดูเสร็จแล้ว นบีสอนให้ทำตรงนี้ พอทำตรงนี้เสร็จแล้ว นบีก็ละหมาดสุนัต แล้วหลังจากที่นบีละหมาดสุนัตเสร็จแล้วเนี่ย มีตัวบทหลักฐาน นะ ว่านบียกมือขอดุอาอ

ตะนี้ ถามว่า หลังละหมาดฟัรดูเลยเนี่ย นบียกมือขอดุอาอไหม ? มีตัวบทหลักฐานไหม ? ตะนี้ ตัวบทหลักฐานมันไม่มีมายืนยัน ที่เป็นฮาดีสศอเฮียะ ว่าละหมาดฟัรดูเสร็จแล้วเนี่ย นบียกมือขอ ดุอาอเลย ตะนี้ ในกรณีที่มันไม่มีต้นแบบ ไม่มีรูปแบบอย่างนี้มาเนี่ย ปัญหาว่าเราจะทำอย่าง-ไร ??

สมมุติว่าเราละหมาดซุบฮิเสร็จแล้วเนี่ย เราจะไม่ทำวิริธแล้วละ นะ เพราะเราอาจจะรีบร้อน อาจจะเข้าห้องน้ำ อาจจะรีบร้อน จะไปธุระปะปัง แต่อยากจะขอดุอาอนิดนึงก่อน ทั้งๆ ที่มันไม่มีต้นแบบ รูปแบบจากท่านรซูล ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม แต่จะทำเพราะอันเนื่องมาจาก เราอาจจะมีเหตุที่อยากจะขอเป็นการเร่งด่วน หรือ อะไรก็แล้วแต่ นะ ถ้าในกรณีของการขอเป็นครั้งคราว มีเหตุ หรือการขอเป็นครั้งคราวอย่างนี้ มันไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าเราละหมาดฟัรดูเสร็จแล้ว ให้สลามและยกมือขึ้นขอดุอาอ และก็ทำเป็นประจำเนี่ย มันเหมือนกับเป็นการไปเอาสิ่งที่ท่านนบีสอนไว้เนี่ย เอาออก แล้วเอาของเราเข้าไปใส่ เพราะงั้นอิบนิตัยมียะห์ถึงบอกว่า เวลาละหมาดฟัรดูเสร็จแล้วเนี่ย แล้วก็ยกมือขอดุอาอ ทำอย่างนี้เป็นประจำ โดยเอาอย่างละ 33 เอา วิริธที่ท่านนบีสอนเนี่ยออกไป แล้วเอาดุอาอของเราตรงนี้เข้าไปใส่ อิบนิตัยมียะห์บอกว่า ถ้าทำอย่างนี้เป็นประจำเนี่ย เป็นการเติมศาสนาแล้วนะ เป็นบิดอะห์

ตะนี้ พอพูดเรื่องของหลังละหมาดฟัรดู มันไม่มีตัวบทหลักฐานว่า นบีทำ มีบางคนอาจจะกล่าวว่า หลังละหมาดฟัรดูเสร็จแล้วเนี่ย มีดุอาอ นะ แต่นบีไม่ได้ยกมือ ก็เลยเป็นการสับสนไป เอ๊ะ! จริงมั้ย ใช่มั้ย ???
คือ อย่างนี้ครับ อย่างละ 33 เนี่ย ตรงนี้เนื้อหาถ้อยความตรงนี้ก็คือ ดุอาอ แต่ตรงนี้เราเรียก ดุอาอที่มันเป็นวิริธ รูปแบบที่ท่านนบีมูฮำหมัด ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ทำไว้ ก็คือ ตรงนี้นะครับ อย่าไปพูดให้สับสน เดี๋ยวก็จะไปเข้าใจว่า แหมมีดุอาอ แต่ไม่ยกมือ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ไม่ใช่จะขออะไรก็ขอ แต่ไม่ยกมือ ไม่ใช่ อย่าไปเข้าใจผิด
ตะนี้ ถามว่า เมื่อจะขอดุอาอล่ะ แต่ในกรณีที่ไม่ได้ทำเป็นประจำนะ ถ้าจะทำประจำต้องไปโน่น ไปทำหลังละหมาดสุนัต

