ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
เซาดะห์ มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 07/06/2004 ตอบ: 2
|
ตอบ: Mon Jun 07, 2004 2:37 am ชื่อกระทู้: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
ดิฉันอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขาเขียนว่า"วาฮาบีตัวอันตราย" ใครทราบที่มาที่ไปช่วยตอบด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nuroiya มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 28/12/2003 ตอบ: 41
|
ตอบ: Mon Jun 07, 2004 6:15 am ชื่อกระทู้: |
|
|
อัสสลามุอ้าลัยกุม
ที่ดิฉันพอจะทราบก็คือ เป็นชื่อคน มูฮำหมัด บิน อับดุลวาฮับ เป็นคนที่มาฟื้นฟูอิสลามตามกุรอานและซุนนะห์ของท่านนบี มูฮำหมัด ศ็อลลัลลอฮุอ้าลัยฮิว่าซัลลัม ใครมีข้อมูลมากกว่านี้ก็เชิญได้น่ะค่ะ ดิฉันอยากจะขอความร่วมมือกับทุก ๆ คน ในการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในทางที่ถูกต้อง เพราะมิฉะนั้นพวกเราก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย วัสสลาม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nes มือเก่า
เข้าร่วมเมื่อ: Mar 12, 2004 ตอบ: 80 ที่อยู่: bkk
|
ตอบ: Mon Jun 07, 2004 7:52 am ชื่อกระทู้: re: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
เมื่อมุสลิมทะเลาะกัน แล้วใช้มือกาเฟรมาฆ่าฟันพี่น้องมุสลิม
เราขอประณามท่านครูขายศาสนา ให้ข้อมูลเท็จกับทางการ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
cavaso มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: Apr 17, 2004 ตอบ: 10
|
ตอบ: Mon Jun 07, 2004 12:23 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
บิสมิลลาฮิรฺเราะห์มานิรฺรอหีม
1. ชื่อ วะฮาบีย์
วะฮาบียะฮ คือ ชื่อของขบวนการฟื้นฟูอิสลาม โดยการนำของ เชคมูฮัมมัด อิบน อับดุลวาฮาบ มีชีวิตอยู่ในช่วง
(1115 1206 ฮ.ศ.) ตรงกับ (1703 1791 ค.ศ.) ที่เมืองนัจด ในซาอุดิอาระเบีย ชื่อนี้มาจากพยางค์ที่สองของชื่อบิดา
คือ อัลวะฮาบ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นพระนามหนึ่งของอัลลอฮ พระผู้เป็นเจ้า มีความหมายว่า ผู้ทรงให้อย่างมากมาย ชื่อนี้บางคนเรียกเพี้ยนเป็น วะฮบีย์ ซึ่งไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคือ วะฮาบียะฮ หมายถึง ขบวนการฟื้นฟูอิสลาม วะฮาบียะฮ หรือ วะฮาบีย์ หมายถึงผู้มีแนวคิดและแนวปฏิบัติตามขบวนการดังกล่าว
อย่างไรก็ตามชื่อนี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มวะฮาบียะฮ เนื่องจากเป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นโดยฝ่ายต่อต้าน และมักจะนำมาใช้ในเชิงลบเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มวะฮาบียะฮเองจึงไม่ใช้ชื่อนี้เรียกกลุ่มของตน แต่จะเรียกกลุ่มของตนว่ากลุ่ม สะลาฟียะฮ (Salafiah) หรือ สะละฟียูน(Salafiyoon) แปลว่า กลุ่มที่ยึดมั่นในแนวคิดดั้งเดิมของอิสลาม หรือบางทีเรียกกลุ่มของตนว่า มุวะหิดูน (Muwahidoon) แปลว่า กลุ่มผู้ยึดมั่นในเอกภาพของอัลลอฮ
2. ประวัติความเป็นมาของวะฮาบียะฮ
เป็นที่ทราบกันดีว่าในตอนต้นของศตวรรษที่ 12 แห่งฮิจเราะฮศักราช (หรือคริสต์ศตวรรษที่ 18) ศาสนาและศิลธรรมในโลกอิสลามเสื่อมทรามลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคาบสมุทรอาระเบีย
กล่าวคือ มุสลิมส่วนใหญ่ได้พากันละทิ้งหลักการอิสลาม ละทิ้งหลักความเชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า และ ละทิ้งการปฏิบัติตามแนวทางของศาสนทูต มูฮัมมัด ( ศ็อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) พวกเขาได้หันไปหลงไหล คลั่งไคล้อยู่กับเรื่องไสยศาสตร์ เวทมนต์คาถา และการตั้งภาคีต่อพระผู้เป็นเจ้าในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคารพสักการะ และการขอความช่วยเหลือและคุ้มครองจากสุสานของบุคคลต่างๆ ที่ตัวเองเห็นว่าเป็นผู้วิเศษและศักดิ์สิทธิ
ในท่ามกลางสภาพสังคมที่ฟอนเฟะและโง่งมงายนี้ได้มีบุคคลผู้หนึ่งถือกำเนิดขึ้นที่ตำบลอัลอุยัยนะฮ ในเมืองนัจด (เมืองริยาด) ในปี ค.ศ. 1703 บุคคลผู้นั้นคือ มูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบ เขามาจากตระกูล อุลามาอ (ผู้ทรงความรู้) ได้ศึกษาวิชาความรู้จากบิดา และสามารถท่องจำอัลกุรอานทั้งเล่มได้เมื่อมีอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น และแม้ว่าเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็นปราชญ์ผู้มากด้วยความรู้ แต่เขาก็ตัดสินใจออกเดินทางเพื่อแสวงหาความรู้เพิ่มเติมยังหัวเมืองต่าง ๆ เช่น มักกะฮ มะดีนะฮ บัศเราะฮ บัฆดาด และเมาศิลในอิรัก เมื่อเขาได้กลับมาสู่มาตุภูมิ และได้เรียกร้องเชิญชวนผู้คนให้กลับสู่แนวทางอันบริสุทธิ์ของอิสลาม เขาก็ได้รับการต่อต้านจากบรรดาผู้ปกครองซึ่งพากันหวาดระแวงกับอิทธิพลของเขาที่จะสั่นสะเทือนต่ออำนาจการ
ปกครองของพวกตน เขาต้องถูกขับไล่ออกจากดินแดนที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน แต่เขาก็ยังยืนหยัดในอุดมการณ์อันมั่นคงที่จะฟื้นฟูและกอบกู้สังคมให้กลับไปสู่หลักการอันบริสุทธิ
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ มูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบ ก็คือ เมื่อท่านเดินทางมาที่เมือง อัดดัรอียะฮ ซึ่งเป็นเมืองในการ
ปกครองของตระกูล สะอูด (ราชวงศ์สะอูดในปัจจุบัน) ท่านก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากอามีร มูฮัมมัด อิบนสะอูด เจ้าเมืองคนหนึ่งซึ่งตกลงใจที่จะร่วมงานกับเขาในการฟื้นฟูและเผยแผ่คำสอนของอิสลาม หลังจากนั้นไม่นานภายใต้การปกครองของ อามีร มูฮัมมัด อิบน สะอูด และการเผยแพร่คำสอนของ เชค มูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบ อย่างเอาจริงเอาจัง วิถีชีวิตและความเชื่อของมุสลิมที่อยู่ภายใต้การปกครองก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากความโง่งมงายในหลักการอิสลาม และหลงผิดในการตั้งภาคี (ชิรก) และการนิยมชมชอบในอุตริกรรมทางศาสนา
(บิดอะฮ) ุกคนถูกเรียกร้องเชิญชวนสู่การเคารพภักดีต่ออัลลอฮองค์เดียวและยึดมั่นในคำภีร์อัลกุรอานและแบบอย่างคำสอนของ
ศาสนทูตมูฮัมมัด ( ศ็อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ทุกคนหันมานมาซรวมกัน ปฏิบัติศาสนกิจรวมกัน และศึกษาศาสนาร่วมกัน สัญลักษณ์ต่างๆ ของการตั้งภาคีและสิ่งไม่ดีงามต่างๆ ได้ถูกทำลายสิ้น สังคมอาหรับได้กลับคืนสู่ความอยู่เย็นเป็นสุขอีกครั้งหนึ่ง และที่สำคัญก็คือได้กลับมาสู่การดำเนินตามหลักคำสอนดั้งเดิมอันบริสุทธิที่ถูกปกปักษ์รักษา ถ่ายทอด และฟื้นฟูโดยนักปราชญ์ชาว สลัฟ (นักปราชญ์ในยุค 300 ปีแรก)
