ยินดีต้อนรับสู่ Moradokislam.org!
Homeหน้าแรก     Forumsกระดานข่าว     Your Accountสำหรับสมาชิก     Downloadsดาวน์โหลด     Submit Newsเผยแพร่ข่าวสาร     Topicsหัวข้อเรื่อง     Select Thai LangaugeThai Langauge   
อนุรักษ์มรดกอิสลาม :: ดูกระทู้ - ชนิดของความรัก
อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก อนุรักษ์มรดกอิสลาม  
  เพื่อการอนุรักษ์มรดกอิสลาม      คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว      ค้นหา      รายนามสมาชิก  
  · เข้าระบบ ข้อมูลส่วนตัว · เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ · กลุ่มผู้ใช้งาน  
ชนิดของความรัก
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> เกี่ยวกับมุสลิมะห์
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
u
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 114


ตอบตอบ: Wed Jun 28, 2006 4:30 pm    ชื่อกระทู้: ชนิดของความรัก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ชนิดของความรัก
โดย อัลลามะฮฺ อิบนุ กอยยิม อัล เญาซียะฮฺ



ความรักมีอยู่ 4 แบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องให้แยกแยะให้เห็นความแตกต่างระหว่างมัน และได้มีผู้ที่หลงทางเพราะว่าพวกเขาไม่อาจแยกแยะมันออกจากกันให้เห็นชัดได้


ความรักแบบแรก คือ รักอัลลอฮฺ แต่ความรักนี้เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะช่วยให้บุคคลนั้นรอดพ้นจากการลงโทษของอัลเลาะฮฺ และจะได้รับรางวัลจากพระองค์ พวกมุชริกีน ผู้บูชาไม่กางเขน ยิว หรือกลุ่มอื่นๆ ทั้งหมดนั้นก็รักอัลเลาะฮฺทั้งสิ้น


ความรักแบบที่สอง คือ รักสิ่งที่อัลลอฮฺรัก นี่คือสิ่งที่นำบุคคลนั้นมาสู่อิสลามและออกจากการเป็นกุฟรฺ กลุ่มชนซึ่งเป็นที่รักที่สุดของอัลเลาะฮฺคือกลุ่มชนผู้ซึ่งขัดเกลาตนเองที่สุดและอุทิศตัวที่สุดในความรักแบบนี้




ความรักแบบที่สาม คือ รักเพื่ออัลลอฮฺ ซึ่งเป็นแก่นอย่างหนึ่งของความรักในสิ่งที่อัลลอฮฺรัก ดังนั้น ความรักของคนๆหนึ่งต่อสิ่งที่อัลลอฮฺรักจะไม่สมบูรณ์จนกว่าเขาจะรักเพื่ออัลเลาะฮฺด้วย


ความรักแบบที่สี่ คือ รักบางสิ่งเคียงคู่ไปกับอัลลอฮฺ ความรักนี้จะนำไปสู่การกระทำพร้อมมีชิรกฺ(การตั้งภาคี) ทุกคนที่รักสิ่งอื่นเคียงคู่กับอัลลอฮฺแต่ไม่ได้รักเพื่ออัลลอฮฺนั้น ถือว่าได้นำสิ่งนั้นมาเป็นเทียบเคียงคู่กับอัลลอฮฺ นี่เป็นความรักของพวกมุชริกีน






--------------------------------------------------------------------------------

เพราะฉะนั้นจะรักใครก็แล้วแต่... โปรดพิจารณาดูก่อนครับ
ว่าเขาคนนั้น... เป็นที่รักของอัลลอฮฺหรือไม่?


(อันล่างนี้ผมเพิ่มเติมครับ อิหม่ามอิบนุกอยยิมไม่ได้พูด)

_________________
http://spaces.msn.com/members/unussorn/
............................................
i love islam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Thu Jun 29, 2006 10:23 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

ผมอ่านเรื่อง การแยกแยะ ชนิดของความรัก โดย อัลลามะฮฺ อิบนุ กอยยิม อัล เญาซียะฮฺ ที่คุณ U ยกตัวอย่างมาอธิบายแล้ว ก็ เข้า ใจได้ทันที ว่า คุณ มีความสับสน ในเรื่อง ความศรัทธา ต่อพระผู้เป็นเจ้า “อัลลอฮ์” กับ ความรัก ตาม ความ รู้สึก ของมนุษย์ ธรรมดา ที่มีความรู้สึกในความรัก ตาม ที่พระเจ้าทรง ประทาน ให้ ไว้ ใน จิตใจของ มนุษย์ ทุกๆ ท่าน ไม่ว่า จะ เป็น มุสลิม หรือ ผู้ที่ไม่ ใช่ มุสลิม ก็ตาม,

ความรักไม่ใช่หลัก อากีดะห์ ของอิสสลาม:

หลัก อากีดะห์ ของอิสสลาม อาจจะ อธิบายกันอย่าง ง่ายๆ เพื่อ ให้ บุคคล ธรรมดา เข้า ใจได้ ก็คือ “เชื่อในความ เป็นเอกพระองค์เดียว ของพระเจ้า “อัลลอฮ์”(เชื่อ ในอัลกุรอาน), ยอมรับและเชื่อ ฟัง รอซูล ของอัลลอฮ์ ทุกๆท่าน รวมทั้ง ท่าน รอซูลมูฮัมมัด ผู้ซึ่งเป็นศาสนทูตท่านสุดท้าย, และต้องไม่หลงเชื่อใน นิทาน ยาย กะตา หรือ ชาดกที่เกี่ยว กับ “อิสลาม”

หลักอากีดะห์ ของอิสลาม ไม่ได้ สอน ให้ บุคคลรัก พระเจ้า โดยมีความรู้สึก เช่นเดียว กับ ที่ เรา รัก ลูกรักเมียเรา หรือ รัก คู่รัก ความรักเช่นนี้ เป็นความรัก ที่เกิดจาก ความสัมพันธ์ ทาง ประสาทสัมผัส ทั้ง 5 ของ มนุษย์ เป็นความ รัก ที่ อยู่ใต้อำนาจแห่งการควบคุม ด้วยจิตใจของมนุษย์, แต่ความศรัทธาต่อพระเจ้านั้น เรายอมจำนนและ สวามิภักดิ์ ทั้ง ร่างกาย จิตใจ ต่อพระประสงค์ของพระเจ้า ซึ่ง มีความลึกซึ้ง ทางมโนธรรม มากกว่า ความ รักและการ เชื่อฟังคำสั่งของ มนุษย์ ธรรมดา ถ้าเมื่อใดก็ตาม เราเอาความรักตามความรู้สึกของมนุษย์ มาปะปน กับหลัก อากีดะห์ แล้ว เราจะเดินหลงทางไปจาก ทางของพระองค์อัลลอฮ์ ดังตัวอย่างที่ จะยกมาให้เห็น ต่อไปนี้

ตัวอย่าง ..

ในอัลกุรอาน บัญญัติ ไว้ ให้ เรา จง รัก และ เชื่อ ฟัง ท่าน รอซูล ถ้าเรา รักท่านรอซูล (ตามความรักของ มนุษย์ ด้วยความรู้สึก จาก ประสาทสัมผัสทั้ง 5 แล้ว) เคียงคู่ไปกับอัลลอฮ์ ก็จะตรง กับความรัก ใน แบบที่สี่ ของ อัลลามะฮฺ อิบนุ กอยยิม อัล เญาซียะฮฺ คือ รักบางสิ่งเคียงคู่ไปกับอัลลอฮฺ ความรักนี้จะนำไปสู่ การ กระ ทำ ที่เป็น “ชิรกฺ” (การตั้งภาคี) ทุกคนที่รักสิ่งอื่นเคียงคู่กับอัลลอฮฺแต่ไม่ได้รักเพื่ออัลลอฮฺนั้น ถือว่าได้ นำสิ่งนั้นมา เป็นเทียบเคียงคู่กับอัลลอฮฺ นี่เป็นความรักของพวกมุชริกีน,

ความรักเช่นที่กล่าวมานี้ คือ ความรักที่ ชาวคริสเตียน มี ต่อ ท่าน นะบี อีซา ซึ่งในที่สุด ก็กลาย เป็นการ สร้าง ภาคีขึ้นมา จนได้ อย่างที่เรา เห็น กัน อยู่ ในปัจจุบันนี้ (จากคำจำกัดความของ อัลลามะฮฺ อิบนุ กอยยิม อัล เญาซียะฮฺ )

