ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Fri Feb 06, 2009 10:55 am ชื่อกระทู้: ละหมาด 5 เวลา กับแมทท์อีกแล้ว เชิญผู้รู้มาร่วมด้วยช่วยกัน |
|
|
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7497398/Y7497398.html
แมทท์ได้โชว์โง่ เรื่องละหมาดในกระทู้อีกแล้ว แต่ผมไม่ใช่ผู้รู้ และข้อมูลผมก็เอาไปตอบก็มาจาก ผู้รู้ในเว็บนี้ด้วย
ดังนั้นอยากให้ทุกท่าน ไปช่วยตรวจทานความเห็นของผมด้วยครับ เพื่อกันพลาด และถ้ามีอะไรจะชี้แนะ บอกผมได้เลย ผมจะเอาไปตอบด้วย
ตอนนี้แมทท์เริ่มใช้ภาษาอาหรับดังนั้น ผมจึงอยากชวนผู้รู้ภาษาอาหรับ ไปตรวจสอบว่า ภาษาอาหรับของ แมทท์ มันมั่ว หรือบิดเบือนกันแน่ครับ เริ่มจากตรงนี้เลย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Fri Feb 06, 2009 10:56 am ชื่อกระทู้: |
|
|
แมทท์บอกว่า
กรณีที่ 1. คำว่า อัสซอละฮ์ หมายถึงการละหมาด 1 ครั้ง (เวลา) ซึ่งเป็นเอกพจน์ เท่านั้น
กรณีที่ 2. คำว่า อัสซอละตัยนฺ หมายถึงการละหมาด 2 ครั้ง (เวลา), หมายถึง คำนามที่เป็น คู่ กัน เท่านั้น
อัสซอละตัยนฺ ในความหมายทางไวยกรณ์ แล้ว ต่างจากในภาษาอังกฤษ เป็นคำนามในจำพวก Genitive Cases คล้ายๆ กับภาษาอังกฤษ ที่เรียกว่า possessive case เช่น Matts glass of water แปลว่า แก้วน้ำ ของ แมทท์, ประโยคนี้ แสดงความเป็นเจ้าของ
แต่คำวลีที่ว่า glass of water ในวลีนี้ ไม่มีการแสดงความเป็นเจ้าของ, ไม่ทั้ง แก้วของน้ำ หรือ น้ำของแก้ว วลีเช่นนี้เรียกว่า genitive case ซึ่งมีใช้ในไวยกรณ์ จะเห็น ว่ามีของอยู่สองสิ่ง ซึ่งเป็นของกันและกัน ในภาษาอรับใช้คำนาม คู่ (ในภาษาอังกฤษมี อยู่คำนามจำพวกหนึ่ง เรียกว่า Collective noun ซึ่งต่างจาก คำนามที่เป็นคู่)
ในกรณีที่ 3. คำว่า อัสซอละวัตตฺ หมายถึงการละหมาด หลายครั้ง ตั้งแต่ 3 ครั้ง หรือมากกว่า เท่านั้น ไม่มีความหมายเป็นอย่างอื่น ใช้เป็นพหูพจน์ ที่มีตั้งแต่สามขึ้นไป
นี้มาดูในประโยค ของอายะที่ 2:238 กล่าวว่า:
ฮาฟิฏู อะลา อัสซอละวาติ วาอัสซอละติ อัลวุสตา วะกูมูลิลลลาฮิ กอนิตีนะ
มีหมวดของคำอยู่ สอง หมวด(วลี) คือ
1. วาอัสซอละติ อัลวุสตา หมายถึงการละหมาด ในระหว่างกลาง 1 ครั้ง, และ
2. อัสซอละวาติ ซึ่งอยู่ในกรณีที่ 3, หมายถึงการ ละหมาด ในจำนวน
สาม ครั้ง หรือมากกว่า ไม่ได้หมายถึง สองครั้ง
ด้วยเหตุนี้ จากความหมายทางภาษา ในอายะนี้ กล่าวถึงการละหมาด 3 ครั้ง หรือมากกว่า และรวม กับ การ ละหมาด ระหว่างกลาง และคำว่าระหว่างกลาง 1 ครั้ง เป็น จำนวน เลขคี่ ที่อยู่ระหว่างกลาง ของจำนวนเลขคู่ ที่มากกว่า 3 นั้นก็คือ 4
เมื่อรวมจำนวนจาก เวลาที่กล่าวในอัลกุรอานแล้ว เราจะได้จำนวน การละหมาด 5 ครั้ง (เวลา) ในวันหนึ่ง, เราจะเห็นว่าเพียง แค่ อายะ 2:238 เพียงอายะเดียว ก็เพียงพอที่จะ แสดง ให้เห็นว่า การ ละหมาด 5 เวลา มีกล่าว กล่าวไว้ใน อัลกุร อาน อย่างชัดแจ้ง ซึ่งไม่มีความจำเป็นจะต้อง ดำเนินการถกเถียง ในเรื่อง นี้ให้เยิ่นเย้อต่อไป
ตั้งแต่ส่วนปลายของตอนเช้า(ซุบฮิ )และส่วนปลายของตอนเย็น(มัฆริบ) และ อีก เวลาหนึ่งเวลาหนึ่ง เมื่อเริ่มเข้าเวลากลางคืน (11:114) ซึ่งหมายถึง การละหมาด อีซา (24:58) รวมแล้วมี 5 เวลา และระหว่างส่วนสอง ปลายของ วัน ก็มี ซุฮฺริ ( 24:58 และ17: 78 ) และอัศริ (2:238 และ 17: 78)
เมื่อเราเข้าใจ การทำละหมาดในเวลาต่างๆ จากอัลกุรอานจึง ทำให้เราสามารถที่จะ ลำดับความได้ว่า อัลกุรอานได้กล่าวถึง การละหมาดที่มุสลิม ได้กระทำมาก่อน และ เรียนรู้มาก่อน ที่พระองค์จะ บัญญัติข้อบังคับ ต่างๆ ในการทำละหมาด ของมุสลิม ถ้ามุสลิมไม่รู้จักการละหมาดมาก่อน เมื่อ อ่าน อัลกุรอาน แล้ว จะ ไม่เข้าใจ ว่า พระองค์อัลลอฮ์ ตะอาลา กล่าวถึงเรื่อง อะไร?