การที่มูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบได้รับการอุ้มชูอุปถัมป์จากราชสำนักของราชวงศ์สะอูดทำให้เขามีฐานอำนาจในการดำเนินกิจการต่างๆ จนบรรลุผล ฐานอำนาจดังกล่าวทำให้ดูเหมือนว่าเขามีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อกลุ่มสองกลุ่มที่แพร่หลายอยู่ในขณะนั้น คือ
1) กลุ่มซูฟีย์ (Sufism) คือ กลุ่มนิยมความลี้ลับและมีความคลั่งไคล้ในวิชาตะเซาวุฟ (การฝึกจิตภายใน) มูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบเห็นว่า วิชานี้เป็นยาเสพติดที่มอมเมาคนในสมัยนั้นให้เฉื่อยชา ไม่เข้มแข็ง และเป็นวิชาที่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดและบิดเบนออกไปจากเดิมมากมาย ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ สิ่งอุตริทางศาสนาใหม่ๆ ที่กลุ่มซูฟีย์ได้สร้างขึ้น เช่น การเคารพ สักการะนักบุญ หลุมฝังศพและสัญลักษณ์ต่างๆ การเคารพ บูชาบรรพบุรุษหรือขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ตายไปแล้ว หรือขอให้ผู้ที่ตายช่วยเป็นสื่อหรือนายหน้าติดต่อกับพระเจ้า การสร้างมัสยิดหรืออาคารเหนือหลุมฝังศพและการประดับตบแต่งหลุมฝังศพ เป็นต้น
2) กลุ่มมุตะกัลลิมีน (Mutakallimin) คือกลุ่มนักเทววิทยาที่เน้นการเอาเหตุผลทางปัญญาและทางตรรกวิทยามาอธิบายหลักความเชื่อในอิสลามจนทำให
้เกิดความคลาดเคลื่อนและเบี่ยงเบนจากความถูกต้อง มูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบเห็นเช่นเดียวกันว่า วิชาอิลมุลกะลาม Elmulkalam (เทววิทยา) เป็นยาเสพติดอีกชนิดหนึ่งที่ มอมเมาคนในสมัยนั้นให้หมกมุ่นอยู่กับการถกเถียงในเรื่องที่ไม่ควรถกเถียง แล้วในที่สุดก็ทำให้พวกเขาหลงทาง
มูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบได้ทำการคัดค้านทั้งสองกลุ่มอย่างแข้งกร้าว และได้ใช้ฐานอำนาจทางการปกครองสนับสนุนและจัดการกับสิ่งอุตริทางศาสนาอย่างได้ผล แน่นอนการกระทำของเขาได้ไปขัดผลประโยชน์และทำลายความเชื่อของคนที่โง่งมงายในสิ่งเหล่านั้นอย่างรุนแรง คนเหล่านั้นจึงตั้งตนเป็นศัตรู และพยายามชักชวนและประกาศให้คนทั่วไปเชื่อว่าสิ่งที่เขาสอนนั้นเป็นศาสนาใหม่ที่
มิใช่อิสลาม และกล่าวหาเขาว่าเป็นผู้สร้างลัทธิใหม่สำหรับผู่ที่ปฏิบัติตามคำสอนของมูฮัมมัด อิบน อับดุลวะฮาบนั้นก็ถูกคนกลุ่มดังกล่าวประณามว่าเป็นพวกนอกศ่าสนา และเรียกพวกเขาว่า วะฮาบียะฮ (Wahabism)
ในที่สุด
3. แนวคิดที่สำคัญของวะฮาบียะฮ
สำหรับแนวคิดที่สำคัญของวะฮาบียะฮนั้นพอสรุปเป็นหัวข้อได้ดังนี้ คือ
1) ยึดแนวของอิมามอะฮมัด อิบน ฮัมบัล (มัซฮับฮัมบะลีย์) ในเรื่องปลีกย่อยต่างๆ แต่ไม่ยึดแนวของ อิมามคนใดเป็นเกณฑ์แน่นอนในเรื่องหลักพื้นฐานทั่วไป
2) เรียกร้องให้เปิดประตูการอิจติฮาด (หมายถึงการวิเคราะห์และวินิจฉัยหลักฐานต่างๆ ทางศาสนาเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อบัญญัติของปัญหาต่างๆ ) หลังจากที่ได้ถูกปิดมานานตั้งแต่กรุงแบกแดดแตกจากการโจมตีของพวกมองโกลในปี ฮ.ศ. 656 (ค.ศ.1235)
3) ยืนยันในความจำเป็นที่จะต้องยึดถือคัมภีร์อัลกุรอานและสุนนะฮ(แบบฉบับของศาสนทูตมูฮัมมัด)
4) ยึดมั่นในแนวทางของอะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ (นิกายสุนนีย์)