เราจะเห็นว่า ความรักที่เรามีต่อท่าน รอซูล นั้น จะ เป็น ความรักชนิดเดียวกับ ความศรัทธา ที่เรา มีต่อพระองค์อัลลอฮ์ “ไม่ได้อย่างเด็ดขาด” ถ้า คุณจะค้าน ว่า เราสามารถที่จะรักท่านรอซูล คู่เคียง ไปกับอัลลอฮ์ ได้เพราะ ว่า เรา รัก ท่าน รอซูล เพื่ออัลลอฮฺ, พระองค์อัลลอฮ์ มีบัญญัติไว้ว่า ให้ รัก และ เชื่อฟัง ท่าน รอซูล

ถ้า เป็น เช่นนั้นแล้ว มุสลิมก็ สามารถที่จะกราบไหว้บูชาท่านรอซูลได้ เท่าเทียม กับ อัลลอฮ์ หรือกล่าว นามของ รอซูล ในขณะทำการละหมาด ได้กระนั้น หรือ? คุณ U ทราบได้ เป็นอย่างดีว่า มุสลิมจะกระทำ เช่นนี้ ไม่ได้

ด้วยเหตุผลนี้ เราจึง อาจจะกล่าวได้ว่า ความรักที่มีต่อมนุษย์ด้วยกันนั้น เป็นความรักคนละชนิด ที่เรา จะต้องมีต่อ พระองค์อัลลอฮ์นั้น ก็คือ “ความศรัทธา” ซึ่งต่าง จาก ความรักระหว่างมนุษย์ ด้วย กัน

คุณ U จะต้อง เข้าใจว่า พระองค์อัลลอฮ์ รวมทั้ง พระนามต่างๆ ของพระองค์นั้น ถูกกล่าวไว้ ใน อัลกุรอาน ในรูป ของอาการนาม ซึ่งเราไม่สามารถจะ ทราบว่าพระองค์มี ลักษณะหรือ รูปร่างเช่น ใด แต่เราทราบ คุณลักษณะ ของ พระองค์ได้ จาก คุณานุภาพ 99 ประการของพระองค์ หรือ อัล-อัสมาอุล ฮุสนะ, การแสดงความรัก “ต่ออิสลาม” ซึ่งเป็น ศาสนาที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงประทานมา เราสามารถจะแสดง ออกมา ได้ โดยการช่วยกัย เผยแพร่ ให้ สังคมต่างๆ เกิดความเข้าใจ ในอิสลาม และมีความเลื่อม ใส ศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์

การรักเพื่ออัลลอฮ์ คืออะไร?

การรักเพื่ออัลลออ์ คือ การ รัก ในสิ่งที่ พระองค์อัลลอฮ์ ทรงประทาน ให้ แก่ มนุษย์ชาติ คือ “อิสลาม” ในขณะที่ เรามีศาสนา อิสลามอยู่ ในความศรัทธา ของ เรา แล้ว, เราก็ไม่อาจจะ เข้าร่วม พิธีกรรม กับศาสนาอื่นได้ คือหมาย ความว่า เราจะไปรักศาสนาอื่น และยอมรับเข้ามา ในหัวใจ เรา ในขณะที่เรานับถือศาสนาอิสลาม ไม่ได้

การจงรักภักดีต่อบุคคล ที่เป็น ผู้ นำของ ประเทศ เช่น คอลีฟะห์ หรือ ต่อ พระมหากษัตริย์ ประมุขของประเทศ เป็นการกระทำที่ อยู่ ภายใต้หลักการ ของอิสลาม ทั้งนี้ เพราะ ว่า ไม่เกี่ยว กับ หลัก อากีดะห์, ถึงแม้ว่า คอลีฟะห์ خليفة จะหมายถึง มุสลิม อุมมะห์ เราก็ ให้ความรัก อย่างมนุษย์ เท่านั้น ไม่อาจจะ ให้ความจงรักภักดื เทียบเท่าพระเจ้าได้

การที่ไทยมุสลิมเรา มีความรัก หรือแสดง ความรักต่อ พระมหากษัตริย์ ผู้ซึ่ง เป็นประมุข ของประเทศไทย ไม่ได้ ทำ ให้ ความ ศรัทธา ต่อ ศาสนาอิสลาม ของ มุสลิม เสื่อม คลายไป ทั้งนี้ เพราะว่า ความรัก ทั้งสองอย่างต่างกันมาก "มันคนละเรื่องกัน" สำหรับ ศาสนา เราเรียก ว่า ความศรัทธา ต่อพระเจ้า

ความมีศรัทธาต่อพระเจ้า เป็นเรื่องของจิตใจ และเป็นเรื่องส่วนบุคคล สำหรับศาสนาอิสลาม ความศรัทธา เป็นเรื่อง ส่วน ตัว ระหว่าง พระองค์ อัลลอฮ์ กับ มุสลิมแต่ละคน เราไม่อาจจะหลอกลวงพระเจ้าได้ พระองค์ทรงทราบว่า เรา ศรัทธา ต่อหลักการ ของพระองค์ มากน้อย เท่าไร? การปฏิบัติ ในชีวิตประจำวันของเรา ในสังคม, และ การ ปฏิบัติศาสนกิจ ไม่ว่า เรา จะแสดง ต่อ หน้า ผู้อื่น อย่างไร? เราไม่อาจ จะ ซ่อนเร้นความจริงใจของเรา จากพระเจ้าได้ ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป้นที่จะต้อง ป่าวประกาศ ว่า “เรารักอิสลามหรือ อัลลอฮ์”

เป็นหน้าที่ของมุสลิมไทยทุกๆท่าน ที่กำเนิด บนผืนแผ่น ดินไทย จะต้องแสดง ให้เห็น ว่าเรามี ความจงรักภักดี ต่อ ประมุข ของประเทศ คือ องค์พระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ เพราะว่า พระองค์ ไม่สามารถ จะล่วงรู้ ในจิตใจ ของ พสกนิกร ของพระองค์ ได้

การแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ เป็นหน้าที่ของ คนไทยทุกๆคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดๆ ก็ตาม ทั้งนี้เพราะว่า การจง รัก ภัก ดี ต่อ ประมุขของประเทศชาติ ต่าง จาก การ เคารพบูชาพระเจ้า, องค์พระมหากษัตริย์ ของไทยเรา ท่านทรงมี พระปรีชาญาณ ที่จะทรง เข้าใจ หลักการ ของศาสนาต่างๆ ซึ่ง พระองค์ ทรงอุปถัมป์ ด้วยเหตุนี้ พระองค์ทรง แต่งตั้ง ตำแหน่ง จุฬาราขมณตรีขึ้นมาเพื่อดูแลบริหารงานทางศาสนาอิสลามแทนพระองค์, ในประเทศไทยเรา ตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ไม่ใช่ตำแหน่ง ทาง ศาสนา เช่นเดียว กับ ตำแหน่ง สังฆราช แต่เป็น ตำแหน่ง ที่ปรึกษาทางศาสนา อิสลาม

ท่านจุฬาราชมนตรี จะต้องทำหน้าที่ บังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยเรา ถึงหลัก “อากีดะห์” ของ อิสลาม เพื่อ ให้พระองค์ทรงทราบ ว่า ในการแสดงความจงรักภักดิ์ ต่อ องค์พระมหากษัติย์ไทย นั้น หลักการ ของ ศาสนา อิสลาม มีข้อกำหนดอย่างไร เพื่อป้องกัน การเข้าใจผิด ที่จะนำไปสู่ การ เข้า ใจว่า หมิ่น พระบรมเดชานุ ภาพ ต่อองค์ พระมหากษัตริย์, ในบางกรณีบางโอกาศ มุสลิม ไม่อาจจะ เข้าร่วม ใน ราชพิธี กรรม ที่ขัดกับ หลักการ ของอิสลาม ได้ สิ่งเหล่านี้ เป็นหน้าที่ของ สำนักจุฬาราชมนตรี จะต้อง ทำการสื่อสารกับสำนักพระราชวัง ให้ เป็นที่โปร่งใส