คิดว่าอย่างไรครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Fri Feb 06, 2009 10:57 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมตอบไปว่า
อย่าเพิ่งตัดบทว่าเยิ่นเย้อ และอย่างเพิ่งบอกว่าชัดแจ้ง ก่อนจะบอกว่าชัดแจ้งได้เนี่ย ต้องบอกก่อนนะครับว่า
ระหว่างกลางที่ว่าคือระหว่างกลางอะไร ครับ?
238. พวกเจ้าจงรักษาบรรดาละหมาดไว้ และละหมาดที่อยู่กึ่งกลาง(*1*) และจงยืนละหมาดเพื่ออัลลอฮ์โดยนอบน้อม
ทุกท่านอ่านนะครับ ไม่มีบอกตรงไหนว่า เป็น 4 เวลา หรือ 5 หรือ 6 กุรอ่านบอกแล้วนะครับ ว่าบรรดาละหมาดและที่อยู่กึ่งกลาง
เรามาดูกึ่งกลางเนี่ย กลางอะไร และมันมีอะไรมั่ง
และบรรดาละหมาดมีอะไร เวลาไหนบ้าง
ระหว่าง ซุบฮิ กับ อัศริ แบบโองการนี้หรือเปล่า
และจงสดุดีด้วยการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าก่อนการขึ้นของดวงอาทิตย์ และก่อนมันตก (50:39)
ให้สดุดีสรรเสริญก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น .... มันตรงกับละหมาดศุบห์นี่นา
แล้วสดุดีสรรเสริญก่อนดวงอาทิตย์ตก .... ก็ตรงกับละหมาดอัศร์
ระหว่างนี้มีเวลาอะไรบ้าง
ก็มีเวลาอิบการ์ด้วยครับ ซึ่งก็คือ ตอนเช้าๆ และมีเวลา ฎุฮา ด้วยครับ พี่น้องคร้าบ ดังนี้
ซูเราะฮฺ อัฎฎุฮา อายะห์ที่ 1. ขอสาบานด้วยเวลาสาย
และจงรำลึกถึงพระเจ้าของเจ้ามาก ๆ และจงกล่าวสดุดีในความบริสุทธิ์ของพระองค์ ทั้งในเวลาอะชีย์และเวลาอิบการ์ (3:41)
และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้าทั้งในเวลาอะชีย์และเวลาอิบการ์ (40:55)
กึ่งกลางระหว่าง วัน ให้เป็น ดุฮริ แล้วก่อน แต่ก่อนจะกึ่งกลางมีอะไร
มี : อิบการ์ ฎุฮา
แล้วหลังกึ่งกลางมีอะไร
มี : อะชีย์ อัศริ
5 แล้วนะครับ อ๊ะ 5 เวลา โอ้ว ครบแล้ว 5 จริงๆ ............... ยังครับ ยังก่อน ยังมี
58. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! จงให้บรรดาผู้ที่มือขวาของพวกเจ้าครอบครอง (*1*) และบรรดาผู้ที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะในหมู่พวกเจ้า ขออนุญาตพวกเจ้าสามเวลาคือ ก่อนเวลาละหมาดฟัจญริ และเวลาพวกเจ้าเปลื้องเสื้อผ้าในเวลากลางวัน (*2*) และหลังจากเวลาละหมาดอิชาอฺ (*3*) ทั้งสามนี้เป็นเวลาส่วนตัวสำหรับพวกเจ้า (*4*) หลังจากนี้แล้วไม่เป็นที่น่าตำหนิแก่พวกเจ้าและแก่พวกเขา เพราะพวกเขาวนเวียนรับใช้บางคนในหมู่พวกเจ้า เช่นนั้นแหละอัลลอฮฺทรงชี้แจงโองการทั้งหลายให้เป็นที่ชัดแจ้งแก่พวกเจ้า และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ
มีเวลา ฟัจญริ และ อิชา ด้วย กี่เวลาแล้ว
จากคำว่าบรรดา ละหมาด และนับกึ่งกลางอีก 1
ฟัจญริ อิบการ์ ฎุฮา ดุฮริ อะชีย์ อัศริ อิชา 7 แล้ว
ยังนะครับ
ซูเราะห์อัซ-ซุมัร โองการ 9 ซึ่งมีใจความว่า : หรือว่าพวกเจ้า (โอ้ชนชาวมุชริก) จะดีกว่าผู้ที่มีความภักดีที่ทำการกราบนมัสการและตื่นขึ้นในเวลากลางคืน โดยมีความหวั่นกลัว (อันตรายของ) โลกหน้า และมุ่งหวังความเมตตาแห่งองค์อภิบาลของเขา จงประกาศเถิด ! บรรดาผู้รู้กับผู้ไม่รู้นั้นจะเท่าเทียมกันหรือ ? อันที่จริงบรรดาผู้มีวิจารณญาณทั้งหลายย่อมสำนึกแน่
มีแบบกลางคืนอีก กี่เวลาแล้ว
ฟัจญริ อิบการ์ ฎุฮา ดุฮริ อะชีย์ อัศริ อิชา นี่ก็ 8 แล้วครับ
17:78 จงดำรงการละหมาดไว้ตั้งแต่ตะวันคล้อยจนพลบค่ำ และการอ่านยามรุ่งอรุณจริงการอ่านยามรุ่งอรุณนั้นเป็นพยานยืนยันเสมอ
พลบค่ำก็ มัฆริบ ตอนนี้มีเวลาอะไรบ้าง
ศุบฮ์ อิบการ์ ฏุฮา ดุฮริ อะชีย์ อัศริ มัฆริบ อิชา และเวลา ที่ตื่นขึ้นกลางดึก คือ ตะฮัจญุดนะครับ
9 แล้วนะครับ
แล้วจะบอกว่าชัดแจ้งได้ยังไงครับ ในเมื่อเวลา ก่อนกึ่งกลาง มัน 6-8 เวลาเข้าไปแล้ว แต่คุณ มาสรุปว่า บรรดาละหมาด ไม่นับคั่นกลาง นี่ เท่ากับ 4 อย่า มาลักไก่ครับ เลี้ยงเป็ดต่อไปนั่นแหละดีแล้ว
เราจะเห็นได้ว่า เวลาที่เรานับจาก กุรอ่าน โองการที่ 2:238 ไม่ได้นับ5 ครับ นับได้ถึง 9
มีผิดพลาดตรงไหน หรือจะชี้แนะเพิ่มเติมหรือไม่ครับรบกวนด้วย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Fri Feb 06, 2009 10:59 am ชื่อกระทู้: |