5) เรียกร้องสู่หลักเตาฮีด (การให้เอกภาพต่อพระผู้เป็นเจ้า) อันบริสุทธิตามแนวทางของกัลญานชนมุสลิมในยุคแรกของอิสลาม
6) เน้นหลักเตาฮีดอูลูฮียะฮ (การให้เอกภาพต่อพระผู้เป็นเจ้าในด้านการเคารพสักการะ) และหลักเตาฮีดอัสมาอ
วัศศิฟาต (การให้เอกภาพต่อพระผู้เป็นเจ้าด้านนามชื่อ และคุณลักษณะของพระองค์)
7) ต่อต้านสิ่งเหลวไหลและอุตริกรรมทางศาสนาที่แพร่หลายในสังคมอันเนื่องจากความโง่งมงายของผู้คน
8) คัดค้านกลุ่มฏอรีเกาะฮซูฟีย์และกลุ่มมุตะกัลลีมีน และสิ่งอุตริทางศาสนาที่กลุ่มเหล่านี้สร้างขึ้นมา
9) ต่อต้านการทำชีริก (ตั้งภาคี) ต่ออัลลอฮทุกประเภท
10) ต่อต้านการตักลีด (การตามอย่างคนตาบอด) และเรียกร้องสู่การให้ความรู้และการค้นคว้าหาหลักฐาน
4. อิทธิพลและการแพร่หลายของกลุ่มวะฮาบียะฮ
ภายใต้การอุปถัมป์ของราชวงศ์สะอูดทำให้วะฮาบียะฮแพร่หลายในซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะภายหลังการสถาปนาราชอาณาจักรโดยกษัตริย์อับดุลอาซีซ อิบน อับดิรรอหมาน อาลิสะอูด ในปี ฮ.ศ. 1351 (ค.ศ.1930) และต่อมาวะฮาบียะฮได้แพร่หลายอย่างรวดเร็วยังกลุ่มประเทศต่างๆ ในโลกมุสลิมผ่านทางคณะต่างๆ ที่เดินทางเข้ามาเพื่อประกอบพิธีอัจย์และอุมเราะฮ และนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาในมัสยิดหะรอมทั้งสองแห่งที่นครมักกะฮและนครมะดีนะฮ และที่เข้ามาศึกษาในโรงเรียน มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาอื่นๆ ในซาอุดิอาระเบียและประเทศใกล้เคียง ปัจจุบันรัฐบาลซาอุดิอาระเบียให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนมุสลิมทั่วโลกเป็นจำนวนมากเพื่อเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สอนเกี่ยวกับอิสลามศึกษาและภาษาอาหรับทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก บัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ในทุกส่วนของโลกเพื่อทำหน้าที่อบรมสั่งสอนจริยธรรมอิสลาม และเรียกร้องเชิญชวนสู่หลักการอันบริสุทธิ นอกเหนือจากนั้นแล้วรัฐบาลซาอุดิอาระเบียยังได้สนับสนุนงานด้านสังคมสงเคราะห์ การเผยแผ่อิสลามในรูปแบบต่างๆ แก่มุสลิมทั่วโลกอีกด้วย อาทิ เช่น การสร้างมัสยิดและสถาบันการศึกษา การจัดอบรมภาษาอาหรับและวิทยาการอิสลาม การพิมพ์อัลกุรอานและความหมายอัลกุรอานเป็นภาษาต่างๆ กว่า 150 ภาษา (รวมทั้งภาษาไทย) และการช่วยเหลือสงเคราะห์คนยากจนและผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ เป็นต้น ดังกล่าวมานี้แสดงให้เห็นถึงการแผ่ขยายของวะฮาบียะฮภายใต้การสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาลของซาอุดิอาระเบีย สำหรับอิทธิพลของวะฮาบียะฮนั้นอาจกล่าวได้ว่า วะฮาบียะฮหรือสะละฟียะฮในชื่อทางวิชาการได้มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อการฟื้นฟูอิสลามและการปฏิรูปสังคมมุสลิม
ให้กลับไปสู่หลักคำสอนดั้งเดิมอันบริสุทธิ ขบวนการฟื้นฟูอิสลามที่เกิดขึ้นในระยะหลังในแอฟริกา ในอียิปต์ และในชมพูทวีป ล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลและอานิสงส์จากแนววะฮาบียะฮด้วยกันทั้งสิ้น
บทส่งท้าย