ไทยมุสลิมต้องแสดงความ เป็น เจ้าของประเทศ จะต้องจงรักภักดีต่อ พระมหากษัตริย์ ของไทยเรา ภาย ในกรอบ กำหนด ของ “หลักอากีดะห์” การสวมใส่เสื้อ สีเหลือง เพื่อแสดงความพร้อมเพรียง ในความจงรักภักดี ต่อ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ของไทยเรา ไม่มีอะไรขัดต่อ หลักการของอิสลาม, เสื้อสีเหลือง ไม่ใช่ “ชีวร” พระสงฆ์ หรือ เมื่อใส่แล้ว จะทำให้เรา กลาย เป็น พระสงฆ์ หรือ อยู่ใต้ หลักการ ของ พุทธศาสนา ถ้า สีเหลือง เป็น สีต้อง ห้าม ของ มุสลิม แล้ว สีอะไรจึงเป็นสี ที่อิสลาม ไม่ห้าม, ถ้า มุสลิม เช่นคุณ U ไม่ส บายใจ ในการสวมใส่เสื้อ สีเหลือง คุณ ก็อาจจะติด ป้าย บนเสื้อ สีอื่น หรือ ที่ท้ายรถ ของคุณ ว่า “มุสลิมไทยรักในหลวงของเรา”

ในทัศนะของผม “องค์พระมหากษัตริย์ ไทยเรา พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อ ประชาชนชาว ไทยมุสลิม เป็นอย่างมาก บางครั้ง มากกว่าพสกนิกรในศาสนาอื่นๆ ที่อยู่ ในสังคมไทยเสียอีก

คุณลองคิดดู ถ้าประเทศไทย เรา ไม่ มี องค์ พระมหากษัตริย์ เป็นประมุข เป็น ที่ รวม ใจ ของ พสกนิกร ทั้งประเทศ และ ทรงมี พระบารมี ซึ่ง เป็นที่ยำเกรง แล้ว ไทยมุสลิมอาจจะ ไม่มีความสงบสุข เช่นนี้ คุณเชื่อไหม?


“มุสลิมไทยรักในหลวงของเรา”


wassalam


แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
u
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 24/12/2003
ตอบ: 114


ตอบตอบ: Thu Jun 29, 2006 8:54 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Rolling Eyes


lovenabee1.jpg
 คำจำกัดความ:
 ขนาดไฟล์:  31.41 กิโลไบต์
 เข้าชม:  18144 ครั้ง

lovenabee1.jpg



_________________
http://spaces.msn.com/members/unussorn/
............................................
i love islam
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Fri Jun 30, 2006 10:08 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

ผมรู้สึกพากพูมใจ ที่เห็น มุสลิม เช่น คุณ U มีความรักต่อศาสนา อิสลาม อย่าง แท้จริง, ถ้าจำไม่ผิด คุณ U คงอาศัยอยู่ ใน สหรัฐอเมริกา แต่ไม่ว่า จะอยู่ที่ใดก็ตาม ผม อยากจะเล่า ว่า เมื่อสอง สามวัน ที่ผ่าน มานี้ สภาสูง ของสหรัฐ ได้ ออกเสียง คัดค้าน กฎหมาย ในการ ลงโทษ ผู้ ที่มีการกระ ทำ ดูหมิ่น “ธงชาติอเมริกัน” โดยถือว่า ผิดกฎหมาย อาญา และเป็น อาชกร

การคัดค้านก็เป็น ผลสำเร็จ และอเมริกัน ส่วนใหญ่ เห็นด้วย ในการ ล้มร่างกฏหมายเช่นนั้น ทั้งนี้เพราะว่า “ธงชาติอเมริกัน” มีความสำคัญ เพียงเป็น เครื่องหมาย ของประเทศเท่านั้น และร่างกฏหมายนั้นขัด รัฐธรรมนูญ สูงสุด ของอเมริกา ในเรื่อง สิทธิในการแสดง ความเห็นและรู้สึก ของบุคคล และ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้อง กับศาสนาหรือความศรัทธาของ ชาวอเมริกัน ถึงแม้ว่า มีพวก พระทางคริสต์ จะสนับสนุนกฏหมายนี้อย่าง มากมายก็ตาม ดังนั้น ใครจะ เอาธงชาติ อเมริกัน เผา, เหยียบย่ำ, เอามาตัดเป็น เครื่องนุ่งห่ม ก็ไม่มีการลงโทษ เพราะถือว่า เป็นการ แสดง ออก ของบุคคล เป็น สิทธิ ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ (Freedom of Speech)

เราจะเห็นว่า แต่ละประเทศมีการ กำหนดความสำคัญของสัญญาลักษณ์ ของประเทศ แตกต่าง กัน ออก ไป, เช่น ธงชาติของ ประเทศ ซาดุอารเบีย มีสีเขียว และมี อักษรภาษาอรับ จาลึกไว้บนผืนธงว่า “อัชชะดุอันลาอิลาฮะอิลลัลลออ์ วะอัชชะดุอันนะมูฮัม มะดันลอซูล ลุลลออ์” และมีรูปดาบ อยู่ข้างใต้ชะฮาดะห์, ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลซาอุ จึง ออกกฎ ห้าม มีการ ลดธง ครึ่งเสา, ห้าม การลด เสาธง หรือปลายธงลงต่ำ เวลา สวนสนาม ในรูป เดินเฉียง หรือใช้ผืนธงในการ ประกอบในการผลิตสิน ค้า ในรูปแบบ ต่างๆ นั้นก็คือ ถือว่า ธงนั้น เป็น “สิ่งศักสิทธิ” ของชาติ ทั้งนี้เพราะว่า มีชื่อ อัลลอฮ์ และชื่อ ท่านนะบี อยู่บนผืนธง

เสื้อ T-Shirt ที่ คุณ U ออกแบบก็เข้า ท่าดี ดูสวยงาม และ มี ชื่อ ท่าน นะบี “ มูฮัมมัด” ประดับไว้ เมื่อใส่แล้ว มุสลิมเช่น คุณ U จะมีความพากพูมใจ และชื่นชม, เมื่อ มัน สกปรก หรือ เก่า แล้ว คุณจำเป็น จะต้อง ซัก หรือ ไม่ ก็ โยนทิ้งไป, ถ้าคุณเอาไป ซัก ใส่ไป ในเครื่อง ซักผ้า ปนไปกับ กางเกงใน, และชุดขั้น ในของ ภรรยา หรือ ของ ผู้ใดก็ตาม (ในกรณีที่นำไป จ้างซัก), หรือนำไปใช้ เพื่อเป็น ผ้าขี้ริ้ว หรือ ผ้าเช็ดรถ หรือ ผ้าเช็ดเท้า หน้าประตูเข้าบ้าน, คุณจะทำเช่นนั้น ได้หรือไม่?

ถ้าคุณทำได้ โดยไม่มีความรู้สึก กระดากใจ หรือ คิดว่า เสื้อ ตัวนี้ ไม่สมควร จะ นำไปอยู่หรือ ใช้ ในที่ตกต่ำ แล้ว โดยคิดว่า มันเป็น เพียงผ้าชิ้น หนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่มีความหมาย หรือ เป็นสัญญาลักษณ์ ทางศาสนาอิสลาม แล้ว ก็คงไม่มีอะไรที่ จะ ต้องเกรงกลัว ในเรื่องผิดหลัก “อากีดะห์ ของอิสลาม

แต่ถ้าเมื่อใดก็ตาม ถ้าคุณ ไม่อาจจะ ตัดความรู้สึก ว่า เสื้อนี้ มี “ชื่อของท่านรอซูล” อยู่ ไม่สมควร ที่ จะ ปฎิบัติต่อ เสื้อตัวนี้ เช่น นั้น ต้อง ยกย่อง และ ถือว่า “T-Shirt” ตัวนี้ เป็นของสูง สมควรจะ จัดไว้ในที่สูง ทั้งนี้ เพราะ มี “ชื่อของท่านรอซูล” อยู่ ผู้ซึ่งเป็น ศาสดาที่สำคัญ ของ ศาสนาอิสลาม และ เป็น ผู้ที่พระองค์อัลลออ์ ทรงรัก และแต่ง ตั้ง ให้เป็น รอซูล ของท่าน นั้นก็คือ คุณ ยกระดับ เสื้อ ตัวนี้ ว่า เป็น ส่วน หนึ่ง ของ ศาสนาอิสลาม เช่น เดียว กับ ชาว ซาอุ ยกย่อง “ธงชาติของซาอุดิอารเบีย