|
|
และ
แมทท์บอกว่า
ตั้งแต่ส่วนปลายของตอนเช้า(ซุบฮิ )และส่วนปลายของตอนเย็น(มัฆริบ) และ อีก เวลาหนึ่งเวลาหนึ่ง เมื่อเริ่มเข้าเวลากลางคืน (11:114)
แต่จริงเขาแปลว่า
114. และเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด ตามปลายช่วงทั้งสองของกลางวัน(*1*) และยามต้นจากกลางคืน(*2*) แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมลบล้างความชั่วทั้งหลายนั่นคือข้อเตือนสำหรับบรรดาผู้ที่รำลึก(*3*)
(1) หมายถึงละหมาดศุบฮ์และอัศร
(2) หมายถึงละหมาดมักริบและอีชาอ์
(3) ผู้รำลึกคือผู้ที่อยู่ในแนวทางที่เที่ยงธรรม และดำรงรักษาไว้ซึ่งการละหมาด ดังนั้น การรักษาไว้ซึ่งการละหมาดก็ดี และการทำความดีอย่างอื่น ๆ ก็ดี เป็นข้อเตือนสำหรับผู้รักการตักเตือนและเป้นการชี้แนะแก่ผู้ที่รักการชี้แนะไปสู่ความดี
แปลว่า อัศริ
แล้วแปลว่าอะไรได้อีก
และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้าทั้งในเวลาอะชีย์และเวลาอิบการ์ (40:55)
อะชีย์ ก็ เวลาเย็นๆนะครับ จะไปเบียดกับอัศริ ตอนไหนไม่ทราบ
นี่ก็ปลายของวัน
อ่อส้วนต้นของกลางคืน เขาแปลว่า (2) หมายถึงละหมาดมักริบและอีชาอ์
จะเห็นได้ว่าการแปลนี้เนี่ย อาศัยแบบอย่างของท่านนบี เพื่อขยายครับ เพราะไม่งั้น จะไม่ได้ละหมาด 5 เวลาครับ
17:78. จงดำรงการละหมาดไว้ตั้งแต่ตะวันคล้อยจนพลบค่ำ และการอ่านยามรุ่งอรุณ(*1*)จริงการอ่านยามรุ่งอรุณนั้นเป็นพยานยืนยันเสมอ
จะว่าไป 17:78 เนี่ย บอกว่า ตั้งแต่ตะวันคล้อย ถึงพลบค่ำ ไม่ได้ให้แบ่ง ไม่แน่ เราอาจจะต้องคอมโบ ละหมาด จนถึงค่ำก็ได้ ถ้าจะเอาแต่กุรอ่านโดยไม่เอาแบบอย่างนบีนะครับ
ที่สำคัญ แน่ใจได้อย่างไรว่า ก่อนพลบค่ำ คืออัศริ หรือมัฆริบ เวลา ฟัจญริ คืออะไรกันแน่ ตั้งแต่ตะวันคล้อย ไปจนพบค่ำ ไม่ใช่อะชีย์แน่รึ ถ้าไม่อาศัยฮะดีษ เอาแค่กุรอ่านนะครับ
อย่ามาอ้างว่าสืบทอดมาตั้งแต้นบีอิบรอฮีมนะครับ เพราะทั้งยิวและคริสต์ ไม่ได้ละหมาด5เวลา ถ้าสืบทอดมาจริง แล้วทำไมมีแค่อิสลามที่ละหมาด 5 เวลา |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Fri Feb 06, 2009 11:01 am ชื่อกระทู้: |
|
|
แมทท์ คือพวกปฏิเสธฮะดีษ และพยายามบอกว่า การตามฮะดีษ เป็นบิดอะห์บ้าง ต่อเติมศาสนาบ้าง จนถึงขั้นชีริก
มุสลิมที่นั่นเลยพากันถามว่า ถ้าไม่มีฮะดีษ ละหมาดยังไง รู้ได้ไงว่ามี 5 เวลา
มันเลยพยายามแถว่า ละหมาด มี 5 เวลา หาได้ในกุรอ่าน โดยไม่ต้องพึ่งฮะดีษ แต่มีผู้รู้ที่นี่ บอกว่า ถ้าเอาแค่กุรอ่าน หาได้มากกว่านั้น แมทท์เลย เริ่มแถมาเรื่อยๆ นี่แหละครับ
ขอเชิญทุกท่าน พิจารณาได้เลยครับว่า มันมั่วไหม และผมควรตอบอะไรบ้าง เพื่อความชัวร์ครับ
รบกวนด้วย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
maliksn มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/10/2008 ตอบ: 164
|
ตอบ: Fri Feb 06, 2009 10:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
Carroth บันทึก: | แมทท์ คือพวกปฏิเสธฮะดีษ และพยายามบอกว่า การตามฮะดีษ เป็นบิดอะห์บ้าง ต่อเติมศาสนาบ้าง จนถึงขั้นชีริก
มุสลิมที่นั่นเลยพากันถามว่า ถ้าไม่มีฮะดีษ ละหมาดยังไง รู้ได้ไงว่ามี 5 เวลา
มันเลยพยายามแถว่า ละหมาด มี 5 เวลา หาได้ในกุรอ่าน โดยไม่ต้องพึ่งฮะดีษ แต่มีผู้รู้ที่นี่ บอกว่า ถ้าเอาแค่กุรอ่าน หาได้มากกว่านั้น แมทท์เลย เริ่มแถมาเรื่อยๆ นี่แหละครับ
ขอเชิญทุกท่าน พิจารณาได้เลยครับว่า มันมั่วไหม และผมควรตอบอะไรบ้าง เพื่อความชัวร์ครับ
รบกวนด้วย |
ผมว่ามุสลิมที่นั่น น่าจะย้ำคำถามให้นายแมทท์บ่อยๆ ว่า
ถ้าไม่มีฮะดีษ แล้วจะรู้ได้ยังไง ว่าละหมาดทำท่าทางแบบไหน ช่วงไหนอ่านยังไง เพราะอัลกุรอ่านไม่ได้มีระบุไว้
อัลฮาดีษ คือ คำพูด การกระทำ การยอมรับของนบี
อัลกุรอ่าน คือ สิ่งที่อัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้า ประทานผ่านมาทางนบีมูฮัมหมัด
น่าแปลกที่นายแมทท์ จะเลือกเอาเฉพาะอัลกุรอ่าน ที่ถูกประทานผ่านมาทางนบีมูฮัมหมัด แต่กลับไม่เอาฮาดีษ ที่มีที่มา จากท่านนบีมูฮัมหมัดเหมือนกัน ซะงั้น?
