อนุรักษ์มรดกอิสลาม

[sunnahkung]

ขอคั่นรายการนอกเรื่องนิดนึงนะครับ

คุณอับดุลลอฮ์ครับวันก่อนบทความของอ.ปราโมทย์ตอนที่ 2 ที่คุณถามผม

2-3วันที่แล้วผมเจอท่านที่หาดใหญ่ถามแล้วท่านบอกว่าส่งมาให้ทางทีมงานอ.มุรีดมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาแล้วก็ไม่รู้ว่าทางทีมงานคงลืมหรืออย่างไร? ลองถามอ.มุรีดดูซิครับ สำหรับตัวผมได้อ่านหนังสือของท่านเล่มนั้นแล้วคับ

[dabdulla]

ครับ

[abu-zubair]

อัสลามุอลัยกุม

บังอะซัน และพี่น้องทุกท่าน

ผมได้ใช้เวลาพิจารณษทำการเสนอบทความในกระทู้นี้แล้ว พบว่ามันจะยังคงไม่จบสิ้น เนื่องด้วยกรอบแห่งการรับความรู้เราต่างไม่เหมือนกัน ด้วยกับการพยายามเสนอให้กระจ่างชัดยิ่งทำให้เกิดการไม่เข้าใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ หรืออาจทำให้งุนงง ซึ่งผมเห็นว่าทางออกที่ดีนั้นคงจะหลีกหนีไม่พ้นการศึกษา เพราะว่ายิ่งศึกษามากเท่ารัยย่อมมีต้นทุนในความเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น อีกอย่างผมเองเป็นคนที่เรียบเรียงไม่ค่อยดี และไม่มีเวลาด้วย หากพี่น้องมีโอกาสที่จะเรียนรู้จงเรียนรู้ทำตัวเป็นลูกศิษย์นักศึกษาผู้แสวงหาความรู้ อย่าทำตัวเป็นลูกหาบซึ่งเขาเหล่านั้นแสวงหาพลพรรคเท่านั้นเอง ท้ายนี้หากว่าผมได้สะสางการงานลุล่วงจริงก็จะได้เข้ามาอ่านและทักทายพี่น้องอินชาอัลลอฮฺ

ท้ายนี้ฝากแอดเดรสของเวปอะห์ลุซซุนนะฮฺให้บังอะสันเพราะมันจะเป็นตัวแจงได้ดีกว่าผมอย่างแน่นอน
วะบิลาฮิตเตาฟิก วัลฮิดายะฮฺ

อัสลามุอลัยกุม วะเราะหฺมะตุลลอฮฺ วะบะร่อกาตุฮฺ

http://sahab.net/home/index.php?site=book&book_id=348

http://sahab.net/home/index.php?site=book&book_id=376

http://www.binbaz.org.sa/mat/2776

http://www.binbaz.org.sa/mat/33

http://www.binbaz.org.sa/mat/9507

http://www.binbaz.org.sa/mat/2760

[dabdulla]

คุณอบูซุเบร และ ทุกท่าน

ผมอยากให้ทุกคนอ่าน และ เน้นให้มากๆว่า เราควรจะเป็นคนเรียน ที่สนใจในความรู้
และนำเสนอข้อมูล แบบอาจารย์อบูซุเบร

ถึงแม้ว่าเวปนี้ จะมีทัศนะที่แตกต่าง แต่เราก็ถูกหลอมรวมอยู่บนอากีดะห์อันเดียวกัน
ไม่ว่าจะทำสิ่งใด ผู้มีอำนาจในการตัดสิน ก็คืออัลลอฮ ซบ ไม่ใช่เรา


ผมอาจจะไม่ใช่เจ้าของเวป แต่อยากบอกว่า บ้านหลังนี้ ต้อนรับ คุณอบูซุเบร พี่ชายของผม
เสมอ และขอ พระองค์ทรงตอบแทน ในวิชาความรู้ที่ได้นำเสนอ และ มารยาทอันดีงามของท่าน

[asan]