ทีนี้เราลองมาดู การสร้างพระพุทธรูปบ้าง การสร้าง พระพุทธรูป องค์ ใหญ่ ช่างเขาจะเอา โลหะมาหลอม และเทลงในเบ้า แล้วเอาออก จาก เบ้า มา ล้าง และขัดเกลา จน เป็น เงางาม ช่างจะไต่ ไปตาม ไหล่ และ เศียร พระเพื่อ ขัดเกลา และ เพิ่มราย ละเอียดให้แก่ องค์พระ, ในตอน นี้ ตาม ทัศน ของ พุทธศาสนิกชน “รูปหล่อองค์พระ” นี้ยังไม่มี ความหมายความสำคัญ ที่จะกราบไหว้ เคารพ บูชา ยังมีสภาพ เป็น โลหะ ชิ้น หนึ่ง เท่านั้น แต่หลังจากขัดเงา สำเร็จ เรียบร้อยแล้ว จะมีพิธีสังฆกรรม เจิม เสกเป่า “รูปหล่อองค์พระรูปนั้น” หลังจากเสร็จ พีธีเสก เป่า ทาง ศาสนาแล้ว “รูปหล่อองค์พระรูปนั้น” จะกลายเป็น พระพุทธรูป ที่ใช้กราบ เคารพ บูชา ของ ชาว พุทธศาสนิกชน


ในเรื่อง ธงชาติของซาอุนั้น เมื่อเอา มา เป็นส่วนหนึ่งของศาสนา ก็ถือว่า เป็นการต่อเติม ศาสนา โดย ถือเอาธงชาติเป็นสิ่ง “ศักสิทธิ” เป็น บิดอะห์ หรือ ถ้า นับถือว่า เป็น สิ่งแทน อัลลออ์ หรือ ท่านรอซูล ซึ่งจะต้องไว้ในที่สูงเสมอ ก็ จะ ถือ ว่า เป็น “ชริก”

คุณ U จะเห็นได้ว่า ผืนธงชาติ ของ ซาอุดิอะราเบีย ก็ดี, ผืนผ้า เสื้อ T-Shirt ของ คุณ U ก็ดี และ พระพุทธรูป ที่ถูกสร้างมาก็ดี, ทั้งสามสิ่ง มี สิ่ง ที่เหมือน กัน ดังต่อไปนี้

1. มีสภาพเป็นผืนผ้า, โลหะ และ เป็น วัตถุ
2. มนุษย์ สร้างนำ เอาความศรัทธาทางศาสนา มาเกี่ยว ข้อง กับวัตถุ ทำให้ วัตถุ เปลี่ยน สภาพ จาก วัตถุ ธรรมดา เป็น สิ่ง สำคัญทางศาสนา
3. มนุษย์ ให้ความยกย่อง ว่าเป็นของสูงส่ง กว่า วัตถุ ที่อยู่ ในสภาพ เดียวกัน

ความสำคัญในอุธาหรห์ ที่กล่าวมานี้ สำหรับ พุทธศาสนิกชน แล้ว เป็น เรื่องในความเชื่อถือและ ความศรัทธาตาม หลัก พุทธศาสนา

สำหรับ มุสลิม การ เปลี่ยนสภาพ วัตถุ ให้ มาเป็น สิ่งสำคัญ และสัญญาลักษณ์ ทางศาสนา นั้น ถือ ว่า ขัดกับ “หลักอะกิดะห์” ของอิสลามอย่างแรง ใน ทัศนะของผม, ซึ่งผมไม่มีเจตนาจะชักจูงผู้ใด ให้เห็น ด้วยกับผม, ทั้ง นี้ เพราะ ว่า ในวง ท่านผู้รู้ และผู้ เชี่ยว ชาญ ทางศาสนาอิสลาม ยังตกลงกันไม่ได้ ว่า “หลักอากิดะห์” ของอิสลามที่ถูกต้อง นั้น คือ ะไร? ซึ่ง คุณจะเห็นได้ จาก การสนทนา ทั้งในเวบนี้ และ เวบ ของอาจารย์ มูรีด

ก่อนที่คุณจะผลิต วัตถุสิ่งใดก็ตาม ให้มีความเกี่ยว กับความศรัทธาของมุสลิมแล้ว ขอให้คุณนึกถึง ปัญหาที่อาจจะเกิด ขึ้น และ ที่อาจจะกระทบกระเทือน ต่อความศรัทธาต่อ "อัลลอฮ์" และคุณไม่อาจจะแก้ไขได้ "กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก" เช่น ในการ ครอบครอง เสื้อ T-Shirt ที่คุณ U ออกแบบโดย เอานาม ของ ท่านรอซูลล มาเป็นส่วน สัมพันธื กับความรัก ความศรัทธาของคุณ เลยทำให้ คุณไม่สามารถ ที่จะตัดสินใจได้ว่า คุณจะ จัดตำแหน่ง ของ วัตถุ ชิ้นนี้ ในรูปใด ถ้าคุณจะ ยกย่องและ เชื่อว่าเสื้อตัวนี้ สูงส่ง กว่า เสื้อตัวอื่น อาจจะ เข้าข่าย ของ การกระทำ "ชริก" แต่ถ้า คุณ นำ เอาเสื้อตัวนี้ ไปใช้ เพื่อเป็น ผ้าขี้ริ้ว หรือ ผ้าเช็ดรถ หรือ ผ้าเช็ดเท้า หน้าประตูเข้าบ้าน แล้ว คุณจะทำได้หรือไม่? ถ้าทำไม่ได้เพราะเหตุใด? คำตอบก็คือ ไม่ว่า คุณจะ จัดการกับเสื้อต้วนี้อย่าง ไร คุณจะรู้สึกลำบากใจอยู่ตลอดเวลา


wassalam


แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Fri Jun 30, 2006 1:14 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมเห็นจุดบอดในข้อความของคุณเยอะมาก แต่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เพราะว่าข้อความของคุณนำมาใช้อะไรไม่ได้เลย เพราะเป็นการแสดงทัศนะในอิสลามแบบเลื่อนลอย

ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ครับ

หัวข้อนี้ คุณกำลังแสดงความเห็นว่า เสื้อผ้าไม่ควรจะยึดติดกับมัน รวมทั้งธงชาติด้วย แต่ในขณะเดียวกัน คุณมาเรียกร้องให้เราทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลือง

คุณให้แสดงความรักต่อพระองค์อัลลอฮ ซบ และทำความดีต่อเพื่อนไทย ที่ตกยาก ทั้งๆที่อัลลอฮ ซบ ทรงสั่งใช้พวกเราให้ทำสิ่งนี้ตลอดเวลา ทุกโอกาส ไม่ใช่โอกาสใดโอกาสหนึ่ง


ลักษณะแบบนี้ เข้าข่ายว่าเป็น พวกไม่หลัก ปักขี้ควาย ครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Fri Jun 30, 2006 7:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

dabdulla:


ยังอีกนาน กว่า ที่คุณ จะเข้าใจ สิ่งที่ผมเขียน, ทั้งนี้เพราะว่าคุณอยู่ในจำนวนหนึ่ง ของ มุสลิม ส่วนใหญ่ ที่ เข้าใจอิสลาม แบบ ลัทธิ และนิกาย, ไม่ มองอิสลาม ในหลักการ ที่เป็น หลักสากลที่ ใช้เป็นหลักศรัทธา ที่สามารถจะ ทำให้ มนุษย์ ทุกๆ สังคม อยู่ ร่วมกัน อย่างสงบได้

เมื่ิอคุณ ถือศาสนา แบบ Cult มันผิดวัตถุประสงค์ ของอิสลาม, การถือและศรัทธา แบบ Cult ทำให้มุสลิมอยู่ในสังคมที่แคบ เชื่อและยึดถือ ครูผู้สอน ลัทธินิกายนั้นๆเป็นหลัก ซึ่งเป็น เหตุที่ ทำให้อิสลาม แตกแยก เป็น กลุ่มต่างๆ และทำให้อ่อนแอ ถูกสังคมที่แข็งแรงกว่า รังแกและรังควาญ อยู่ ตลอดเวลา เดินสวนถอยหลัง จากความเจริญ ความก้าวหน้า ทางวิทยาการ และเห็นแก่ตัว คุณจะเห็นตัวอย่างได้ จากประเทศในภาคตะวันออกกลาง

การ นับถือ อิสลาม โดย ศรัทธาต่อ อัลลอฮ์ และ มีความรักนับถือท่านรอซูล เป็นหน้าที่ของ มุสลิมทุกๆคน เป็นข้อบังคับและกฎบัญญัติทางศาสนา