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AlGhuraba มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 226
|
ตอบ: Tue Feb 10, 2009 8:34 am ชื่อกระทู้: |
|
|
จาก web pantip ที่กล่าวถึงนั้น เขาบอกว่า....
(ความคิดเห็นที่ 11)
การอธิบายข้างล่างนี้ เป็นการอธิบายตาม ไวยกรณ์ ไม่ใช่การคัฟซีรฺ หรือ ตีควาวมหมายโดยการเดาซุ่ม
(ความคิดเห็นที่ 14)
เลขคี่ ที่อยู่ระหว่างกลาง ของจำนวนเลขคู่ ที่มากกว่า 3 นั้นก็คือ 4
เมื่อรวมจำนวนจาก เวลาที่กล่าวในอัลกุรอานแล้ว เราจะได้จำนวน การละหมาด 5 ครั้ง (เวลา) ในวันหนึ่ง, เราจะเห็นว่าเพียง แค่ อายะ 2:238 เพียงอายะเดียว ก็เพียงพอที่จะ แสดง ให้เห็นว่า การ ละหมาด 5 เวลา มีกล่าว กล่าวไว้ใน อัลกุร อาน อย่างชัดแจ้ง ซึ่งไม่มีความจำเป็นจะต้อง ดำเนินการถกเถียง ในเรื่อง นี้ให้เยิ่นเย้อต่อไป
==================
พี่น้องครับ แต่ก่อนสมัยมากลิ้งกลอกที่มรดกฯ นี่อยู่พักนึง เขาชอบเอาไก่มาปล่อยแถวนี้บ่อยๆ นานวันเข้าก็ขยับเป็นเป็ด แล้วก็ห่าน นานๆทีผมเข้าไปใน pantip ไปเจออีกทีกลายเป็นนกกระจอกเทศไปซะแล้ว คราวนี้เพิ่งจะโม้ว่าไม่ได้เดาสุ่มอยู่หยกๆ นายแมทท์ก็ปล่อยไดโนเสาร์ตัวเบิ้มออกมาวิ่งเพ่นพ่านอีก ของเล่นของเขาช่างมีพัฒนาการดีเหลือเกิน...โตวัน โตคืน เนอะ
เลขคู่ของนายแมทท์น่ะ เค้าเรียนมาตั้งแต่อนุบาลยัน ด็อกฯ เลยหรือว่า มีแต่เลข 4 ตัวเดียว ???
โลกปัจจุบันแบ่งเวลาหนึ่งวันออกเป็น 24 ชม. ก็เลขคู่ไม่ใช่หรือครับ ที่มีครึ่งหนึ่งคือ 12 กับกึ่งกลางอีก 1 เวลา แปลว่า ตามฐานตัวเลขนี้พวกที่อ้างข้างๆคูๆว่ายึดกุรอานอย่างเดียวต้องละหมาดทุกชั่วโมง ชั่วโมงละครั้ง กับตอน 12.30 อีกหนึ่ง เป็น 25 เวลาต่อวัน....เช่นนี้ตรงตามนัยยะของอายะฮฺ 2:238 เป๊ะเลย
ใช่ปะ
ยังครับ...ยังแปลได้อีกว่า ถ้าเราเอาเลข 48 มาเป็นฐานคิด(มั่วๆตามต้นตำรับแมทท์) แล้วกึ่งกลางอีก 1, ตะฮัจญุด ตามอายะฮฺ 17:79 อีก 1 รวมเป็น 50 เวลา ก็จะตรงตามที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม รับบัญชาจากอัลลอฮฺมาแต่แรกในคืนอัลเมียะอฺรอจญ์ ซึ่งไม่ได้ขัดกับอายะฮฺ 2:238 ที่นายแมทท์อ้างมาตัดบท ความเยิ่นเย้อ ที่เขาลากมาเป็นปีๆด้วย...เอ้อ..เอากะมันสิ
ที่เขาเอาเลข 5 มาถูๆไถๆสรุปให้ตรงกับอิสลาม ก็เพราะในอิสลามท่านนบีสั่งไว้ 5 เวลา
عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ رَضِي الله عَنْهمَا أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بَعَثَ مُعَاذًا رَضِي الله عَنْه إِلَى الْيَمَنِ فَقَالَ ادْعُهُمْ إِلَى شَهَادَةِ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَأَنِّي رَسُولُ اللَّهِ فَإِنْ هُمْ أَطَاعُوا لِذَلِكَ فَأَعْلِمْهُمْ أَنَّ اللَّهَ قَدِ افْتَرَضَ عَلَيْهِمْ خَمْسَ صَلَوَاتٍ فِي كُلِّ يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ فَإِنْ هُمْ أَطَاعُوا لِذَلِكَ فَأَعْلِمْهُمْ أَنَّ اللَّهَ افْتَرَضَ عَلَيْهِمْ صَدَقَةً فِي أَمْوَالِهِمْ تُؤْخَذُ مِنْ أَغْنِيَائِهِمْ وَتُرَدُّ عَلَى فُقَرَائِهِمْ