ในกรณีที่ขอดุอาอแล้ว ยกมือแล้ว ปัญหาว่า ขอเสร็จเนี่ย จะต้องเอามือลูบหน้าหรือเอามือลงเลย
มีตัวบทฮาดีสนะครับ ตัวบทฮาดีสที่เป็นฎออีฟ (ฎออีฟแปลว่า ฮาดีสที่สายรายงานอ่อน ) หลายต้นด้วยกันเกี่ยวกับเรื่องการลูบหน้าเมื่อขอดุอาอเสร็จแล้ว แต่ในขณะเดียวกันเนี่ย ถ้ามันมี ฎออีฟอย่างเดียวเนี่ย เราก็น่าจะต้องหยุด แต่มันไม่ได้มีฮาดีสฎออีฟทั้งหมด มันมีบางต้น บางส่วนที่เป็นฮาดีสระดับฮาซัน แปลว่า ฮาดีสที่อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ฮาดีสใช้ได้ เพราะฉะนั้น เมื่อขอดุอาอเสร็จแล้วจะลูบหน้า อันนี้ไม่มีปัญหานะ ไม่มีปัญหา ก็อาจจะมีบางคนที่ไปเจอตัวบทที่เป็นฎออีฟ แล้วก็ตัดสินโครมครามว่า เอ๊ะ ! ตัวบทหลักฐานมันไม่ชัดเจน แล้วก็จะทำกันไปทำไม แต่ตัวบทหลักฐานที่มันอยู่ในเกณฑ์ฮาซัน แปลว่า อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้เนี่ย มันมีอยู่ ครับ

เมื่อสักครู่นี้เนี่ย เราพูดถึงเวลาดุอาอเสร็จแล้ว ก็ลูบหน้า ที่บอกว่า มันมีตัวบทหลักฐานที่อยู่ใน ระดับฮาซัน ตะนี้ ถามว่า แล้วอย่างไม่ลูบหน้าล่ะ มันมีตัวบทหลักฐานที่เป็นศอเฮียะหรือเป็นฮาซันมายืนยันไหม ?? อันนี้ผมไม่เจอนะครับ ไอ้เรื่องที่ไปวิจารณ์ว่า นบีเอามือลงเฉยๆ ไม่เจอตัวบทหลักฐานที่นบีเอามือลงเฉยๆ ไม่เจอตัวบทหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นศอเฮียะ หรือ ฮาซัน หรือฎออีฟ แต่ที่วิเคราะห์วิจารณ์กันก็คือว่า มีฎออีฟ และมีฮาซัน

สิ่งที่หยิบไปเป็นประเด็นของการพิจารณากัน ก็คือว่า ดุอาอนี่ ก็คืออิบาดะห์ล่ะ - คือ ถ้านบีไม่ใช้ นบีไม่ให้ตัวอย่างไว้เนี่ย เราก็ต้องหยุด ก็หยิบไปพิจารณากันในประเด็นตรงนี้ ”

*****************************************************

ดิฉันหวังว่า สิ่งที่ดิฉันได้นำมาให้คุณได้อ่านนี้ คงจะสร้างความกระจ่างให้กับคุณได้มากนะคะ
วัสลาม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
maJnoon
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 24/01/2004
ตอบ: 27
ที่อยู่: ไม่..ที่บ้านก็มัสยิด..

ตอบตอบ: Mon May 17, 2004 11:50 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามุอลัยกุม

อัลฮัมดุลิ้ลลาห์..ขออัลลอฮฺตอบแทนความดีแก่คุณอัลฮุดา..ครับ

หลายครั้งที่นำเนื้อหาข้อมูลทางวิชาการมาเผยแผ่ให้หลายๆคนได้พินิจพิจารณา

และทำความเข้าใจกัน..ดีใจครับ..ที่เข้ามาเห็นบรรยากาศแบบนี้

Wink Wink Wink
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cavaso
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: Apr 17, 2004
ตอบ: 10


ตอบตอบ: Tue May 18, 2004 7:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

บิสมิลลาฮิรฺเราะห์มานิรฺรอฮีม
อัสลามมูอะลัยกุม วาเราะห์มาตุลลอฮฺ วาบารอกาตุ

ครับก้อดีมากเลยครับ ! ที่ทุกคนร่วมกันแสดงความคิดเห็นนะครับ แต่จากที่รับขอมูลมาจากทั้ง สามท่านนั้น ซึ่งได้แก่ คุณ ramzi คุณ shaweb และคุณอัลฮุดา ขอนำเสนอเพิ่มเติมถึงสิ่งที่คุณนำเสนมา ดังต่อไปนี้ครับ