การรักเพื่อนมนุษย์ที่ไม่ใช่มุสลิม หรือ มีความจงรักภักดีกับ พระมหากษัตริย์ผู้ ที่ทรงเป็นประมุขของ ประเทศชาติ นั้น ไม่ขัดกับหลัก ความศรัทธา ของอิสลาม เพราะว่า เรานับถือ องค์ประมุขของ ชาติ เนื่องจากความ เป็นคนไทย และเกิดบนผืนแผ่นดินไทย

การนับถือในหลวงของมุสลิมไทย, มุสลิมไม่ได้ นำพระองค์มา กราบไหว้บูชา, แต่ มุสลิมให้ความจงรักภักดีโดย การ เป็นพลเมืองไทยที่ดี, ใช้วิชาความรู้ ในการทำนุบำรุงประเทศชาติไทย, ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศชาติของเรา ทั้งนี้ เราจะได้มีแผ่นดินอยู่อาศัย ไม่เป็น เหมือน เศษ หรือ กอ สวะ ที่ลอยไปตามน้ำ ไปติดที่ใดเขาก็เขี่ยออกท้งไป

การมีความศรัทธา ต่ออิสลาม และ จงรักภักดีต่อในหลวงของไทยเรา ไปพร้อมๆกัน "ไม่ได้เป็นการโอนเอียงในแง่ความศรัทธา ของมุสลิม", ไม่ใช่เป็น "ไม้หลักปักขี้ควาย" อย่างที่คุณเข้าใจ
สถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่สถาบันศาสนา สถาบันศาสนาเป็นสถาบันที่สูงกว่าสถาบันใดๆ ทั้งสิ้น เป็น สถาบันที่ปกครองจิตใจของมนุษย์ ทั้งโลก ตามความศรัทธาของแต่ละบุคคล

คุณคงไม่เข้าใจ คุณสมบัติที่สำคัญ ของมุสลิมและของผู้ที่มีศรัทธา ต่อพระเจ้าไปอย่างหนึ่ง นั้นก็คือ การเป็นผู้ที่ มีความกตัญญูรู้คุณต่อ ผู้ที่มีบุญคุณ สิ่งนี้ถ้าไม่มีอยู่ใน ความรู้สึกนึกคิดของผู้ใดแล้ว จะเรียกว่าผู้นั้น เป็นมนุษย์ได้อย่างไร? ในหลวงไทยเป็นผุ้ที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อคนไทยทั้งประเทศ

คุณเคยได้ยินคำกล่าวนี้จากปราชญ์ของอิสลามหรือไม่...

"การไม่รู้คุณผู้ให้อาหารแก่เราก็เพียงพอที่ จะ เป็นบาปได้"

และอีกคำกล่าวอีกข้อหนึ่ง

"การกระทำของผู้ศรัทธา ที่ให้น้ำหนักมากบนตราชู ของวันตัดสิน ก็คือความประพฤติที่ดีของผู้นั้น, พระองค์อัลลออ์ทรงเกลียดผู้ที่เปล่งแต่สิ่งที่น่าละอายด้วยลิ้นของเขา, และการใช้วาจาที่หยาบคาย"

wassalam

แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Fri Jun 30, 2006 7:43 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

wassalam

ความไม่เข้าใจของคุณ dabdulla: อยู่ที่ว่า.....

ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ครับ

หัวข้อนี้ คุณกำลังแสดงความเห็นว่า เสื้อผ้าไม่ควรจะยึดติดกับมัน รวมทั้งธงชาติด้วย แต่ในขณะเดียวกัน คุณมาเรียกร้องให้เราทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลือง

........

ผมหมายถึง การนำเอา ข้อความที่เกี่ยวกับความศรัทธาทางศาสนา เช่น พระนามของอัลลอฮ์ และ ศาสดามูฮัมมัด มาประดับไว้บนวัตถุ และ "ยกย่องให้ความนับถือหรือเกรงกลัววัตถุที่มีข้อความนั้นๆ" เช่นธงชาติของซาอุ, และเสื้อ ของคุณ U ที่มีชื่อ ศาสดามูฮัมมัด

ส่วนเสื้อสีไม่ว่าจะเป็นสีใดก็ตาม ซึ่งไม่มี ข้อความ ที่ความหมายทางศาสนา ไม่มีความสำคัญใดๆทั้งสิ้น ในแง่ของความศรัทธา ของมุสลิม

การใส่เสื้อสีเหลือง เพือเป็นแสดงพร้อมเพรียง ในการแสดงความรักต่อในหลวงของไทย ไม่เกี่ยวกับความศรัทธาทาง ศาสนาแม้แต่น้อย และไม่ได้ทำให้เสีย ความศรัทธาต่ออิสลาม, และเมื่อใส่ เสร็จแล้ว คุณจะเอาเสื้อสีเหลือง ไปใช้ประโยชน์ หรือทำอะไร ก็ไม่มีความเสียหายทางจิตใจเกิดขึ้น

ผมหวังว่าคุณคงเข้าจดีขึ้น

wassalam

แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Fri Jun 30, 2006 9:10 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จากข้อความคุณแมทท์

ในเรื่อง ธงชาติของซาอุนั้น เมื่อเอา มา เป็นส่วนหนึ่งของศาสนา ก็ถือว่า เป็นการต่อเติม ศาสนา โดย ถือเอาธงชาติเป็นสิ่ง “ศักสิทธิ” เป็น บิดอะห์ หรือ ถ้า นับถือว่า เป็น สิ่งแทน อัลลออ์ หรือ ท่านรอซูล ซึ่งจะต้องไว้ในที่สูงเสมอ ก็ จะ ถือ ว่า เป็น “ชริก”

______________________________________________________________________

คุณสรุปเองตอบเอง ว่าธงซาอุเป็นศักดิ์สิทธิ์ และเป็นบิดอะห์

การประกาศถึงการไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ และ นบี ซล เป็นรอซูลนั้น

คุณแมทท์คิดว่ามีสิ่งใดที่อยู่สูงกว่ามันอีกหรอครับ และถ้าสิ่งนี้ถูกทำให้สูงแล้วมันจะเป็นบิดอะห์ได้อย่างไร

กุรอ่านของอัลลอฮ ซบ ก็เป็นสิ่งที่สูงส่ง ก็เป็นแค่กระดาษ คุณแมทท์กำลังทำบิดอะห์อยู่หรือเปล่าครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Sat Jul 01, 2006 12:54 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

คุณควรจะศึกษาระเบียบการใช้ธงของซาอุ เสียก่อน คุณยังไม่เข้าใจที่ผมเขียน ผมไม่มีข้อขัดข้อง ในเรื่อง จะเอา ซะหะดะห์ ไปใส่ไว้ในผ้า ผืนใดและชนิดใด แต่ เมื่อใดก็ตาม ถ้า เราศรัทธา ต่อ ผ้าผืนนั้น โดยจะต้องเทอดทูลไว้เหนือหัว แสดงคารวะต่อผ้าผืนนั้น แล้วเป้น การผิดหลักในการนับถือบูชาพระเจ้าองค์เดียว, แม้แต่อัลกุรอาน ก็เช่นกัน ไม่ใช่สิ่งศักสิทธื ที่จะนำมากราบไหว้ บูชาหรือ เทอดทูลเหนือหัว เป็น เพียง กระดาษที่ บรรจุ บทบัญญัติของพระเจ้าเท่านั้น

อัลลอฮ์ ซบ. ไม่ได้ ส่งอัลกุรอานมา เป็นรูปเล่มบนกระดาษ หรือตัวอักษรใดๆ มนุษย์ เป็นผู้ นำบัญญัติเหล่านั้น มาเย็บเป็นรูปเล่ม ดังนั้น ความสำคัญ ของ อัลกุรอาน, ของธงซาอุ, และเสื้อของ คุณ U อยุ่ที่ ข้อความบัญญัติ และ พระนาม ของ อัลลอฮ์ ซบ. และ นามของท่านรอซูล

การครอบครอง อัลกุรอาน หรือ อ่าน หรือ ศึกษาอัลกุรอาน ไม่ใช่เป้นการต่อเติมศาสนา, แต่ถ้า เอาเล่ม หรือ กระดาษ ในอัลกุรอาน มา กราบเคารพบูชา, มาสาบาน, นำมาเป้นเครื่องลาง ป้องกันภัย แล้ว เป็นการต่อเติมศาสนาอย่างแน่นอน