البخاري : الزكاة
อิบนิอับบาสรายงานว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม ได้แต่งตั้งมุอาซไปยังเมืองยะมัน ท่านสั่งว่า เจ้าจงเรียกร้องเชิญชวนพวกเขาสู่คำปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และฉัน(มุฮัมมัด)เป็นรอซูลของพระองค์
ถ้าพวกเขาเชื่อฟังตามนี้ก็จงสอนให้พวกเขารู้ว่าอัลลอฮฺได้ทรงกำหนดเป็นฟัรฎูแก่พวกเขาให้ละหมาดในแต่ละวันกับคืนหนึ่ง 5 เวลา
ถ้าพวกเขาเชื่อฟังตามนี้ก็จงสอนให้พวกเขารู้ว่าอัลลอฮฺได้ทรงกำหนดการจ่ายทานบังคับจากทรัพย์สินของพวกเขาที่เก็บจากคนมั่งมีในพวกเขานำมาคืนแก่คนยากจนในพวกเขา
( บันทึกโดย บุคอรี : อัซฺซฺะกาฮฺ )
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ أَنَّهُ سَمِعَ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ أَرَأَيْتُمْ لَوْ أَنَّ نَهَرًا بِبَابِ أَحَدِكُمْ يَغْتَسِلُ فِيهِ كُلَّ يَوْمٍ خَمْسًا مَا تَقُولُ ذَلِكَ يُبْقِي مِنْ دَرَنِهِ قَالُوا لَا يُبْقِي مِنْ دَرَنِهِ شَيْئًا قَالَ فَذَلِكَ مِثْلُ الصَّلَوَاتِ الْخَمْسِ يَمْحُو اللَّهُ بِهِ الْخَطَايَا
البخاري : مواقيت الصلاة
อบูฮุร็อยเราะฮฺรายงานว่า เขาได้ยินท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า พวกท่านเห็นเป็นอย่างไร ถ้าหากว่ามีลำธารไหลผ่านหน้าประตูบ้านคนใดคนหนึ่งในพวกท่าน ที่เขาได้อาบน้ำในลำธารนั้นทุกวันวันละ 5 ครั้งท่านว่ามันยังจะเหลือสิ่งสกปรกที่ตัวเขาอยู่หรือไม่ บรรดาเศาะหาบะฮฺตอบว่า ไม่เหลือสิ่งสกปรกที่ตัวเขาเลยสักสิ่ง ท่านกล่าวต่อไปว่า นั่นก็เปรียบเสมือนการละหมาด 5 เวลานี่แหละ ที่อัลลอฮฺจะทรงลบล้างความผิดต่างๆให้แก่เขา
( บันทึกโดย บุคอรี : มะวากีตุศเศาะลาฮฺ )
ในอิสลามมีหลักฐานเช่นนี้ และมุสลิมก็เชื่อและปฏิบัติตามนี้ แต่ในลัทธิ mattism สาขาหนึ่งของ submissionism ไม่เชื่อและพยายามดึงดันหาหลักฐานมาแย้งตามที่เขาอ้างข้างต้น อ่านคำอธิบายอย่างผิวเผินก็อาจจะเคลิ้มตาม แต่นั่นก็เพราะมีเลข 5 ล็อกอยู่ในใจแล้วนั่นเอง
ถ้าไม่มีเลข 5 อยู่ก่อน จากข้ออ้างนี้เราจะได้ lower limit เป็น 3 เวลา คือถ้าใน อัศเศาะละวาต (พหูพจน์ตั้งแต่ 3 ขึ้นไป) นั้นรวม เศาะลาตุลวุสฏอ(เอกพจน์ 1)ไว้ด้วยแล้ว และคงจะไม่สามารถต่ำกว่านี้ได้
ถ้าให้ อัศเศาะละวาต เป็น 4 เศาะลาตุลวุสฏอ อีก 1 ก็จะได้ 4+1 = 5 ตรงกับบัญญัติในอิสลาม
ถ้าให้ อัศเศาะละวาต เป็น 6 เศาะลาตุลวุสฏอ อีก 1 ก็จะได้ 6+1 = 7 กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกของพวกกุรอานียูน
เรื่อยไปจนถึง ให้ อัศเศาะละวาต เป็น 48 เศาะลาตุลวุสฏอ อีก 1 แถมด้วยตะฮัจญุดกลางดึกอีก 1 ซึ่งมีย้ำอยู่ในอัลกุรอาน ก็จะได้ 48+1+1 = 50 ตรงกับบัญชาเริ่มต้นวันเมียะอฺรอจญ์เลยไม่ใช่หรือ !