หนึ่ง .... การที่คุณอัลฮุดา ได้กล่าวว่า“ ใครทีเป็นชาวอนุรักษ์ฯ โดยแท้ ... “ อยากทำความเข้าใจว่าการใช้คำของคุณนั้น ไม่ค่อยจะเหมาะนะครับ เปลี่ยนเป็นคำอื่นดีมั้ย ทำให้ผมมีความรู้ว่ามั้น ส่อไปทางการแบ่งพรรคแบ่งพวกครับ ดังคำตรัสของอัลลอฮฺที่ว่า “อินนะมัลมุมีนูวฺ นะอิควาต๊น” ความว่า “แท้จริงมุอฺมินทั้งผองนั้น เป็นพี่น้องกัน” และเราทุกคนก้อต้องการเป็นส่วนหนึ่ง “อะหฺลุซซุนนะห์ วัลญามาอะฮฺ” ใช่หรือไม่ หากผู้รู้ท่านใด สำนักคิดใด สมาคมใด นำมาซึ่ง กิตาบุลลอฮฺ และ ซุนนะห์ของท่านรซูล ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมแน่นอนจะไม่เป็นที่ ปฏิเสธซึ่งการรับฟังและเพื่อปฏิบัติตาม หาใช่ว่าจะนิยมเป็นการส่วนตัว ซึ่งผู้รู้ท่านนั้น แต่ที่รับฟังและก้อปฏิบัติตามเค้าก้อเพราะว่า เขานำมาซึ่ง กิตาบุลลอฮฺ และซุนนะห์ ที่ถูกต้อง ครับ !! เห็นด้วยมั้ยครับ งั้นจะไม่มีคำว่า “ชาวอนุรักษ์ฯ” หรืออย่างอื่นในทำนองนี้ แต่จะมีเพียงคำว่า “ชาวอะหฺลุซซุนนะห์” เท่านั้นครับ !!


สอง .... จากการนำเสนอของคุณ อัลฮุดานั้น หลังละหมาดฟัรฎูมีดุอาอฺที่เป็นวิวิธอย่างเดียวจริงหรือ แล้วหลังวิวิธหละ? และ สำหรับเมื่อมีการขอดุอาอฺนั้นการนำเสนอของคุณไม่มีการปฎิเสธยกมือขอดุอาอฺใช่หรือไม่? ขอนำเสนอฮาดิษซัก สอง บทครับสำหรับเรื่องนี้ !
1.ท่านอิมาม อัต-ติรฺมีซีย์ ได้บันทึกไว้จากรายงานของท่านอะบีอุมามะฮฺ ความว่า
“ได้ถูกยกขึ้นว่า ยารอซูลัลลอฮฺ! ดุอาอฺเวลาใดที่เป็นที่รับฟังยิ่งกวา ? หมายถึงอัลลอฮฺทรงรับมากกว่า ท่านได้กล่าวว่า ในตอนดึกของส่วนสุดท้ายของคือ และหลังละหมาดฟัรฺดู” ท่านอัตติรฺมีซีย์ ชี้ว่า เป็นฮะดิษฮะซัน
2.ท่านอิมามอะบูดาว๊ด อิมามอะหฺมัด อันนะซาอีย์ อิบนุฮิบบาน และอัลฮากีมได้บันทึกไว้จากรายงานของ ท่านมุอาซ อิบนิ ญะบัลว่า ความว่า
“แท้จริง รอซูลุลลอฮฺ ศอลลอลลอฮูอะลัยฮิวะซัลลัม ได้จับมือของมุอ๊าซ และกล่าวว่า “โอ้มุอ๊าซ ! ฉันของสาบานต่ออัลลอฮฺว่า แท้จริงฉันรักท่าน” แล้วท่านได้กล่าวว่า ฉันขอสั่งเสียแก่ท่าน โอ้มุอ๊าซว่า ท่านอย่าได้ละทิ้งเป็นอันขาด ในเวลาหลังของทุกๆ เวลาละหมาดที่ท่านจะกล่าวว่า “ข้าแต่อัลลอฮฺ “โปรดช่วยข้าพระองค์ในการกล่าวรำลึกถึงพระองค์ และกล่าวขอบคุณพระองค์ และการประกอบอิบาดะฮฺที่ดีงามต่อพระองค์ด้วย ” (อัลลอฮุมมะ อะอินนีอะลาซิกรีกะ วะชุกริกะ วะหุซนีอิบาดะติกะ) และมุอ๊าซได้สั่งเสียสิ่งนั้น (ดุอาอฺดังกล่าว) แก่อัศศุนาบิฮีย์ และศุนาบีฮีย์ก็ได้สั่งเสียแก่อะบาอับดุรฺเราฮฺมานอีต่อหนึ่ง”
อนึ่งท่าน ท่านอัศสุนาบีฮีย์ และท่านอับดุรฺเราฮฺมานทั้งสองนี้อยู่ในสายสืบของฮะดิสนี้ด้วย

จากฮะดิษที่ได้ทั้งสอง ที่ได้ยกมาดังกล่าวนั้น ทำให้เชื่อได้ว่าดุอาอฺหลังละหมาดฟัรฺดู นั้นเป็นซุนนะฮฺของท่านนบี ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จริง ๆ ซึ่งจาก ดุอาอฺในบทที่สองดังยกมา เป็นดุอาอฺที่ใช้กล่าวในหลังละหมาดทั่วไป ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของซุนนะฮฺของดุอาอฺที่เป็นวิวิธใช่หรือไม่ คิดเห็นประการใดครับ !