ครับ ยินดีต้อนรับคุณ อบูซุบีร เสมอ ทัศนะแตกต่าง ไม่ได้ทำให้ความเป็นพี่น้องแตกสลาย
ในกรณีการโอนบุญให้ผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานอนุญาตจากเจ้าของบุญนั้น เรามีความเห็นต่างกัน

ผมมีมุมมองดั่งคำพูดของเช็คอัลบานีย์ ที่กล่าวว่า

ما يفعله الولد الصالح مِن الأعمال الصالحة ؛ فإن لوالديه مثلَ أجره ، دون أن ينقص من أجره شيء ؛ لأن الولد مِن سعيهما وكسبهما ، والله عز وجل يقول { وأن ليس للإنسان إلا ما سعى } [ النجم / 39 ] ، وقال رسول الله صلى الله عليه وسلم : " إن أطيب ما أكل الرجل من كسبه ، وإن ولده من كسبه " .


“สิ่งที่บุตรที่ดีได้กระทำมัน จากบรรดาการงานที่ดี ,แท้จริง บิดามารดาของเขาได้รับเหมือนกับการตอบแทน(ผลบุญ)ของเขา โดยไม่ได้น้อยไปกว่า การตอบแทนของเขา(ที่เขาได้รับ)แม้แต่น้อย เพราะว่า บุตร เป็นส่วนหนึ่งจากความอุตสาหะและการขนขวายของเขาทั้งสอง และอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งทรงเลิศยิ่ง ตรัสว่า (และมนุษย์จะไม่ได้รับ นอกจากสิ่งที่เขาขนขวายไว้เท่านั้น) – อัลนัจญมฺ/39 และรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า “ แท้จริงสิ่งที่ดีที่สุด คือ สิ่งที่บุคคลได้รับประทานจากการขนขวายของเขา และ แท้จริง บุตรของเขา เป็นส่วนหนึ่งจากการขนขวายของเขา” (1) – อะหกามุลญะนาอิซ หน้า 216

......................

(1) أخرجه أبو داود ( 2 / 108 ) والنسائي ( 2 / 211 ) والترمذي ( 2 / 287 ) وحسَّنه .. وله شاهد من حديث عبد الله بن عمرو ، رواه أبو داود وابن ماجه وأحمد ( 2 / 179 ، 204 ، 214 ) بسندٍ حسنٍ .
..............

[sunnahkung]

ใครทราบประวัติเบื้องลึกเบื้องหลังของal-azhary บ้างใคร่อยากรู้ด่วน

[Mr.shot]

จะทำสารคดีหรือครับ ก็ดีครับ เอาคนดีๆมาทำตัวอย่าง

[sunnahkung]

[Mr.shot]

คุณน้องsangkungใจเย็นหน่อยซิครับ น้องเริ่มมีอาการช้อตหัวทั่งแล้วนะครับ "ทุกๆอาการช้อตหัวทั่งต้องเข้าคอร์สศรีธัญญา"

[asan]

อัลอัซอารีย์ได้อ้างว่า

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวว่า

قَالَ الشَّافِعِيُّ وَالأَصْحَابُ يُسْتَحَبُّ أَنْ يقَرَؤُوْنَ عِنْدَهُ شًيْئاً مِنَ القُرْأَنِ قَالُوْا فَإِنْ خَتَمُوْا القُرْأنَ كُلَّهُ كَانَ حَسَناً

"ท่าน อิมามอัชชาฟิอีย์และเหล่าสานุศิษย์กล่าวว่า ถือว่าชอบให้พวกเขากระทำการอ่านอัลกุรอาน ณ ที่มัยยิด(ที่ถูกฝังที่กุบูร) สักสิ่งหนึ่งจากอัลกุรอาน เหล่าสานุศิษย์กล่าวว่า ถ้าหากพวกเขาอ่านอัลกุรอานทั้งหมด(หนึ่งจบ) ก็จะเป็นการดียิ่ง" หนังสืออัลฟุตูฮาตอัรร็อบบานียะฮ์ ชัรห์ อัลอัซการ : 4/194