คุณ carroth หาให้เขาได้ 9 เวลา ผมเองก็เคยอ้างให้ดูเมื่อหลายปีก่อนได้ถึงหนึ่งโหล หรือถ้าจะขยันหาต่อไปมันก็ยาวไปได้อีกเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นจากอายะฮฺที่อ้าง ที่เขาโมเมว่าเพียงพอแล้วน่ะ เราจะได้แค่ lower limit เท่านั้น ส่วน upper limit ยังมองไม่เห็นฝั่งเลยครับ
เพราะนั้นคุณว่ามันเพียงพอหรือยังล่ะที่จะให้มนุษย์ชนิดอย่างนี้สรุปให้ได้ซะทีว่า พวกกุรอานียูนต้องละหมาดวันละกี่เวลาแน่ ตั้งแต่ 3 ยัน infinity ???? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AlGhuraba มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 226
|
ตอบ: Tue Feb 10, 2009 8:46 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ไหนๆก็เข้ามาคุยแล้ว คงไม่ว่ากระไรนะครับ ถ้าผมจะขอกล่าวถึงการเสนอความคิดเห็นของคุณ Carroth สักเล็กน้อย
(ความคิดเห็นที่ 20)
การแตกนิกายผมบอกสาเหตุไปแล้วครับว่ามันไม่ได้เกิดจากการใช้ฮะดีษ และมิได้แปลกแยกไปจากท่านรอซู้ลแต่อย่างใด แต่เป็นการยึดกุรอ่านและแบบอย่างของท่านรอซู้ลอย่างเต็มกำลัง
-----------------------
ถ้าตรงนี้คุณหมายถึงการแยกตัวจากอิสลามไปเป็นชีอะฮฺ ผมขอเรียนว่า มันเริ่มจากการแตกแยกทางการเมือง แล้วก็พยายามอิงเข้ามาหาศาสนาเพื่อหวังผลการยอมรับจากมวลชนโดยเน้นตัวบุคคลเป็นหลัก จนกลายเป็นการยอมรับนับถือการบัญญัติศาสนาตามอำเภอใจจากกลุ่มบุคคลที่อุปโลกน์กันให้มีฐานะเหนือรอซูลของอัลลอฮฺ ซึ่งเป็นการ แปลกแยกไปจากท่านรอซู้ล อย่างไกลลิบและเป็นต้นแบบอีกรุ่นหนึ่งของการยึดถือบรรพบุรุษ ไม่ใช่ การยึดกุรอ่านและแบบอย่างของท่านรอซู้ลอย่างเต็มกำลัง อย่างที่เข้าใจเลย เรื่องนั้นเป็นเพียงคำอ้างลอยลมเท่านั้นครับ
==================
และใน : http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7447685/Y7447685.html
ขอรวบกวนผู้รู้หรือผู้นับถือศาสนาอิสลามช่วยตอบคำถามหนูหน่อยค่ะ เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพระเจ้า
ความคิดเห็นที่ 4
บอกว่า ท่านนบี ชื่อเดิมว่า อบูกัสเสม ก็มีครับในตำราซึ่งจริงๆมันน่าจะเลิกไปได้แล้ว เพราะมันมั่ว
จากคุณ : Carroth - [ 23 ม.ค. 52 17:16:43 ]
-----------------------
ขอให้คุณดูตรงนี้ครับ
عَنْ أَبِي الشَّعْثَاءِ قَالَ كُنَّا قُعُودًا فِي الْمَسْجِدِ مَعَ أَبِي هُرَيْرَةَ فَأَذَّنَ الْمُؤَذِّنُ فَقَامَ رَجُلٌ مِنَ الْمَسْجِدِ يَمْشِي فَأَتْبَعَهُ أَبُو هُرَيْرَةَ بَصَرَهُ حَتَّى خَرَجَ مِنَ الْمَسْجِدِ فَقَالَ أَبُو هُرَيْرَةَ أَمَّا هَذَا فَقَدْ عَصَى أَبَا الْقَاسِمِ صَلَّى اللَّهم عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
จากอบูชะอฺษาอ์ เล่าว่า พวกเรานั่งอยู่ในมัสญิดกับท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ พอมุอัซซินอะซานก็มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นเดนออไปจากมัสญิด ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺก็มองตามเขาไปจนกระทั่งเขาออกไปพ้นมัสญิด อบูฮุร็อยเราะบอกว่า นายคนนี้มันฝ่าฝืนอบุลกอซิม ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม ซะแล้ว (บันทึกโดย มุสลิม)
ท่านนบีมีอีกชื่อหนึ่งว่า อบุลกอซิม จริงครับ ถามอาจารย์แถวนี้ดูได้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
คนที่เดินผ่าน มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 13/02/2006 ตอบ: 104 ที่อยู่: jaseen_muslim@hotmail.com
|
ตอบ: Tue Feb 10, 2009 10:29 am ชื่อกระทู้: |
|
|
...อ้างอิงจากคุณ AlGhuraba ครับ...
และใน : http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7447685/Y7447685.html
ขอรวบกวนผู้รู้หรือผู้นับถือศาสนาอิสลามช่วยตอบคำถามหนูหน่อยค่ะ เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพระเจ้า
ความคิดเห็นที่ 4
บอกว่า ท่านนบี ชื่อเดิมว่า อบูกัสเสม ก็มีครับในตำราซึ่งจริงๆมันน่าจะเลิกไปได้แล้ว เพราะมันมั่ว
จากคุณ : Carroth - [ 23 ม.ค. 52 17:16:43 ]
-----------------------
ขอให้คุณดูตรงนี้ครับ
عَنْ أَبِي الشَّعْثَاءِ قَالَ كُنَّا قُعُودًا فِي الْمَسْجِدِ مَعَ أَبِي هُرَيْرَةَ فَأَذَّنَ الْمُؤَذِّنُ فَقَامَ رَجُلٌ مِنَ الْمَسْجِدِ يَمْشِي فَأَتْبَعَهُ أَبُو هُرَيْرَةَ بَصَرَهُ حَتَّى خَرَجَ مِنَ الْمَسْجِدِ فَقَالَ أَبُو هُرَيْرَةَ أَمَّا هَذَا فَقَدْ عَصَى أَبَا الْقَاسِمِ صَلَّى اللَّهم عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
จากอบูชะอฺษาอ์ เล่าว่า พวกเรานั่งอยู่ในมัสญิดกับท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ พอมุอัซซินอะซานก็มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นเดนออไปจากมัสญิด ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺก็มองตามเขาไปจนกระทั่งเขาออกไปพ้นมัสญิด อบูฮุร็อยเราะบอกว่า นายคนนี้มันฝ่าฝืนอบุลกอซิม ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม ซะแล้ว (บันทึกโดย มุสลิม)
ท่านนบีมีอีกชื่อหนึ่งว่า อบุลกอซิม จริงครับ ถามอาจารย์แถวนี้ดูได้
.............................................................................................................
...เรื่องชื่อนี้อาจเป็นความเข้าใจผิดของผู้ถาม เพราะเขาเอามาจากในหนังสือ "ศาสนาเปรียบเทียบ" ของ อ.เสฐียร นามสกุลจำไม่ได้แล้วแต่ ผมเคยอ่านผ่านตามา...
...เขาเขียนประมาณว่า พอท่านร่อซูล เกิด ก็ถูกตั้งชื่อเลยว่า อบูกอซิม ต่อมาเมื่อได้ประกาศศาสนาก็เปลี่ยนชื่อเป็น มูหัมมัด อะไรประมาณนี้นะครับ...
...ความจริงแล้วไม่ถูกต้อง ซึ่งตามหลักภาษาแล้วก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะท่านร่อซูล เกิดมายังไม่มีลูกแล้วจะชื่อ อบูกอซิมได้อย่างไร...
...คุณ Carroth และ คุณ AlGhuraba ก็พูดถูกทั้งคู่ แต่ต่างกันตรงจะเรียกท่านร่อซูล ก่อนมีลูก หรือหลังมีลูก เท่านั้น...