สาม.... สำหรับการนำเสนอของคุณ อัลฮุดา ความว่า ยกมือแล้ว ต้องลูบหน้าด้วยมั้ย หรือเอามือลงเฉย ๆ ผมขอนำเสนอในเรื่องนี้ ดังนี้ครับ
ผู้ที่บันทึกฮะดิษในเรื่องนี้มี ท่านอะบูดาวู๊ด อัต ติรฺมีซีย์ อิมามอะหมัด อัลมุนซีรีย์ และอัลฮากีม ซึ่งบรรดาผู้ที่บันทึกฮะดีษเหล่านี้มีทรรศนะแตกต่างกัน สามทรรศนะด้วยกัน
ก. มีผู้ที่ถือว่าเป็นฮะดีษเฏาะอีฟ อาทิเช่น อบูดาวู๊ด เนื่องจากในสายสืบของฮะดีษนี้มีบุคคลที่ไม่เป็นที่เชื่อถือ
ข. มีผู้ถือว่าเป็นฮะดิษฆาะรี๊บ อาทิเล่น อิมาม อัต ติรฺมีซีย์
ค. มีผู้ถือว่าเป็นฮะดีษฮะซัน คือฮะดิษที่ให้เป็นหลักฐานได้ อาทิเช่น อัลฮาฟิซ อิบนี ฮะญัรฺ อัล-อัสกอลานีย์ และท่านอัศ-ซ็อนอานีย์

ขอพิจารณาทรรศนะทั้งสาม และย่อมเห็นว่าทรรศนะที่ สาม เป็นทรรศนะควรแก่การรับฟังยิ่ง
1.ผู้ที่อธิบายฮะดีส อบูดาวู๊ดบางคน อาทิเช่น อัส ซุบกีย์ ท่านระบุไว้ในหนังสือของท่าน เล่มหนึ่งความว่า
“และฮะดิษนั้น(หมายถึง อะดีศอับดุลลอฮฺ อิบนิ อับบาส) แม้ว่าจะเป็นฮะดีสที่เฎาะดีฟก็ตาม แต่ทว่าได้มีฮะดีสหลายกระแสยืนยันและสนับสนุนให้เป็นฮะดีสที่แข็งแรง”

2.สำหรับฮะดีสอิมาม อัตติรฺมีซีย์ เกี่ยวกับการลูบหน้านั้น ท่านอมามอัตติรฺมีซีย์เองกล่าว่าเป็นหะดิสเฆาะรี๊บ มิใช่ฮะดิสเฎาะดีฟ ในประเด็นนี้ ท่านอัล-อัลลามะฮฺ มูฮัมหมัด ศิดดี๊ก บิน ฮะซัน คอน, อัลบุคอรีย์ และอัล เกาะนญีย์ ได้ให้ความกระจ่างในประเด็นนี้ความว่า
“ฉันกล่าวว่า แต่ทว่า อัลเฆาะรี๊บ นั้น อยู่ในประเภทฮะดีสเศาะฮีหฺ”
(ดูหนังสือ “นุซุลุล อับรอรฺ บิลอิลมิล มะซูรฺ มินัล อัดอิยะฮฺ วัล อัซการฺ”)

3. ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัรฺ ถือว่าฮะดีสเกี่ยวกับการลูบหน้านั้นเป็น ฮะดีส ฮะซัน ตามที่ท่านได้ระบุไว้ในหนังสือของท่านชื่อว่า “บุลูฆุลมะรอม” ฮะดิส ดังกล่าวความว่า
“จากรายงานของท่านอุมัรฺ ว่า รอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นเมื่อท่านได้ยื่นมือทั้งสองของท่านออกในการของดุอาอฺ ท่านมิได้ให้มือทั้งสองนั้นกลับมา จนกว่าท่านจะใช้มือทั้งสองนั้นลูบหน้าของท่านเสียก่อน” นำฮะดีสนี้ออกมา โดย อัตติรฺมีซีย์ และสำหรับฮะดีสนี้มีฮะดีสอีกหลายกระแสยืนยันซึ่งส่วนหนึ่งนั้นได้แก่ฮะดีสของ อิบนิ อับบาส รอฎิยัลลอฮูอันฮุ ซึ่งปรากฏอยู่ที่อบูดาวู๊ด และท่านอื่น ๆ บรรดฮะดีสที่ยืนยันทั้งหมดนั้น ฮะดิสนี้ (เกี่ยวกับการลูบหน้า) เป็นฮะดีสที่ ฮะซัน
และยังมีท่านอื่น ๆ อีก เช่น อิมาม อัศ ซ็อนอานีย์(ท่านเสียชีวิต ปี ฮ.ศ. 1182) ท่านได้ระบุไว้ในหนังสือของท่านชื่อว่า “สุบุลุสสะลาม”โดยนำฮาดิสจาก ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัรฺ มากล่าวเพิ่มเติมว่า “และในฮะดีสนี้มีหลักฐานชี้ถึงบทบัญญัติการลูบหน้าด้วยมือทั้งสอง หลังเสร็จจากการขอดุอาอฺ กล่าวกันว่าการลูบหน้านั้นเป็ฯการกระทำที่เหมาะสม ทั้งนี้ก็เพราะว่า เมื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ทรงให้มือทั้งสองกลับไปในสภาพว่างเปล่าแล้ว ก็ประหนึ่งว่าความเด็นดูเมตตานั้น หลั่งลงบนใบหน้า ซึ่งถือว่าเป็นอวัยวะที่ประเสริฐยิ่ง และเป็นอวัยวะที่สมควรยิ่งแก่การให้เกียรติ”
ต้นเหตุที่ทำให้เชื่อว่าสมควรลูบหน้าหลังจากเสร็จการขอดุอาอฺนั้นได้อาศัยฮาดิส ดังต่อไปนี้อีกคือ
สำหรับฮะดีสที่บันทึกโดย อิบนีมะญะฮฺ อิบนิ ฮิบบาน และอัล ฮากิม ท่านได้ชี้ว่าเป็นฮาดีษที่เศาะฮีหฺ ตามเงื่อนไข ของอัลบุคอรีย์ และมุสลิม จากฮะดีส ของ ซัลมาน รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริงพระเจ้าของพวกเจ้านั้นเป็นผู้ทรงละอาย ผู้ทรงใจบุญ พระองค์ทรงละอายบ่าวของพระองค์ -เมื่อเขายกมือทั้งสองไปยังพระองค์- ที่จะทรงให้มือทั้งสองนั้นกลับไป ในสภาพที่ว่างเปล่า”
และอัลฮากิมได้รายงานมาในทำนองเดียวกัน และกล่าวว่าสายสืบของรายนี้เศาะฮีหฺ จากฮะดีสของอนัส รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านรอซูล ศ็อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็ผู้ทรงเอ็นดูเมตา ผู้ทรงใจบุญ พระองค์ทรงละอายบ่าวของพระองค์ที่ยกมือทั้งสองของเขาไปยังพระองค์ แล้วพระองค์ไม่ทรงใส่ความดีใด้ๆในมือทั้งสองนั้น”

และยังมีท่านอื่นอีกที่เห็นด้วย ในเรื่องนี้
อัลฮะลีมีย์ (มีชีวิต ฮ.ศ.338-403)
อัล ฮาฟิซ อิบนี ฮะญัรฺ อัล อัสเกาะลานีย์ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ.852
สิ่งที่น่าสังเกต ก็คือ บรรดานักวิชาฮะดีสที่เห็นด้วยว่า ฮะดีสเกี่ยวกับการลูบหน้าเป็นฮะดีสฮะซัน และมีทรรศนะสนับสนุนให้ลูบหน้าเมื่อเสร็จการขอดุอาอฺ นั้น ล้วนแต่เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในวิชา “มุศเฏาะละฮุลฮะดีส” ทั้งสิ้น อันเป็ฯวิชาที่ว่าด้วยการพิจารณาเกี่ยวกับตัวบทฮะดีส สายสืบฮะดีส และฐานะของฮะดีส แฉพาะอย่างยิ่ง ท่าน อัล ฮาฟิซ อิบนี ฮะญัรฺ อัล อัสเกาะลานีย์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในหมู่นักวิชาฮะดีสว่า ท่านเป็น “อะมีรุลมุอฺมีนีน” ในวิชาฮะดีส อันถือเป็นตำแหน่งสูงสุดที่นักวิชาฮะดีสพึงได้รับ
(ดูหนังสือ อัล บาอิซุล ฮะซีซ วัรฮฺ อิคติซอรฺ อะลูมุลฮะดีส หน้า 154)

ขอจบการนำเสนอ ด้วยคำกล่าวของท่าน อุมัร อิบนุ อับดุลอะซีซ ที่ว่า

หากท่านมีความสามารถ ก็จงเป็นผู้รู้เถิด
หากท่านไม่สามารถ ก็จงเป็นผู้ศึกษาหาความรู้เถิด
หากท่านไม่สามารถ ก็จงรักบุคคลทั้งสองประเภทที่กล่าวมาแล้วเถิด
หากท่านไม่สามารถ ก็จงอย่าเกลียดพวกเขาเลย