ขอชี้แจงว่า

อัลอัซฮารีย์ ไม่ได้อ่าน ในหนังสืออัลอัซกัร ที่ท่านอิหม่ามนะวาวีย์เองกล่าวว่า

واختلف العلماء في وصول ثواب قراءة القرآن فالمشهور من مذهب الشافعي وجماعة أنه لا يصل وذهب أحمد بن حنبل وجماعة من العلماء وجماعة من أصحاب الشافعي إلى أنه يصل

และบรรดาอุลามาอฺ(นักวิชาการ) มีความเห็นขัดแย้งกันในกรณีผลบุญการอ่านถึง(ผู้ตาย) แล้วที่แพร่หลายจากทัศนะของชาฟิอีและนักวิชาการคณะหนึ่ง ว่า แท้จริงผลบุญไม่ถึงผู้ตาย และ อะหมัด บินหัมบัล ,คณะหนึ่งจากบรรดานักวิชาการและคณะหนึ่งจากบรรดาสานุศิษย์ของชาฟิอี มีทัศนะว่า ผลบุญถึงผู้ตาย – อัลอัซกัร หน้า 40

..............

การอ้างทัศนะของอิหม่ามชาฟิอีว่า ท่านระบุว่า อ่านอัลกุรอ่านอุทิศผลบุญและ ผลบุญถึงผู้ตาย นั้น เป็นการแอบอ้างท่านอิหม่ามชาฟิอี ในสิ่งที่ท่านไม่ได้พูด

เช็ค ชุอัยบ์ อัลอัรนะอูฎ กล่าวว่า

ربما يكون المؤلف قد وهم في نسبة ذلك إليه، وأن صواب العبارة - كما ذكر هو في المجموع 5/294 ويستحب أن يمكث على القبر بعد الدفن ساعة يدعو للميت، ويستغفر له، نص عليه الشافعي واتفق عليه الأصحاب قالوا: ويستحب أن يقرأ عنده شيء من القرآن وإن ختموا القرآن كان أفضل. فهذا النص صريح في أن استحباب قراءة القرآن عند القبر هو قول الأصحاب وليس قول الشافعي

บางที่เป็นไปได้ว่า ผู้แต่งหนังสือ(หมายถึงอิหม่ามนะวาวีย์) มีความสับสนในการนำข้อความดังกล่าวไปอ้างถึงเขา(อ้างถึงอิหม่ามชาฟิอี) และแท้จริงสำนวนนี้ ดังที่ได้ระบุในหนังสืออัลมัจญมัวะ เล่ม 5 หน้า 294 ว่า “ชอบให้เขา หยุดพัก บนหลุมศพ สักครู่หนึ่ง หลังจากฝังมัยยิต โดยเขาขอดุอา,และขออภัยโทษให้แก่มัยยิต ,อัชชาฟิอีและบรรดาสานุศิษย์ที่เห็นฟ้องกับเขา ได้ยืนยันบนมันอย่างชัดเจนโดยพวกเขากล่าวว่า “ชอบให้มีการอ่านส่วนหนึ่งส่วนใดจากอัลกุรอ่าน ณ ที่หลุมศพ และถ้าหากพวกเขาอ่านอัลกุรอานทั้งหมด(หนึ่งจบ) ก็จะเป็นการประเสริฐยิ่งกว่า” (ท่านอัลอัรนะอูฏ กล่าวว่า) นี้คือ ถ้อยคำที่ชัดเจน ในการที่ชอบให้อ่านอัลกุรอ่าน ณ ที่หลุมศพ มันคือ คำพูดของบรรดาสานุศิษย์ และไม่ใช่คำพูดของอิหม่ามชาฟิอี- ดู ริยาดุศศอลิฮีน ตัครีจญอัลอัรนะอูฏ หน้า 12

………

เพราะฉะนั้น คำพูดที่ส่งเสริมให้อ่านอัลกุรอ่านที่กุบูร ไม่ใช่คำพูดของอิหม่ามชาฟิอี

ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ กล่าวว่า

ولا يحفظ عن الشافعي نفسه في هذه المسألة كلام لأن ذلك كان عنده بدعة وقال مالك ما علمت أحدا يفعل ذلك
فعلم أن الصحابة والتابعين ما كانوا يفعلونه

และไม่มีคำพูดใดๆเลย ที่รายงานมาจากตัวของชาฟิอีเอง ในประเด็นนี้ เพราะดังกล่าวนั้น(หมายถึงการอ่านอัลกุรอ่านอุทิศให้ผู้ตาย) ปรากฏว่าในทัศนะของเขา(ของอิหม่ามชาฟิอี)นั้น เป็นบิดอะฮ และมาลิก กล่าวว่า “ฉันไม่เคยทราบว่าคนหนึ่งคนใดกระทำดังกล่าว” ,ดังนั้น รู้ได้ว่า แท้จริงบรรดาเศาะหาบะฮและตาบิอีน พวกเขาไม่เคยกระทำมัน” – อิกติเฎาะอัศศิรอตุลมุสตะกีม เล่ม 1 หน้า 380

.......
والله أعلم بالصواب

[al-faruk]

[Mr.shot]

รบกวนทีมงานเว็บ ช่วยดูอาการคุณน้องอัลฟารุกหน่อย "โดนญินเข้าหรือเปล่า"

[sunnahkung]

เข้าไปดูในเว็ปซุนะฮ์สติวเด้นเห็นเขียนกระทู้ว่า "สงสารอ.ปราโมทย์" ไอ้เราก็ตกใจนึกว่าท่านเป็นอะไรไปพอเข้าไปอ่านดูแล้วก็ต้องกล่าวว่าซุบฮานัลลอฮ์....มีแต่ข้อความกระแนะกระแหนกล่าวร้าย ด่าทอท่าน วันๆไม่ทำอะไรกันแล้วหรือจ้องแต่จะสร้างฟิตนะฮ์ยัดเยียดความเท็จให้คนอื่นเค้า
al-azharyเองก็เหมือนกันท่านเป็นผู้ถึงรู้แทนที่จะกล่าวห้ามปรามหรือยุติฟิตนะฮ์ดังกล่าวแต่กลับส่งเสริม...ได้อย่างไรกันครับ?????

รายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุมัสอูด ความว่า

‏قَالَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏لَيْسَ الْمُؤْمِنُ ‏ ‏بِالطَّعَّانِ ‏ ‏وَلَا اللَّعَّانِ وَلَا ‏ ‏الْفَاحِشِ ‏ ‏وَلَا الْبَذِيءِ

"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นผู้ศรัทธา ผู้ที่ชอบตำหนิ(ผู้คนทั้งหลาย) ผู้ที่ชอบสาปแช่ง ผู้ที่ด่าทออย่างน่ารังเกียจ และผู้ที่พูดหยาบคาย" รายงานโดยท่านติรมีซีย์ 1900 ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า ฮะดิษฮะซัน(ผมคัดลอกมาจากบทความของal-azharyเองตอนที่วิภาษอ.ปราโมทย์)

[sunnahkung]

“โอ้ มหาชนเอ๋ย! พวกเจ้าจงยำเกรง พระเจ้าของพวกเจ้าเถิด
เพราะแท้จริง การสะเทือนของวันอวสานนั้น เป็นสิ่งที่ร้ายแรงยิ่งนัก”
[22:1]

[dabdulla]

อัสลามุอลัยกุม คุณซุนนะห์คุง

ผมยังไม่ได้หา บทความวิภาษ ของอาจารย์ปราโมชย์เลยครับ ถ้าหากมีอยู่ที่ท่าน
อะไรบ้าง ผมขอให้ช่วยส่งให้ผมหน่อยครับ เอาเฉพาะเรื่องนี้นะครับ ที่คุยกับอาจารย์อัซฮารีย์

ช่วงนี้ผมกำลังเตรียมงานให้กับกลุ่มอาสามุสลิมอยู่ ก็เลยยังไม่ได้เริ่มเรียบเรียงเลยครับ

อีเมล์ผมคือ d_abdullakasim@hotmail.com ครับ