...แต่ที่แน่ๆในหนังสือนั้นนะผิดเต็มๆ...
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
คนที่เดินผ่าน มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 13/02/2006 ตอบ: 104 ที่อยู่: jaseen_muslim@hotmail.com
|
ตอบ: Tue Feb 10, 2009 10:35 am ชื่อกระทู้: |
|
|
...ผมพยายามสมัครเข้าเวปพันทิพย์ แล้วยังสมัครไม่ได้ซักที...
...ใครมีวิธีง่ายๆช่วยบอกที หรือจะสมัครให้หน่อยช่วยซอดาเกาะห์ เด็กน้อยตาดำๆซักคน...
...มันไม่เห็นตอบรับซักที... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Tue Feb 10, 2009 11:38 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ต้องขออภัย ที่หลังๆ เวลาผมสนทนากับแมทท์ ผมไม่ได้ลงเครดิตไว้ แต่จริงๆ อายะห์ที่ผมยกมาเรื่องนับจำนวนละหมาด ผมก็อ้างอิงจาก ท่าน AlGhuraba นั่นแหละครับ แต่ผมนับได้แค่ 9
การแตกนิกายผมบอกสาเหตุไปแล้วครับว่ามันไม่ได้เกิดจากการใช้ฮะดีษ และมิได้แปลกแยกไปจากท่านรอซู้ลแต่อย่างใด แต่เป็นการยึดกุรอ่านและแบบอย่างของท่านรอซู้ลอย่างเต็มกำลัง
อันนี้ ผมคงพิมพ์ผิดอ่ะครับ เพราะผมอ่านแล้วผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นแน่ๆ ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ
ขอรวบกวนผู้รู้หรือผู้นับถือศาสนาอิสลามช่วยตอบคำถามหนูหน่อยค่ะ เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพระเจ้า
ความคิดเห็นที่ 4
บอกว่า ท่านนบี ชื่อเดิมว่า อบูกัสเสม ก็มีครับในตำราซึ่งจริงๆมันน่าจะเลิกไปได้แล้ว เพราะมันมั่ว
จากคุณ : Carroth - [ 23 ม.ค. 52 17:16:43 ]
อันนี้ อย่างที่ท่าน คนที่เดินผ่าน บอกนั่นแหละครับ ผมหมายถึง ท่านนบีไม่ได้มีชื่อเดิมว่า อบุลกัสเสมแต่เป็นฉายาที่ได้ทีหลังเพราะท่านมีลูก ชื่อ กอซิม ขื่อนี้จึงเป็นชื่อเดิมท่านไม่ได้
ขอบคุณนะครับ สำหรับคำชี้แนะต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาดบอกมาได้เลยครับ ผมไม่ใช่คนมีความรู้ทางศาสนา ที่เอาไปตอบก็เอามาจาก ท่านผู้รู้จากหลายเว็บเลย โดยเฉพาะเวลาคุยกับแมทท์ก็เอามาจาก เว็บนี้เป็นหลักๆ
ญาซากัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺตอบแทนความดีทุกท่านด้วยครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
maliksn มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/10/2008 ตอบ: 164
|
ตอบ: Tue Feb 10, 2009 4:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อยากทราบประวัติของนายแมทท์ครับ ว่าหมอนี่มันเป็นใครกัน?
__________________________________
ท่านรสูลุลลอฮฺ(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)กล่าวว่า ทุกๆบิดอะฮฺนั้นหลงผิดและออกนอกลู่นอกทาง บันทึกโดยอบูดาวูด(ลำดับที่ 4607), อัต-ติรฺมิซีย์(ลำดับที่2676) อิบนุ หะญัรฺ รับรองไว้ว่าเศาะฮิ้หฺ ในตัครีจ อะหะดีษ อิบนุล-ฮาญิบ (1-137)
และตัวท่าน(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)ได้กล่าวไว้อีกว่า ...และทุกๆบิดอะฮฺนั้นหลงผิด และทุกๆความหลงผิดนั้นอยู่ในนรก บันทึกโดยอัน-นาสาอีย์(1/224) จากญาบิรฺ บิน อับดุลลอฮฺ และท่านเชคุล-อิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺกล่าวว่าเศาะฮิ้หฺ ในมัจญ์มูอฺ อัล-ฟัตวา (3/58)
ท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)ยังห้ามไม่ให้เราไปเป็นมิตร, สนับสนุนหรือคุยกับคนที่ทำบิดอะฮฺ ดังที่หะดีษกล่าวว่า ใครก็ตามที่ทำบิดอะฮฺหรือปรองดองกับผู้ที่ทำบิดอะฮฺ คำสาปแช่งจากอัลลอฮฺ, บรรดามลาอิกะฮฺของพระองค์ และมนุษชาติทั้งปวง จะตกอยู่ที่เขา บันทึกโดยบุคอรีย์(12/41)และมุสลิม (9/140)
ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
من عمل عملاً ليس عليه أمرنا فهو رد
"ผู้ใดประกอบการงานใดที่ไม่มีคำสั่งของเราบนมัน นั้นมันถูกปฏิเสธ" รายงานโดยมุสลิม
อารีฟีน แสงวิมาน ผู้ไม่ห้ามปรามเรื่องอากีดะแก่ครู
ขนาดอากีดะครูมันเองยังเอาไม่รอด แต่จะไปถล่มอากีดะคนอื่น?
อารีฟีน แสงวิมาน เรียนอยู่ใกล้ประเทศอิสราเอลซะเปล่า แต่ไม่ไปช่วยเหลือพี่น้องที่ปาเลสไตน์
salafyah บันทึก: | ใครรู้จัก อัลอัซอารี เเห่งเวปบิดอะสติวเด้นมั้ง
มีคนฝากมาให้ช่วยไปบอกเค้าว่า.....