วัลลอฮุอะลัม
และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้รู้ดียิ่ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
nes
มือเก่า
มือเก่า


เข้าร่วมเมื่อ: Mar 12, 2004
ตอบ: 80
ที่อยู่: bkk

ตอบตอบ: Wed May 19, 2004 2:58 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามมุอะลัยกุ้ม

ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนคุณอัลฮุดา และคุณ cavaso ครับ

ได้ความรู้มากเลย อยากให้มีกระทู้วิชาการอย่างนี้เยอะๆ

แต่ผมสงสัยอยากให้ทั้งสองท่านช่วยชี้แนะครับ

ถ้าเราไม่ขอหลังละหมาดฟัรดูก็ไม่ใช่ปัญหา

แต่ถ้าจะขอหลังฟัรดู ควรทำวิริดก่อนหรืออย่างไรครับ ยังงงๆอยู่
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อัลฮุดา
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/03/2004
ตอบ: 44


ตอบตอบ: Wed May 19, 2004 11:20 pm    ชื่อกระทู้: ยกหรือไม่&#1567 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามุอลัยกุมวะเราะห์มาตุ้ลลอฮฺวะบารอกาตุ
คุณ cavaso คะ

หนึ่ง
- ต้องขอขอบคุณในคำติติงนะคะ ความจริงที่ดิฉันใช้คำว่า " ชาวอนุรักษ์ฯ" ก็เพียงเพื่อการสื่อสารเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างสมาชิกที่ได้ยินได้ฟังการสอนของท่านอาจารย์อนุรักษ์ฯ เป็นประจำเท่านั้นละค่ะ มิได้เกี่ยวกับเนื้อหาสาระอะไรที่ต้องการจะนำเสนอหรอกค่ะ ตรงนี้ขอคุณ cavaso โปรดอย่าเครียด (ซีเรียสน่ะ) นะคะ เพราะถ้าจะใช้คำว่า " ชาวอะหลุลซุนนะหฆ์" ก็คงจะไม่เข้ากับเรื่องที่ดิฉันจะสื่อสารน่ะค่ะ มันกว้างไปค่ะ
แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องของศาสนา แน่นอนค่ะ ทุกคนก็ต้องการที่จะเป็นชาวอะหลุลซุนนะห์ด้วยกันทั้งนั้นละค่ะ และสำหรับดิฉัน ก็ไม่ปฏิเสธซึ่งการรับฟังและปฏิบัติตามในกิตาบุลลอฮ์และซุนนะห์ของท่านรซูล ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ที่ท่านผู้รู้ท่านใด สำนักใดนำมาหรอกค่ะ เพียงแต่ต้องพิจารณาเลือกสรรหน่อยว่า ใช่ของจริงของแท้หรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้มีการหมกเม็ดกันเยอะค่ะ คงไม่ผิดนะคะ ที่ดิฉันจะมีความนิยมในท่านผู้รู้ หรือสำนักหนึ่งสำนักใดที่ดิฉันเชื่อมั่นว่า ทำงานศาสนาเพื่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างแท้จริง และเอาสิ่งที่เป็นไปตามกิตาบุลลอฮ์และซุนนะห์มานำเสนออย่างชัดเจนตรงไปตรงมาด้วยความน่าสนใจและจูงใจให้ติดตามรับฟังอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ท่านอาจารย์ก็ได้สอนไว้เสมอว่า ท่านไม่ใช่มะซูม มีถูก มีผิด และไม่ได้รู้ไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งเราก็ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน

สอง
- ก่อนอื่นต้องขอเรียนให้ทราบก่อนนะคะว่า ดิฉันไม่ใช่ผู้รู้ ไม่ใช่ผู้เรียนสายศาสนา ไม่เคยเรียนภาษาอาหรับ หนังสือที่คุณอ้างถึงก็ไม่รู้จัก รู้จักแต่หนังสือภาษาไทยของผู้รู้และสำนักที่ดิฉันเชื่อถือเท่านั้น ความรู้ที่ได้อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการฟังท่านอาจารย์น่ะหล่ะค่ะ ฉะนั้นดิฉันจึงขอตอบจากความเข้าใจที่ดิฉันมีจากข้อมูลที่ท่านอาจารย์ได้ตอบไว้ ซึ่งดิฉันได้นำเสนอไปแล้วนะคะ ผิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
1. หลังละหมาดฟัรดูมีดุอาอที่เป็นวิริดอย่างเดียวเท่านั้น เพราะไม่มีหลักฐานที่ท่านนบียกมือ ด้วยเหตุที่ว่า เมื่อมีการขอดุอาอตามที่เราต้องการ ก็จะต้องยกมือขอดุอาอ
2. สำหรับฮาดีสที่คุณยกมาให้เห็นว่า ดุอาอหลังละหมาดฟัรดูเป็นดุอาอที่เป็นที่รับฟังยิ่งกว่า นั้น ก็น่าจะเป็นดุอาอวิริดนี่แหละค่ะ
3. ส่วนฮาดีสที่ให้กล่าว “ อัลลอฮุมมะ อะอินนีอะลาซิกริกะ วะชุกริกะ วะหุสนิ อิบาดะติกะ” นั้น ดิฉันก็คิดว่านี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของดุอาอวิริดเหมือนกันค่ะ เพราะเป็นถ้อยคำที่ท่านนบีสอนให้เราอ่าน