วะฮาบียะฮ อาจถูกมองว่าเป็นแนวใหม่หรือลัทธิใหม่ในอิสลาม แต่นั่นเป็นความเข้าใจผิด เพราะใน วะฮาบียะฮไม่มีคำสอนใดที่ออกนอกหลักการอิสลาม ตรงกันข้ามวะฮาบียะฮเรียกร้องผู้คนให้กลับไปสู่หลักคำสอนดั้งเดิมอันบริสุทธิของอิสลาม ขบวนการวะฮาบียะฮจึงไม่แตกต่างไปจากขบวนการฟื้นฟูอิสลามอื่นๆในแนวอะฮลิสสุนนะฮ (สุนนีย์) ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแต่อย่างใด การกล่าวหาว่าขบวนการวะฮาบียะฮเป็นขบวนการก่อการร้ายเท่ากับเป็นการกล่าวหาคำสอนของอิสลามอันบริสุทธิ
ว่าเป็นคำสอนที่ต้องการให้ผู้ปฏิบัติมีความคิดหรือมีพฤติกรรมอย่างนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ รัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ นายกทักษิณ ซึ่งเข้าใจปัญหามุสลิมค่อนข้างดีควรจะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยข่าวกรองทั้งในพื้นที่และในระดับชาต
ิให้เข้าถึงข้อเท็จจริงอันถูกต้องก่อนที่จะนำเสนอต่อสาธารณชน เพราะเรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มิเช่นนั้นแล้วจะก่อให้เกิดความยุ่งยากอย่างใหญ่หลวงเกินกว่าจะแก้ไขได้
[color=#444444]วัสลามมูอะลัยกุมวาเราะห์มาตุลลอฮฺ วาบารอกาตุ[/color] |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
lana มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 08/05/2004 ตอบ: 1
|
ตอบ: Tue Jun 08, 2004 8:38 am ชื่อกระทู้: |
|
|
คุณเซาดะห์คะ ไม่ทราบว่า หนังสือพิมพ์ที่เขียนว่า "วะฮาบีตัวอันตราย" เป็นหนังสือพิมพ์อะไรคะ ฉบับวันที่เท่าไหร่ หัวข้ออยู่ตรงไหนคะ ช่วยแจงรายละเอียดด้วยค่ะ ญะซากัลลอฮฺค่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Tue Jun 08, 2004 11:30 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เป็นอันตรายกับพวกทำชิริก
เป็นอันตรายกับ พวกชอบทำอุตริ บิดอะฮฺ _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
วะฮาบีย์ มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 10/06/2004 ตอบ: 31
|
ตอบ: Thu Jun 17, 2004 10:14 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมหรืออันตราย
_________________
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nazis มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: Mar 14, 2004 ตอบ: 5 ที่อยู่: เทศบาลนครยะลา
|
ตอบ: Wed Jun 23, 2004 5:38 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผู้ใดไม่รู้จริง อย่าได้เดาในสิ่งที่เป็นอคตินะครับครวกลับไปวิเคราะห์ใหม่นะครับ......อ่านบทความที่คุณซลัฟตอบกระทู้ให้เที่ยงแท้ก่อนที่จะพูดอะไรออกไปนะครับ....... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Apr 23, 2005 2:22 pm ชื่อกระทู้: Re: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
มีบางคน บางกลุ่ม พยายาม ยัดเยียดความชั่วราย ให้กับกลุ่มวะฮบี ที่จริง เรียกว่า กลุ่ม สะละฟียะฮ คือ กลุ่มคนที่เรียกร้องไปสู่ แนวทางสะละฟุสสอลิห คือ กิตาบุ้ลลอฮ และสุนนะฮ นั้นเอง
กลุ่มที่ใส่ร้าย คือ กลุ่มผู้รู้ ที่หากินกับความญะฮิล(ความไม่รู้)ของชาวบ้าน ครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
อิลยาส มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/04/2005 ตอบ: 279
|
ตอบ: Sat Apr 23, 2005 2:30 pm ชื่อกระทู้: Re: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