เมื่อเราเอาข้อบัญญัติของพระเจ้า มาสัมพันกับวัตถุ แล้ว เราจะต้องพรอ้มเสมอที่ จะยอมรับว่า การกระทำใดๆ ที่ กระทำต่อวัตถุนั้น ไม่มีความหมายต่อ บัญญัติของพระเจ้า เพราะสิ่งเหล่านั้น เป้น เพียงแค่วัตถุ แต่บัญญัติของพระเจ้า จะไม่มีการถูกทำลายหรือเหยีบยำ่

แต่ถ้าคุณนับถืออัลกุรอาน เป็นสิ่งศักสืทธ ที่ยกขึ้นทูลหัวและกราบบูชา แล้ว ในความคิดของผม ผมว่า เป้นการสร้าง ภาคี เพราะ การเคารพบูชาพระเจ้า ทำได้โดยการทำละหมาด ไม่ใช่โดยการ กราบ หนังสือ ของ อัลลอฮ์

การคารวะธงของซาอุ จะผิดหลักการของอิสลามหรือไม่ คุณลองไปคิดดู เองแล้วกัน


wassalam

แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
dabdulla
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2005
ตอบ: 437


ตอบตอบ: Sun Jul 02, 2006 9:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณแมทท์ต้องแยกให้ได้ว่า ระหว่างความศักดิ์สิทธิ์ และ การให้ความเคารพต่างกันอย่างไร

คุณแมทท์อยู่เมืองนอกนาน อาจจะเข้าใจไม่ได้ความเคารพนั้นคืออะไร ความเคารพนั้นไม่ใช่การยืนตัวตรงนะครับ แล้วโค้งหัวนะครับ เพราะการยืนตัวตรงแล้วโค้งหัวนั้นเป็นการแสดงความเคารพในลักษณะของลูกเสือ

ในกรณีของ ธงซาอุ ไม่ได้มีใครไปบอกว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรอกครับ แต่เราให้ความเคารพในนามที่อยู่บนมันต่างหากครับ กุรอ่านก็เช่นกันครับ ถ้าหากคุณแมทท์พกพกอัลกุรอ่านโดยเชื่อว่ากุรอ่านสามารถทำให้คุณแมทท์พ้นจากเคราะห์กรรม หรือพยันตรายได้ อันนี้ถือเป็นชิริกครับ

แต่กุรอ่านก็มีสิทธิ ในการที่จะต้องให้ความเคารพแก่ เพราะว่าสิ่งนี้ คำดำรัสของพระผู้เป็นเจ้า ที่คุณแมทท์พูดว่า มนุษย์มารวบรวมกันเอง จริงๆแล้ว คุณแมทท์ลองถามผู้รู้ก็ได้นะครับ
นบี Solallah เป็นผู้แต่งตั้งอาลักษณ์ขึ้นมาให้ทำหน้าที่ในการบันทึก และ ท่านนบี Solallah เป็นผู้เตรียมอุปกรณ์ในการบันทึกให้กับเหล่าอาลักษณ์ด้วยนะครับ

เป็นสิ่งสมควรที่เราควรจะให้เคารพแก่อัลกุรอ่าน เพราะพระองค์ก็ได้ตรัสในอัลกุรอ่านไว้ถึงเงือนใขบางประการในการจับอัลกุรอ่าน และ ควรจะเก็บไว้ในที่สูง ไม่ใช่ในระดับขา หรือ เท้าของเรา

อีกประการหนึ่งก็คือ การยอมรับ สิ่งฮะล้าล และ ฮารอมในอัลกุรอ่าน ก็จัดเป็นการให้ความเคารพเช่นกัน และสิ่งนี้ก็ยังเกี่ยวข้องกับอะกีดะห์ของเราด้วย เช่นเมื่อพระองค์ตรัสว่า ดอกเบี้ยเป็นสิ่งหะรอม เราก็จะต้องกล่าวไปตามนั้นว่า ดอกเบี้ยคือสิ่งหะรอม และ พระองค์และนบี Solallah ประกาศสงครามกับผู้ที่กินดอกเบี้ย เราจะต้องไม่มานั่งคิดเองว่าดอกเบี้ยกับพ่อค้าหน้าเลือกไม่ต่างกัน เพราะฉนั้น ดอกเบี้ยเป็นที่อนุมัน อย่างนี้เป็นต้น หรือ แม้กระทั้งการลงโทษ และ สวรรค์ด้วยเช่นกัน เมื่อพระองค์ ได้ตรัสถึงเรื่องราวเหล่านั้นไว้ เราจะต้องศรัทธาอย่างเหนียวแน่น และจะต้องไม่คิดเอง ว่านรก และ สวรรค์เป็นเรื่องชวนหัว อย่างที่คุณคิด และ พยายามถ่ายทอดออกมาในเวปนี้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Mon Jul 03, 2006 12:04 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

ขออนุญาตคุยเรื่อง ธง ด้วยคนนะครับ ผมว่า เรื่อง ของธงชาติ นั้น เป็นธงที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องหมายของความ เป็นชาติ และคงไม่มีใครทำขึ้นมาไว้บูชา หรือ ให้ความสำคัญว่า มีผล ในด้านให้คุณ ให้โทษ ในสมัยท่านนบี ซอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม มีธง อยู่สองประเภทคือ
1. اللواء (อัลลิวาอฺ) หมายถึงธงประจำกองทัพ
2. الراية (อัรรอยะฮ) หมายถึง ธงรบ โดยผูกไว้ที่ปลายหอก เพื่อจะได้ใช้เป็นที่สังเกต

وعن جابر‏ ‏(‏أن النبي صلى اللّه عليه وآله وسلم دخل مكة ولواؤه أبيض‏)‏‏.‏

จาก ญาบีร ว่า(แท้จริงท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้เข้าสู่นครมักกะฮ โดย ที่ธงประจำกองทัพของท่านนั้น มีสีขาว.

رواه الخمسة إلا أحمد‏

وعن ابن عباس قال‏‏(‏كانت راية النبي صلى اللّه عليه وآله وسلم سوداء ولواؤه أبيض‏)‏‏.‏

จากอิบนิอับาส กล่าวว่า "ปรากฏว่า ธงรบของท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นั้น สีดำ และธงประจำกองทัพของท่านนั้น สีขาว
رواه الترمذي وابن ماجه‏

ดู นัยลุ้ลเอาฏอร เล่ม 8 หน้า 160-187
......................
ในบางสิ่ง ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบวินัย คนในสังคม โดยสิ่งนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอะกีดะฮก็มีนะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Mon Jul 03, 2006 2:47 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

อาจารย์อาสัน

ขอคุณมากครับที่ กรุณาช่วยอธิบายเรื่องธง, ถูกอย่างที่อาจารย์ อธิบายครับ คือว่าธง เป็นสิ่งที่แสดง เป็น เครื่องหมาย และสัญญาลักษณ์ ของ สังคมและกลุ่ม คน เท่านั้น ตามหลักการ ศรัทธาของศาสนาอิสลาม ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะ นำ มาคารวะและ เคารพบูชา เพราะเป็นเพียง ผืนผ้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น และเมื่อขาดหรือเก่าไป ก็สามารถ ที่ จะโยนทิ้ง หรือดัดแปลงเป็น ของใช้อย่างอืน โดยเฉพาะ ในสมัยนี้ ที่เรียกว่า "Recycle" หรือ "การหมุนเวียนมาใช้ใหม่"

แต่ถ้าเอาบัญญัติ ของพระเจ้า ไปเขียนไว้บนวัตถุต่างๆ อาจารย์ คงจำได้ว่า มี ผู้ ผลิตกระเบื้อง แล้วนำอายะอัลกุรอาน จารึกลงไป มุสลิมเราเกิดความไม่พอใจ โวยวายกันทั่วเมือง

ด้วยเหตุนี้ผมจึงเขียนว่า เมื่อใดก็ตาม ถ้า เรา เอาบัญญํติ ในอัลกุรอาน ไปเกี่ยวพัน กับวัตถุแล้ว, เราจะต้อง เข้า ใจว่า ความสำคัญอยู่ที่ ความหมายของ บัญญัติ ไม่ใช่อยู่ที่วัตถุ และถ้าวัตถุ นั้น จะถูก หยิบ ยก หรือ จับวาง ในที่ต่ำสูงอย่างไรแล้ว, จิตใจเราต้องไม่สั่นคลอน เมื่อใดก็ตาม ที่เราให้ ความสำคัญ ของวัตถุ ที่บรรจุบัญญัติ ของพระเจ้า, มีความสำคัญเทียบเคียงกับพระเจ้าแล้ว จะผิดหลัก ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว ของอิสลาม