สรุปก็คือ

ดุอาอวิริด หรือที่ท่านอาจารย์เรียกวิริดอย่างเดียวนั้น ก็คือ สิ่งที่ท่านนบีมูฮำหมัด ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมปฎิบัติไว้ให้เป็นรูปแบบ คือ สิ่งที่ท่านนบีสอนให้กล่าวโดยเริ่มตั้งแต่
1. อ่าน “อัสตัฆฟิรุลลอฮ์” 3 ครั้ง
2. อ่าน “อัลลอฮุมมะอันตัสสะลาม วะมินกัสสะลาม ตะบาร็อกตะยาซัลญะลาลิ วัลอิกรอม”
3. อ่าน “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ วะห์ดะฮูลาชะรีกะละฮ์ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลหัมดุ วะฮุวะอะลากุลลิชัยอินเกาะดีร“ “อัลลอฮุมมะ ลามานิอะ ลิมาอะอฎ็อยตะ วะลามุอฎิยะ ลิมามะนะอตะ วะลายันฟะอุซัลญัด ดิ มินกัลญัดดุ“
4. อ่าน “ลาอิลาฮะ อิลบัลลอฮ์ วะห์ดะฮุลาชะรีกะละฮฺ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลหัมดุ วะฮุวะอะลากุลลิชัยอินเกาะดีร“ “ ลาเฮาละ วะลากูววะตะ อิลลาบิลลาฮ์ ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ วะลา นะอบุดุ อิลลาอียาฮุ ละฮุนนิอมะตุ วะละฮุลฟัฏลุ วะละฮุษษะนาอุลหะสัน“ “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ มุคลิศีนะละฮุดดีน วะเลากะริฮัลกาฟิรูน“
5. อ่าน “ ซุบฮานัลลอฮ์ “ 33 ครั้ง
6. อ่าน “ อัลฮัมดุลิลลาฮ์ “ 33 ครั้ง
7. อ่าน “ อัลลอฮุอักบัร “ 33 ครั้ง
8. อ่าน “ ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วะห์ดะฮูลาชะรีกะละฮ์ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลหัมดุ วะฮุวะอะลากุลลิชัยอินเกาะดีร “
9. อ่าน “ อัลลอฮุมมะ อะอินนีย์ อะลาซิกริกะ วะชุกริกะ วะหุสนิ อิบาดะติกะ “
10. อ่าน “ อัลลอฮุมมะอินนีย์ อะอูซุบิกะ มินัลบุคลิ วะอะอูซุบิกะ มินัลญุบนิ วะอะอูซุบิกะ อันอุ ร็อดดะ อิลา อัรซะลิลอุมุริ วะอะอูซุบิกะ มินฟิตนะติดดุนยา วะอะอูซุบิกะ มินอะซาบิลก็อบริ“
11. อ่าน อายะห์กุรซีย์
12. อ่าน ซูเราะห์อัล-อิคลาศ 1 ครั้ง (เฉพาะหลังละหมาดซุบฮิ และมักริบ ให้อ่าน 3 ครั้ง)
13. อ่าน ซูเราะห์อัล-ฟะลัก 1 ครั้ง (เฉพาะหลังละหมาดซุบฮิ และมักริบ ให้อ่าน 3 ครั้ง)
14. อ่าน ซูเราะห์อัน-นาส 1 ครั้ง (เฉพาะหลังละหมาดซุบฮิ และมักริบ ให้อ่าน 3 ครั้ง)
15. เฉพาะหลังละหมาดซุบฮิ และมักริบ ให้กล่าว “อัลลอฮุมมะ อะญิรนีย์ มินันนาร์ “
16. เฉพาะหลังละหมาดซุบฮิ และมักริบ ให้กล่าว “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ วะฮ์ดะฮูลาชะรีกะละฮ์ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลหัมดุ ยุหยีย์ วะยุมีต วะฮุวะอะลากุลลิชัยอินเกาะดีร “ 10 ครั้ง
17. อ่านดุอาอบทอื่นตามความประสงค์ของผู้ขอ แต่เป็นดุอาอตามรูปแบบที่ท่านนบีได้สอนไว้ เช่น “ อัลลอฮุมมัฆฟิรลี วะลิวาลิดัยยะ วัรฮัมฮุมา กะมาร็อบบะยานีซิ่ฆีรอ “ “ ร็อบบะนาอาตินาฟิดดุนยาฮะซะนะฮ์ วะฟิลอาคิเราะติฮะซะนะฮ์ วะกินาอะซาบันนาร “

(ที่มาตั้งแต่ข้อ 1-16 และ 17 บางส่วน : มุรีด ทิมะเสน. ดุอาอหลังละหมาดฟัรฏู. พฤษภาคม 2544. หน้า 6-17.)