คุณนูรีฮัน มาเลเซีย ไม่มีวันให้อภัย เเกเค้าคนนั้นตราบใด
คุณอัลอัซอารี ไม่ยอมบอกกล่าวสิ่งที่เค้าได้ตั้งข้อฟิตนะที่ร้ายเเรงให้คุณนูรีฮัน มาเลเซีย
เเละตราบใดที่ไม่ยอมขอมาอัฟจากคุณนูรีฮัน
เป็นฮักกุลอาดัมไปตลอดชีวิตเลย |
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Tue Feb 24, 2009 5:42 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสลามุอาลัยกุมครับ
ในที่สุดแมทท์ก็กลับมาอีกแล้วครับ คราวนี้ถามหา ฮะดีษจากผมดังนี้
ผมได้ให้ จุดเริ่มต้นในการอธิบายการละหมาดตามคำสั่งจากอัลกุรอานไว้แล้วและในทำนองเดียวกัน..ผมขอถามคำถามข้างล่างนี้โดยตรงต่อคุณCarroth ว่า...
" จุดเริ่มต้นในการละหมาด 5 เวลา ตาม อะหะดีษที่คุณว่านั้น มีอยู่ที่ใด หมวดใด และ หมายเลข อะไร? และเป็น ฮาดีษ ระดับใด?"
จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7541721/Y7541721.html
ดังนั้นรบกวนท่านผู้รู้รวบรวมฮะดีษ ที่เกี่ยวกับละหมาด ให้ผมด้วยครับว่า ฮะดีษไหน ระดับใด หรือถ้าอยากจะตอบอะไร ผมก็จะเอาไปตอบให้ ด้วยและผมขออนุญาต ท่าน AlGhuraba เอาฮะดีษที่ท่านหามาไปตอบก่อนนะครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Carroth มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 06/02/2009 ตอบ: 20
|
ตอบ: Sun Mar 01, 2009 12:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ยังคงรออยู่ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
AlGhuraba มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 15/06/2004 ตอบ: 226
|
ตอบ: Thu Mar 05, 2009 8:26 am ชื่อกระทู้: |
|
|
السلام عليكم
สงสัยครับ....คุณ Carroth
1 จาก pantip.com : การละหมาด 5 เวลา ในอัลกุรอาน กับความไม่รู้เรื่องของแมทท์ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7579038/Y7579038.html
ที่คุณเปิดประเด็นไว้ว่า...
นี่เป็นโองการกุรอ่านครับ ที่ยืนยันชัดเจนว่า การละหมาด 5 เวลานั้น มีมาหลังจากการประทานกุรอ่านมาแล้วระยะเวลานึง มาอ่านดู
อัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ระบุไว้ในซูเราะฮ์ อัลมุซซัมมิล และการวายิบละหมาดครั้งแรกนั้น ก็ได้ระบุไว้ในช่วงแรกของซูเราะฮ์ดังกล่าว ซึ่งพระองค์ได้ทรงตรัสว่า "โอ้ผู้ห่มผ้า (หมายถึงนบีมุฮัมมัดซึ่งกำลังห่มผ้า) - 1 - เจ้าจงตื่นกลางคืน(เพื่อทำละหมาด)เถิด ยกเว้นเพียง(เวลา)เล็กน้อย (เพื่อใช้ในการพักผ่อน) - 2 - (นั่นคือ) ครึ่งคืน หรือจงลดลงจากนั้นลงมาสักเล็กน้อย - 3 - หรือจงเพิ่งขึ้นกว่านั้นอีก และเจ้าจงอ่านอัลกุรอานให้ถูกต้องชัดเจน - 4 - "
นี่เป็นหลักฐานจากกุรอ่านชัดเจนครับว่า จงตื่นขึ้น เพื่อละหมาด
ขอความชัดเจนอีกนิดว่า ข้อความนี้หมายถึงอะไร ระหว่าง
ก. การละหมาดเพิ่งมีบัญญัติในยุคนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอฺะลัยฮิวะสัลลัม ยุคก่อนๆนั้น ไม่มีการละหมาด
ข. การละหมาด 5 เวลา เพิ่งมีบัญญัติในยุคนี้ โดยเน้นที่ 5 เวลา ซึ่งก่อนหน้านั้น ในสมัยนบีก่อนๆ ก็มีละหมาดกันมาแล้ว แต่ไม่ได้จำเพาะเป็นวาญิบ 5 เวลา
ถ้าเป็นนัยยะแรก...เห็นทีจะต้องปรับความเข้าใจกันก่อนที่จะไปเสนออะไรในพื้นที่นั้นนะครับ
แต่ถ้าเป็นนัยยะหลัง...ผมยังไม่แน่ใจครับ อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ เพราะยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ชัดว่า 5 หรือเปล่า
=========================
2 อ่านการแสดงความเห็นของคุณแล้ว มีอะไรบางอย่างที่ผมรู้สึกว่า จำเป็นต้องเตือน
การกล่าวหาใครด้วยเรื่องใดก็ตาม ต้องมีหลักฐาน มีพยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความผิดทางเพศ
ถ้าเป็นกรณีซินา ชายกับหญิง แม้จะเห็นจริง รู้จริง แต่ถ้าผู้กล่าวหาไม่มีพยาน เค้าเรียกว่า ปรักปรำ.... มีโทษนะครับ โดนโบย และไม่ให้รับชะฮาดะฮฺของเขาด้วย
กรณี ลิวาฏ ชายกับชาย ก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน
เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้ต้องระวังให้มาก อย่าเอามันอย่างเดียว ต้องยึดกับหลักการไว้ด้วย เพราะผลของมันคือ ฟิตนะฮฺครับ
และข้อ 3 บทสรุปของการโต้แย้งถกเถียง คือ
وجادلهم بالتي هي احسن
จงโต้กับพวกมันด้วยสิ่ง(และวิธีการ)ที่ดียิ่ง
มันรวมทั้งหมดนะครับ ทั้งตัวบท หลักฐานที่เหนือกว่า คืออัลกุรอานและคำสั่งจากท่านนบี รวมทั้งการรักษากิริยามารยาท และห่างไกลจากการละเมิดในทุกๆด้าน
ด้วยความเคารพครับ ท่าน
وَذَكِّرْ فَإِنَّ الذِّكْرَى تَنفَعُ الْمُؤْمِنِينَ
และจงเตือนเถิด เพราะการเตือนนั้นมันยังประโยชน์แก่ผู้ศรัทธา (51:55)
อัลฆุเราะบาอ์ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|