เช่นเสื้อของ คุณ U ที่มีชื่อ ท่านรอซูล หรือ ธงของ ซาอุ ที่มี "ชะฮาดะห์" เขียนอยู่ ถ้ามุสลิม สามารถที่ จะใช้ วัตถุทั้งสอง นี้ เปลี่ยนสภาพเป็น ผ้าขี้ริ้ว หรือ ผ้าเช็ดเท้าได้โดย ไม่ ตะขิดตะขวงใจแล้ว, อาจารย์ว่าทำเช่นนั้นได้หรือไม่? (ซาอุมีกฏหมายคุ้มครองธง)

แต่เนื่องจาก วัตถุทั้งสองนั้น มี ข้อเขียน ที่มีความสำคัญทางศาสนาอยู่ ถ้า มุสลิม เชิดชู ผ้าทั้งสองผืนนั้น จะยืนตรงก้มหัวให้ อย่างลูกเสือ, หรือ ก้มกราบ หรือ นึกเคารพนับถือ ว่าเป็นของสูง กว่าสิ่งอื่น ที่มีคุณสมบัติ เป็นวัตถุเช่นกันแล้ว, อาจารย์ช่วยอธิบายด้วยว่า จะผิดหลักศรัทธาของอิสลามหรือไม่?

สำหรับเสื้อสีเหลืองนั้นเมื่อใส่เสร็จ จะใช้เป็นอะไรก็ได้ ไม่เกี่ยวกับ หลักการศรัทธา ของศาสนา ใดๆ หรือ บุคคล, ทั้งนี้ เพราะ เสื้อสีเหลือง, สีดำ หรือ สีแดง เป็นเพียงแค่วัตถุ และแค่ เครื่องหมายแห่งความรัก และความพร้อมเพรียงเท่านั้น

wassalam


แมทท์

ปล. อาจารย์ อาสัน ช่วย อธิบาย ปัญหาในเมลล์ ด้วยครับจะขอบคุณมาก
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
matt
มือเก๋า
มือเก๋า


เข้าร่วมเมื่อ: 02/06/2004
ตอบ: 254
ที่อยู่: usa

ตอบตอบ: Mon Jul 03, 2006 3:05 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

salam

dabdulla:

ผมว่าคุณ exaggerate ข้อความเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่อง นรก สวรรค์ ของผมมากไป แล้ว ผมไม่กล้าล้อเล่น ใน เรื่อง เหล่านี้ หรอก เพราะว่า เป็น หลักแห่ง ความ ศรัทธา ของ มุสลิม

ผมจะอธิบายตามความเห็นของผมว่า มุสลิมควรจะมองและเข้าใจ คุณสมบัติของอัลกุรอานอย่างไร?

เนื่องจาก อัลกุรอาน จัดได้ ว่า เป็น ความ มหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้น ในศาสนาอิสลาม, เป็นแนวทางที่สมบูรณ์ ที่ดี สุด ในการใช้ดำเนิน ชีวิตของ มนุษย์เรา เพื่อที่จะได้ เป็นที่ ปรารถนา ของพระองค์อัลลอฮ์, อัลกุรอานถูกประทานมาให้ เป็นตอนๆ, เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ และ ตามความต้องการ ในการแก้ปัญหาของมนุษย์ ในแต่ละยุคสมัยนั้นๆ

ดังนั้น ในการเข้าใจอัลกุรอาน เราจึงจำเป็น ต้อง พิจารณา เหตุการ และประวัติศาสตร์ ของ สังคม อรับ และ ของโลก ในสมัยนั้นๆ, ตลอดระยะ เวลา 23 ปี ตั้งแต่ เริ่มประทานอายะแรก จน ถึงอายะสุดท้าย เช่น เหตุใด จึง กำหนดให้ มี ภรรยา 1-4 คนได้, เหตุใดจึง ในการเป็นพยาน ต้องใช้ หญิง ถึง 2 คน จึงมีเหตุผล เท่ากับ ชาย เพียง 1 คน , เหตุใดจึง ห้ามการกินดอกเบี้ย, เหตุใด จึงให้ผู้ชาย สำรวม และข่มใจ ใน ความใคร่ ในเรื่องกามรมณ์, เพราะเหตุ ใด จึง มีคำสั่ง ให้ ดึง เอาผ้าที่คลุม ศรีษะ มาคลุม หน้าอก, เหตุใดจึงกำหนด ให้ หญิง ปกปิดร่างกายส่วนที่ยั่วยวนอารมณ์เพศ

การสอนในอัลกุรอาน เป็น หลักการ สากล สำหรับมนุษย์ชาติ, การสอนในอัลกุรอาน มุ่งหมายไปถึงมนุษย์ทุกๆคน ในโลกนี้ ไม่จำกัด เผ่าพันธ์ หรือ เชื้อชาติ และ สีของผิวหนัง หลักการสอนในอัลกุรอาน ประนาม ความชั่วช้าทุกๆชนิด, คำสอนในอัลกุรอาน ให้ความรู้และทำให้จิตใจ มนุษย์ เข้าใจถึง วิถีทางนำเนิน ชีวิต ที่ถูกต้อง อย่าง แจ่มแจ้ง ทำให้มนุษย์ มีจรรยาธรรม และ มีความบริสุทธิ แห่งจิตใจ

คำสอนมีทั้งกฏบัญญํติ คำสั่ง ข้อห้ามและ และ ข้อปฏิบัติ ต่างๆ เพื่อ สร้าง ความยุติธรรม และความสัมพันธ์ เยี่ยงพี่น้อง กันของมนุษย์ ทั่วโลก โดยการรวมจุดมุ่งหมายแห่งความศรัทธา ของมนุษย์ ทั้งโลก ให้ยอมจำนนและสวามิภักดิ์ ต่อ อำนาจ อันสูงสุด ของพระเจ้าองค์เดียว “อัลลอฮ์” เท่านั้น

นอกจากสิ่งที่กล่าวมาแล้ว ในแง่ สังคม, ความศรัทธา และวิทยาการ อัลกุรอาน บรรจุไว้ด้วยข้อกำหนดที่ วางกฏ แห่งความสัมพันธ์ ระหว่าง มนุษย์กับพระเจ้า และ ระหว่างมนุษย์ กับมนุษย์ ไว้อย่างเหมาะสม (ข้อนี้ ที่ผมพยามที่ จะอธิบาย ให้คุณเข้าใจ แต่ ว่า การอธิบายไม่ดีพอที่จะทำให้คุณเข้าใจได้) ถ้าเราเข้าใจ จุดมุ่ง หมาย ในการสอน ของ พระองค์อัลลอฮ์ โดยผ่านทางอัลกุรอาน แล้ว เราจะเห็น ว่า คำสอน ในอัลกุรอาน สามารถที่จะทำ ให้ มนุษย์ เข้า ใจ ถึง บทบาท ของ มนุษย์ ในโลกนี้

อีกประการหนึ่งอัลกุรอาน สอนและสนับสนุน ให้มนุษย์ ใช้ ความคิด และ การ พิจารณา และ แนะแนวทาง ให้ มนุษย์ รู้จักใช้ ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง ฉลาดและถูกต้อง

ที่ผมกล่าว มาทั้งหมดนี้ พอสรุปได้ ว่า อัลกุรอาน ได้บรรจุไว้ด้วยแนวทางที่มนุษยชาติ ต้องการ ในการดำเนิน ชีวิต และถ้าขาดแนวทางที่พระองค์ ได้ทรง ประทานมานี้ มนุษย์ ก็ยังคง ไม่มีความเจริญ, และยังหลงอยู่ ใน วัฏจักร แห่ง ความ โง่เขลา เดินสวนทางกับความเจริญของสังคม

ถ้าเราพิจารณาให้ถี่ถวนและเข้าใจวัตถุประสงค์ ของอัลกุรอานแล้ว อัลกุรอาน ก็คือ คู่มือในการ ดำเนินชีวิตของมนุษย์ นั้น เอง ความสำคัญ ของอัลกุรอานอยู่ที่ “บัญญัติ” ของพระองค์อัลลอฮ์

ถ้าอัลกุรอาน มีความสำคัญเช่นนี้ ทำไม่ สังคมมุสลิมจึง ล้าหลัง และเป็น ลูกไล่ เขาตลอดมาภายหลังจากที่ ท่านรอซูล สิ้นชีวิตไปแล้ว?