ส่วนดุอาอทั่วไป คือ ดุอาอที่เราขอในสิ่งที่เราต้องการ จะขออะไรก็ขอ เป็นคำขอที่เราคิดเอง ขอเอง โดยไม่มีรูปแบบตามที่ท่านนบี ได้สอนไว้ ดุอาอเช่นนี้ ให้ยกมือ

ผิดถูกอย่างไร ขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ

ญะซากัลลอฮุฆ็อยร็อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อัลฮุดา
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/03/2004
ตอบ: 44


ตอบตอบ: Wed May 19, 2004 11:25 pm    ชื่อกระทู้: ยกหรือไม่&#1567 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสสลามุอลัยกุมวะเราะห์มาตุ้ลลอฮิวะบารอกาตุ

คุณ nes คะ

จริงๆ แล้วดิฉันก็สับสนเหมือนกันนะคะ กับคำว่า “ดุอาอ” และ “วิริด” ดิฉันไม่แน่ใจว่าวิริดครอบคลุมทั้งหมดตามที่ดิฉันได้นำมาเสนอไว้ข้างต้นหรือไม่นะคะ และคำว่า “วิริด” เป็นคำที่ดิฉันเพิ่งรู้จักจากท่านอาจารย์ไม่นาน เพราะผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะเรียกว่าดุอาอหลังละหมาดฟัรดูกันทั้งนั้น ดิฉันได้สรุปความเข้าใจของดิฉันไว้ข้างต้นแล้ว หากว่า สิ่งที่ดิฉันเข้าใจถูกต้องนะคะ ดิฉันก็พอจะให้คำตอบในสิ่งที่คุณ และตัวดิฉันเองก็สงสัย ได้

จากการพิจารณาสิ่งที่ท่านอาจารย์ได้อธิบายไว้ ก็คือ นบีไม่ได้ยกมือหลังละหมาดฟัรดู แต่การขอ ดุอาอ(ทั่วไป)ตามที่เราต้องการ ต้องยกมือ ฉะนั้น เมื่อนบีไม่ได้ยกมือหลังละหมาดฟัรดู นั่นย่อมแสดงว่านบีไม่ได้ขอดุอาอ(ทั่วไป) หลังละหมาดฟัรดู เมื่อการเอาวิริดที่นบีสอนออก แล้วเอาดุอาอของเราเข้าไปใส่แทน เป็นบิดอะห์ การที่ ไม่ได้เอาวิริดออก แต่เอาดุอาอของเราเข้าไปใส่เพิ่มด้วย ก็น่าที่จะเป็นบิดอะห์ด้วยเช่นกัน เพราะต่างก็ไม่ใช่รูปแบบที่ท่านนบีสอนไว้ พร้อมนี้ก็ขอนำสิ่งที่ท่านอาจารย์ได้พูดไว้ คือ “ถ้านบีไม่ใช้ นบีไม่ให้ตัวอย่างไว้ เราก็ต้องหยุด” มาเป็นประเด็นให้พิจารณาด้วยค่ะ

ผิดถูกอย่างไร ขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
ญะซากัลลอฮุฆ็อยร็อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
อัลฮุดา
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 16/03/2004
ตอบ: 44


ตอบตอบ: Fri May 28, 2004 10:23 pm    ชื่อกระทู้: ยกหรือไม่&#1567 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อัสลามุอะลัยกุมวะเราะห์มาตุ้ลลอฮิวะบารอกาตุ

เรียน ท่านวิทยากร คะ

ไม่มีใครตอบให้ดิฉันทราบเลยว่า ที่ดิฉันเข้าใจว่า "วิริด" ครอบคลุมทั้ง 17 ข้อข้างต้นถูกหรือผิดอย่างไร และถ้าจะเรียก"วิริด" ว่า "ดุอาอหลังละหมาดฟัรดู" จะได้หรือไม่

คงต้องขอรบกวนท่านวิทยากรช่วยตอบให้หน่อยนะคะ นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

ญะซากัลลอฮุฆ็อยร็อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> ปัญหาศาสนา ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.22 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