เอ๊า......ชาวบ้านยังงอีกหรอ จาไปชอบฝั่งไหน ควรจาชังใครยังแยกแยะไม่ออกอีกหรอ (สะกิดๆ)คุณอาซาน ช่วยหาบทความ เกี่ยวกับ วะลาอฺ และ บะรออฺ เอามาเล่าสู่กันฟังมั่งสิ เด่วชาวบ้านไปกันใหญ่อีก
เป็นมัสอูลิยะฮฺของคุณเต็มๆเรยนะนั่น |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sat Apr 23, 2005 6:59 pm ชื่อกระทู้: Re: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
บทความที่ส่งเสริมให้เข้าใจในกิตาบุ้ลลอฮและสุนนะฮนบี มีมากมาย ในเว็บมุสลิมทั้งภาษาไทย อาหรับ และภาษาอังกฤษ ชาวบ้านบางส่วนถูกผู้รู้เจ้าเลห่เอากะลา ไปครอบปัญญาเอาไว้ ซึ่งก็ลำบาก กว่าจะหลุดมาได้ ลำบากมาก กับกระแสต่อต้านทางสังคม
กลุ่มที่เขากล่าวหาว่า พวกวะฮบี กลุ่มนี้ เขาต่อต้าน เรื่อง บิดอะฮ เพราะบิดอะฮ อันตรายมาก บิดอะฮคือ ศัตรู อัสสุนนะฮ ร้ายแรงยิ่งกว่า ยาเสพติดเสียอีก ทุกวันศุกร เวลาอ่านคุฎบะฮ นบี จะเตือนให้ระวัง บิดอะฮ ทุกครั้ง คุณลองไปดูคุฏบะฮนบี ผู้รู้เจ้าเล่ห(บางคนนะ ท่านผู้ชม) หากินกับการทำบิดอะฮ ของชาวบ้าน จึงต่อต้าน สุดฤทธิ์ ใส่ร้ายสารพัด เรามาหาวิธี การเปิดกะลาที่ครอบปัญญาชาวบ้านกันเถอะครับ คุณ อิลยาส |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
อิลยาส มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/04/2005 ตอบ: 279
|
ตอบ: Sun Apr 24, 2005 1:14 am ชื่อกระทู้: Re: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
มันเป็นยุค อิหม่ามฟาซิก อาบิดญาฮิล คุณอาซานอดทนหน่อยนะครับ ก้อเหมือนกับ อิหม่าม อัษเษารีย์อธิบายเรืองรูแย้แหละครับ ฟิตนะมันตามมาถึงหน้าบ้านแร้ว โอว์.....น่ากัวๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
asan ผู้ดูแลกระดานเสวนา
เข้าร่วมเมื่อ: 21/03/2005 ตอบ: 3165
|
ตอบ: Sun Apr 24, 2005 8:53 pm ชื่อกระทู้: Re: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
عن أبي ذر رضي الله عنه قال : أمرني رسول الله صلى الله عليه وسلم بسبع
وفيه : [أمرني أن أقول الحق وإن كان مُرّاً
أمرني أن لا أخاف في الله لومة لائم
] الحديث رواه أحمد برقم 21415 وغيره بإسناد صحيح
รายงานจากอบีซัรริน ร.ด กล่าวว่า"ท่านรซูลลุ้ลลอฮ ศอลฯได้สั่งให้ข้าพเจ้าปฏิบัติ เจ็ดประการ...และในเจ็ดประการนั้นคือ (ท่านสั่งให้ข้าพเจ้าพูดความจริง แม้ว่าจะขมขื่นก็ตาม ท่านสั่งข้าพเจ้าไม่ให้กลัวการกล่าวหาของผู้คน ในเรื่องของอัลลอฮ จนจบหะดิษ- รายงานโดยอะหมัด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mahdisaudi มือเก๋า
เข้าร่วมเมื่อ: 03/06/2004 ตอบ: 381
|
ตอบ: Fri Apr 29, 2005 3:09 am ชื่อกระทู้: Re: วาฮาบีตัวอันตราย |
|
|
อยากให้มีคนดีอย่างท่าน มุหัมมัด อับดุลวะฮาบเยอะๆ จะได้ฟื้นฟูสังคมมุสลิมเรา ให้ดีกว่านี้ _________________ อัลฟะละกี
เรื่องดาราศาตร์ก็มีกล่าวในอัลกุรอาน
&ใช้ดาราศาสตร์เพื่อช่วยให้ง่ายสดวกในการดูเดือน
มิใช่เพื่อมาทดแทนการดูเดือน |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
เด็กน้อยๆ มือใหม่
เข้าร่วมเมื่อ: 13/03/2007 ตอบ: 3
|
ตอบ: Mon Jul 16, 2007 12:43 am ชื่อกระทู้: |
|
|
โอ้โห คุณ cavaso
ประวัติแจ๋วแฮะ ที่ท่านโพสต์มา ขออนุญาตินำไปใช้อ้างอิงบ้างนะครับ
ยาซากัลลอฮูค็อยร็อนครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|