คำตอบก็คือ หลังจาก ท่าน รอซุลสิ้นชีวิตไปแล้ว มุสลิมละทิ้งอัลกุรอาน และ ซุนนะห์ ที่แท้จริง ของ ท่าน รอซูล หันไปตามแนวความคิดต่างๆ ของ บุคคลที่เรียกว่า “นักปราชญ์ทางอิสลาม” เลยแตกแยกเป็นลัทธิต่างๆอย่างมากมาย

นี่คือความเข้าใจของผม ในการใช่คู่มือ การดำเนิน ชีวิต ที่ พระเจ้าประทานมา และ ผม เก็บรักษาอัลกุรอาน เช่นเดียว กับการ เก็บ รักษา หนังสือ ตำรา วิชาชีพที่ร่ำเรียนมา อย่างมีระเบียบเรียบร้อย และเหมาะสม กับการ ค้นหา

สิ่งสำคัญที่ ต่างจาก ตำราอื่นๆ ก็คือ ผมไม่ยอมให้ ผู้ใด, “ ดูถูก บัญญัติของพระองค์อัลลออ์ หรือตีความหมาย ในบัญญัติ ไปในทาง ที่ ลบหลู่และลดเกียรติ ในความเป็นพระเจ้าที่สูงส่ง เหนือกว่า สิ่งใดๆ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น"


wassalam


แมทท์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
asan
ผู้ดูแลกระดานเสวนา
ผู้ดูแลกระดานเสวนา


เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005
ตอบ: 3165


ตอบตอบ: Mon Jul 03, 2006 7:27 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วะอะลัยกุมุสสลามฯ
เช่นเสื้อของ คุณ U ที่มีชื่อ ท่านรอซูล หรือ ธงของ ซาอุ ที่มี "ชะฮาดะห์" เขียนอยู่ ถ้ามุสลิม สามารถที่ จะใช้ วัตถุทั้งสอง นี้ เปลี่ยนสภาพเป็น ผ้าขี้ริ้ว หรือ ผ้าเช็ดเท้าได้โดย ไม่ ตะขิดตะขวงใจแล้ว, อาจารย์ว่าทำเช่นนั้นได้หรือไม่? (ซาอุมีกฏหมายคุ้มครองธง)

แต่เนื่องจาก วัตถุทั้งสองนั้น มี ข้อเขียน ที่มีความสำคัญทางศาสนาอยู่ ถ้า มุสลิม เชิดชู ผ้าทั้งสองผืนนั้น จะยืนตรงก้มหัวให้ อย่างลูกเสือ, หรือ ก้มกราบ หรือ นึกเคารพนับถือ ว่าเป็นของสูง กว่าสิ่งอื่น ที่มีคุณสมบัติ เป็นวัตถุเช่นกันแล้ว, อาจารย์ช่วยอธิบายด้วยว่า จะผิดหลักศรัทธาของอิสลามหรือไม่?
............................
อิสลามไม่วัตถุ หรือ สิ่งใดๆมาเป็นตัวแทนของพระเจ้า เพื่อให้เคารพบูชา แม้ว่า วัตถุนั้นจะเขียนด้วย พระนามของพระเจ้าก็ตาม แต่เราต้องให้ความสำคัญ กับ พระนามของอัลลอฮและ ข้อความอัลกุรอ่าน ไม่ว่ามันจะถูกบันทึกไว้ที่ใหนก็ตาม เพราะมันคือ พระนามและคำตรัสของพระเจ้าผู้ทรงอภิบาลของเรา
..............................
ขอตอบสั้นๆก่อน ตอนนี้เวลามีไม่มากนัก
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
romlie
มือใหม่
มือใหม่


เข้าร่วมเมื่อ: 21/06/2004
ตอบ: 7


ตอบตอบ: Mon Jul 03, 2006 3:11 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

"และพระเจ้าของสูเจ้านั้นคืออัลลอฮฺองค์เดียว
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระองค์ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ"

"แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสับเปลี่ยนกลางคืนและกลางวัน
และเรือที่วิ่งอยู่ในทะเลพร้อมด้วยสิ่งที่อำนวยประโยชน์ แก่มนุษย์
และน้ำที่อัลลอฮฺได้ทรงให้หลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วทรงให้แผ่นดินมีชีวิตชีวาขึ้นด้วย
น้ำนั้น หลังจากที่มันตายไปแล้ว และได้ทรงให้สัตว์ แต่ละชนิด แพร่สะพัดไปในแผ่นดิน
และในการให้ลมเปลี่ยนทิศทาง และให้เมฆซึ่งถูกกำหนดให้บริการ (แก่โลก)
ผันแปรไประหว่างฟากฟ้า และแผ่นดินนั้น แน่นอน ล้วนเป็นสัญญาณนานาประการ
แก่กลุ่มชนที่ใช้ปัญญา"

"และในหมู่มนุษย์นั้น มีผู้ที่ยึดถือบรรดาภาคี อื่นจากอัลลอฮฺ
ซึ่งพวกเขารักภาคีเหล่านั้น เช่นเดียวกับรักอัลลอฮฺ แต่บรรดาผู้ศรัทธานั้น
เป็นผู้ที่รักอัลลอฮฺมากยิ่งกว่า และหากบรรดาผู้อธรรมจะได้เห็น
ขณะที่พวกเขาเห็นการลงโทษอยู่นั้น (แน่นอนพวกเขาจะต้องตระหนักดีว่า)
แท้จริงอัลลอฮฺนั้น เป็นผู้ทรงลงโทษที่รุนแรง"

(อัลบะเกาะเราะฮฺ 163-165)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    อนุรักษ์มรดกอิสลาม หน้ากระดานข่าวหลัก -> เกี่ยวกับมุสลิมะห์ ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
หน้า 1 จากทั้งหมด 4

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


Powered by phpBB ฉ 2001, 2002 phpBB Group







ที่ตั้งมูลนิธิ


สำนักงาน มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม
เลขที่ 27/5 หมู่ที่ 2 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
ติดต่อ : 02-956-9860, 02-956-9958
E-mail : moradokislam@hotmail.com
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการนำไปเผยแพร่ในหนทางที่ถูกต้อง และควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูล

PHP-Nuke Copyright © 2005 by Francisco Burzi. This is free software, and you may redistribute it under the GPL. PHP-Nuke comes with absolutely no warranty, for details, see the license.
การสร้างหน้าเอกสาร: 0.13 วินาที
IPBNukeRed theme by HOLBROOKau and
PHP-Nuke Thailand ©2004
เธ‚เธญเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธตเธซเธ™เนˆเธญเธขเธ„เธฃเธฑเธšเธชเธกเธฑเธ„เธฃเธ›เธธเนŠเธšเธฃเธฑเธšเธ›เธฑเนŠเธšเน„เธกเนˆเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธ เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เน‚เธšเธ™เธฑเธชเน„เธ”เน‰เน€เธ‡เธดเธ™เธˆเธฃเธดเธ‡ slot938 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธชเธฅเน‡เธญเธ•เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaicasinobin เนเธˆเธเน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เธชเธฅเน‡เธญเธ• เธšเธฒเธ„เธฒเธฃเนˆเธฒ เธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ JQK41 เธชเธฅเน‡เธญเธ• เน€เธ„เธฃเธ”เธดเธ•เธŸเธฃเธต เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ thaibet55 kubet เน„เธ—เธขเธ„เธฒเธชเธดเน‚เธ™เธญเธญเธ™เน„เธฅเธ™เนŒ เนเธ—เธ‡เธšเธญเธฅ เธ‹เธญเธ„เน€เธเธญเธฃเนŒเธฅเธตเธ เธ„เธฐเนเธ™เธ™เธŸเธธเธ•เธšเธญเธฅ เน€เธงเน‡เธšเธžเธ™เธฑเธ™เธญเธฑเธ™เธ”เธฑเธš1 HUC99 เน€เธงเน‡เธšเธ•เธฃเธ‡ เน„เธกเนˆเธœเนˆเธฒเธ™เน€เธญเน€เธขเนˆเธ™เธ•เนŒ